The objective of this work was to s

The objective of this work was to study the effect of silica (SiO 2) and calcium carbonate (CaCO3) on compounding torque, mechanical, physical and morphological properties of cellular natural rubbers, using a conventional vulcanisation (CV). The cure temperature and time being 160°C and 7 mins respectively with oxybisbenzenesulphonylhydrazine (OBSH) as a blowing agent. The results indicated that addition of 20 phr SiO 2 in the rubber compound was the most preferable for the tensile strength, which also promoted the swelling resistance in toluene during equilibrium state. In the case of CaCO3 filler, added into the rubber compounds with 20 phr SiO2, the optimum CaCO3 content to maintain the required properties was between 20 and 30 phr. The CaCO3 above 30 phr reduced the tensile strength of the compounds due to the excessive silica and calcium carbonate contents being greater than 50 phr. In summary/the recommended mixed fillers contents for SiO2 and CaCO3 in this work were 20 phr and 20 - 30 phr, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของงานนี้คือการ ศึกษาผลของซิลิกา (SiO 2) และแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) แรงบิดผสม คุณสมบัติทางกล ทางกายภาพ และสัณฐานของมือถือยางธรรมชาติ ใช้ vulcanisation ธรรมดา (CV) รักษาอุณหภูมิและเวลา 160° C และ 7 นาทีตามลำดับ โดย oxybisbenzenesulphonylhydrazine (OBSH) เป็นตัวแทนเป่า ผลระบุว่า นอกเหนือจาก 20 phr SiO 2 ในสารประกอบยาง กว่ามากที่สุดสำหรับการต้านแรงดึง ซึ่งยัง ส่งเสริมความต้านทานการบวมในระดับระหว่างสถานะสมดุล อยู่ ในกรณีของ CaCO3 ฟิลเลอร์ เสริมเพิ่มเข้าไปในสารประกอบยางกับ 20 phr SiO2, CaCO3 เนื้อหาที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณสมบัติที่ต้องถูกระหว่าง 20 และ 30 phr. CaCO3 ข้าง 30 phr ลดแรงของสารเนื่องจากซิลิกาและแคลเซียมคาร์บอเนตเนื้อหามากเกินไปกว่า 50 phr. ในสรุปการแนะนำผสมฟิลเลอร์เนื้อหา SiO2 และ CaCO3 ในงานนี้ได้ 20 phr และ 20-30 phr ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เป็นการศึกษาผลของซิลิกา (SiO 2) และแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ในการประนอมแรงบิดคุณสมบัติทางกลทางกายภาพและทางสัณฐานวิทยาของยางธรรมชาติโทรศัพท์มือถือโดยใช้วัลคาไนเซชันธรรมดา (CV) รักษาอุณหภูมิและเวลาเป็น 160 ° C และ 7 นาทีตามลำดับวั (OBSH) เป็นตัวแทนเป่า ผลการวิจัยพบว่านอกเหนือจาก 20 PHR SiO 2 ในยางเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับความต้านทานแรงดึงซึ่งยังส่งเสริมการต้านทานอาการบวมในโทลูอีนในช่วงสมดุล ในกรณีของ CaCO3 ฟิลเลอร์ที่เพิ่มเข้าไปในยางที่มี 20 PHR SiO2 เนื้อหา CaCO3 ที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณสมบัติที่ต้องการคือระหว่างวันที่ 20 และ 30 PHR CaCO3 กว่า 30 PHR ลดความต้านทานแรงดึงของสารเนื่องจากการมากเกินไปซิลิกาและแคลเซียมคาร์บอเนตเนื้อหาเป็นมากกว่า 50 PHR ในการสรุป / แนะนำเนื้อหาฟิลเลอร์ผสม SiO2 และ CaCO3 ในงานนี้ 20 PHR และ 20-30 PHR ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาผลกระทบของซิลิกา ( SiO 2 ) และแคลเซียมคาร์บอเนต ( CaCO3 ) ในการบิด , เชิงกล , สมบัติทางกายภาพและลักษณะทางสัณฐานวิทยาของยางธรรมชาติด้วยโทรศัพท์มือถือ ใช้แบบเดิม ( CV ) การรักษาอุณหภูมิและเวลาเป็น 160 ° C และ 7 นาทีตามลำดับกับ oxybisbenzenesulphonylhydrazine ( obsh ) เป็นเป่าตัวแทน ผลการศึกษาพบว่า นอกเหนือจาก 20 phr SiO 2 ในสารประกอบยางมากที่สุดดีกว่า เพื่อความแข็งแรง ซึ่งการต่อต้านรัฐบวมโทลูอีนในสมดุล ในกรณีของ CaCO3 filler เพิ่มลงไปในสารประกอบยาง 20 phr SiO2 , เนื้อหาที่เหมาะสม ใช้เพื่อรักษาคุณสมบัติที่ต้องการคือระหว่าง 20 และ 30 phr . มี CaCO3 เกิน 30 phr ลดแรงดึงของสารประกอบจากซิลิกาและแคลเซียมคาร์บอเนต มีปริมาณเกินกว่า 50 phr . สรุป / แนะนำเนื้อหาและผสมสาร SiO2 ใช้ในงานนี้ จำนวน 20 phr และ 20 - 30 phr ตามลำดับ