Evolution and systematicsOn the bas

Evolution and systematics

On the basis of evidence from the fossil order Lipostraca, and the Upper Cambrian species Rehbachiella kinnekullensis, the anostracan line apparently split off at a very early stage from the rest of the Branchiopoda, about 500 million years ago. Fairy shrimps are widely considered the most primitive living crustaceans. Currently, scientists count eight families in two suborders within the Anostraca. This number is lower than the 11 families listed in older reference works. The change in taxonomy is the result of molecular investigations, which led researchers to group the families Artemiidae and Parartemiidae together to form the suborder Artemiina; and combine the families Chirocephalidae, Branchinectidae, Thamnocephalidae, Branchipodidae, Tanymastigidae, and Streptocephalidae to form the suborder Anostracina. DNA analysis also showed that the (sub)arctic genera Polyartemia and Polyartemiella, which have 17 and 19 pairs of limbs respectively as opposed to the usual 11, do not necessarily represent the most primitive anostracans. Rather, these genera may have resulted from mutations in homeobox genes, which are DNA sequences whose function is to divide an embryo into bands of tissue that will develop into specific organs. In females of the genus Parartemia, the eleventh pair of limbs may be reduced in size or completely missing.
The ancestral form Rehbachiella is known from horizontally banded limestone nodules found in the Orsten formation on the Baltic shore of Sweden. It has a rather large (more than 11) number of limbs, but no or few free abdominal segments. Unlike modern Anostraca, Rehbachiella had paired but sessile (located within the head) eyes. Even in extant fairy shrimps, however, rare cyclopic (one-eyed) mutants occasionally occur. The primitive ancestral anostracan may thus have had two sessile eyes that merged into a single median eye, which separated again at a later stage of evolution into two eyes on stalks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิวัฒนาการและอนุกรมวิธานของตามหลักฐานจากฟอสซิลสั่ง Lipostraca และพันธุ์ยุคแคมเบรียนบน Rehbachiella kinnekullensis บรรทัด anostracan ชัดแยกออกในขั้นตอนต้นมากของ Branchiopoda ประมาณ 500 ล้านปี กุ้งนางฟ้ากันอย่างแพร่หลายว่ากุ้งอาศัยอยู่ดั้งเดิมมากที่สุด ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์จำนวน 8 ครอบครัวสอง suborders ใน Anostraca หมายเลขนี้จะต่ำกว่าครอบครัว 11 ที่แสดงรายการในการทำงานอ้างอิงเก่า การเปลี่ยนระบบภาษีเป็นผลของการตรวจสอบระดับโมเลกุล ซึ่งนำวิจัยสู่กลุ่มครอบครัว Artemiidae และ Parartemiidae กันแบบ suborder Artemiina และรวมครอบครัว Chirocephalidae, Branchinectidae, Thamnocephalidae, Branchipodidae, Tanymastigidae และ Streptocephalidae แบบ suborder Anostracina วิเคราะห์ดีเอ็นเอยังแสดงให้เห็นว่า ที่ขั้วโลกเหนือ (ย่อย) สกุล Polyartemia และ Polyartemiella ซึ่งมีคู่ที่ 17 และ 19 ของแขนขาตามลำดับเมื่อเทียบกับ 11 ปกติ ไม่ถือเป็น anostracans แห่ง ค่อนข้าง สกุลเหล่านี้อาจมีผลจากการกลายพันธุ์ในยีน homeobox ซึ่งมีลำดับดีเอ็นเอที่มีฟังก์ชั่นคือการ แบ่งตัวอ่อนเป็นวงของเนื้อเยื่อที่จะพัฒนาเป็นอวัยวะเฉพาะ ในตัวเมียสกุล Parartemia คู่สิบเอ็ดของแขนขาอาจจะลดขนาด หรือขาดหายไปอย่างสมบูรณ์แบบฟอร์มของบรรพบุรุษ Rehbachiella เรียกว่าจากก้อนหินปูนแถบแนวนอนที่พบในการก่อ Orsten บนฝั่งทะเลบอลติกประเทศสวีเดน มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่แขนขา แต่ไม่มี หรือน้อยฟรีส่วนท้อง (มากกว่า 11) จำนวน ต่างจากสมัย Anostraca, Rehbachiella มีคู่ แต่ลำ (อยู่ภายในหัว) ตา แม้ในกุ้งนางฟ้าที่ยังหลงเหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม การกลายพันธุ์หายาก cyclopic (one-eyed) บางครั้งเกิดขึ้น Anostracan ของบรรพบุรุษดั้งเดิมอาจดังได้มีตาลำที่สองที่รวมไว้ในเดียวเฉลี่ยตา ซึ่งแยกออกอีกครั้งในระยะหลังของวิวัฒนาการเป็นสายตาสองก้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และวิวัฒนาการของระบบบนพื้นฐานของหลักฐานจากใบสั่งฟอสซิล Lipostraca และ kinnekullensis บน Cambrian ชนิด Rehbachiella บรรทัด anostracan เห็นได้ชัดว่าแยกออกจากกันในช่วงเริ่มต้นมากจากส่วนที่เหลือของ Branchiopoda ประมาณ 500 ล้านปีที่ผ่านมา กุ้งนางฟ้าได้รับการพิจารณาอย่างกว้างขวางกุ้งที่อยู่อาศัยดั้งเดิมที่สุด ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์นับแปดครอบครัวในสอง suborders ภายใน Anostraca ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 11 ครอบครัวที่ระบุไว้ในผลงานอ้างอิงเก่า การเปลี่ยนแปลงในอนุกรมวิธานเป็นผลมาจากการสืบสวนของโมเลกุลซึ่งนำนักวิจัยให้กับกลุ่มครอบครัวและ Artemiidae Parartemiidae ร่วมกันในรูปแบบหน่วย Artemiina นั้น และรวมครอบครัว Chirocephalidae, Branchinectidae, Thamnocephalidae, Branchipodidae, Tanymastigidae และ Streptocephalidae ในรูปแบบหน่วย Anostracina การวิเคราะห์ดีเอ็นเอยังแสดงให้เห็นว่า (ย่อย) อาร์กติกจำพวก Polyartemia และ Polyartemiella ที่มี 17 และ 19 คู่ของแขนขาตามลำดับเมื่อเทียบกับปกติ 11 ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนของ anostracans ดั้งเดิมที่สุด แต่จำพวกเหล่านี้อาจมีผลมาจากการกลายพันธุ์ในยีน homeobox ซึ่งเป็นลำดับดีเอ็นเอที่มีฟังก์ชั่นคือการแบ่งตัวอ่อนเข้าไปในวงดนตรีของเนื้อเยื่อที่จะพัฒนาไปสู่อวัยวะที่เฉพาะเจาะจง ในเพศหญิงของสกุล Parartemia คู่ที่สิบเอ็ดของแขนขาอาจจะลดขนาดหรือขาดหายไปอย่างสมบูรณ์. Rehbachiella รูปแบบของบรรพบุรุษเป็นที่รู้จักจากแถบแนวนอนก้อนหินปูนที่พบในการก่อ Orsten บนชายฝั่งทะเลบอลติกสวีเดน แต่ก็มีค่อนข้างใหญ่ (มากกว่า 11) จำนวนของแขนขา แต่ไม่มีหรือไม่กี่กลุ่มที่ท้องฟรี ซึ่งแตกต่างจากที่ทันสมัย ​​Anostraca, Rehbachiella ได้จับคู่ แต่นั่ง (ตั้งอยู่ภายในศีรษะ) ตา แม้จะอยู่ในกุ้งนางฟ้าที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่ Cyclopic หายาก (ตาเดียว) การกลายพันธุ์เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว anostracan บรรพบุรุษดั้งเดิมอาจทำให้มีสองตานั่งที่ผสานเข้าตาแบ่งเดียวซึ่งแยกออกจากกันอีกครั้งในระยะต่อมาของวิวัฒนาการเข้าไปในดวงตาทั้งสองข้างบนก้าน