Regal Dominion Associates Ltd. regi

Regal Dominion Associates Ltd. registered in Hong Kong, provides a market service to supply energy related commodities to established industrial and domestic distribution networks within South East Asia through her subsidiaries companies

We provide a supply management service to clients looking to establish new supply chains, as well as, established clients looking to expand and provide new services to their existing base.







map





2


Marker Focus

Our main focus is in the industrial and domestic markets through established contract relations in supply, distribution and operations. We also service Vietnam, Cambodia, Laos, Korea, China, Thailand and Indonesia among others.

Central and West Asia
Central and West Asia’s energy demand is projected to increase from 222.9 MTOE in 2005 to 416.9 MTOE in 2030, growing at an annual rate of 2.5% through 2030. Diverse economic development levels, industry structure, and climate conditions in Central and West Asia result in wide variations in per capita energy demand, ranging

from Afghanistan’s 0.12 TOE in 2030 to Kazakhstan’s 5.19 TOE. Central and West Asia will maintain its position as a net exporter of energy over the outlook period, exporting about 231.9 MTOE of energy in 2030 compared with 111.7 MTOE in 2005.

East Asia
East Asia’s primary energy demand will increase from 2,058.8 MTOE in 2005 to 3,776.6 MTOE in 2030, at an annual growth rate of 2.5%. East Asia may dominate the

total energy demand in Asia and the Pacific in 2030, at 53.3% of the total.

The bulk of the energy share in East Asia will be taken up by the PRC, which is projected to account for 86.9% in 2030, vs. 83.5% in 2005. East Asia’s net energy import dependency will increase substantially over the outlook

period, which is particularly true for oil, where import dependency will increase from 61.5% in 2005 to 78.1% in 2030.

The Pacific
Energy demand in the Pacific is projected to triple from 3.0 MTOE in 2005 to 9.0 MTOE in 2030, growing at an annual rate of 4.5%. Papua New Guinea will account for more than 70.1% of the sub-region’s TPED in 2030,

increasing from 54.0% in 2005. Papua New Guinea and Timor-Leste are expected to expand natural gas production for export purposes, while the sub-region will have to rely on imports for meeting its oil needs.

South Asia
South Asia’s primary energy demand will increase from 582.1 MTOE in 2005 to 1,264.3 MTOE in 2030, with an average annual growth rate of 3.2%.India will continue to account for the bulk of the energy share in South Asia, at 92.7% in 2030, nearly unchanged from 92.4% in 2005. South Asia’s growing energy demand will have to be met by imports. Oil import dependency, in particular, is expected to increase substantially, from 73.0% in 2005 to 90.9% in 2030.

Southeast Asia
Growing at an annual rate of 2.8%, Southeast Asia’s primary energy demand will increase from 492.1 MTOE in 2005 to 988.2 MTOE in 2030. Oil will account for the largest share at 38.7% of primary energy demand in 2030. More than half of incremental oil demand growth will come from the transport sector. Net oil import dependency of this sub-region will increase from 29.6% in 2005 to 71.9% in 2030, as production from Indonesia, Malaysia, and Viet Nam may grow slowly compared with the pace of demand growth

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รีกัลเองร่วม จำกัดจดทะเบียนในฮ่องกง Hong ให้ตลาดบริการจัดหาพลังงานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อกระจายอุตสาหกรรม และภายในประเทศก่อตั้งเครือข่ายภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทางบริษัทในเครือบริษัทของเธอ เราให้บริการจัดการจัดหาลูกค้าที่ต้องการสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ เป็น สร้างลูกค้าที่มองหา การขยายบริการใหม่กับฐานของพวกเขาที่มีอยู่ แผนที่ 2เครื่องหมายเน้นเรามุ่งอยู่ในตลาดภายในประเทศ และอุตสาหกรรมผ่านสัญญาที่สร้างความสัมพันธ์ในการจัดหา จัดจำหน่าย และการดำเนินงาน เรายังบริการเวียดนาม กัมพูชา ลาว เกาหลี จีน ไทย และอินโดนีเซียในหมู่ผู้อื่นเอเชียกลาง และตะวันตกกลางและพลังงานของเอเชียตะวันตกต้องที่คาดว่าจะเพิ่มจาก 222.9 MTOE ใน 2005-416.9 MTOE ในปี 2030 การเจริญเติบโตในอัตรา 2.5% ถึงปี 2030 การประจำปี ตั้งแต่ระดับการพัฒนาเศรษฐกิจที่หลากหลาย โครงสร้างอุตสาหกรรม และสภาพอากาศกลางและเอเชียตะวันตกผลในรูปแบบที่หลากหลายในความต้องการพลังงานต่อหัวจากเท้า 0.12 ของอัฟกานิสถานในปี 2030 จรดเท้า 5.19 ของคาซัคสถาน กลางและเอเชียตะวันตกจะรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกสุทธิเป็นพลังงานระยะ outlook ส่ง MTOE 231.9 เกี่ยวกับพลังงานในปี 2030 เมื่อเทียบกับ 111.7 MTOE ในปี 2005เอเชียตะวันออกความต้องการพลังงานหลักของเอเชียตะวันออกจะเพิ่มขึ้นจาก 2,058.8 MTOE ใน 2005-3,776.6 MTOE ในปี 2030 ที่มีอัตราเติบโตรายปีของ 2.5% เอเชียตะวันออกอาจครองtotal energy demand in Asia and the Pacific in 2030, at 53.3% of the total.The bulk of the energy share in East Asia will be taken up by the PRC, which is projected to account for 86.9% in 2030, vs. 83.5% in 2005. East Asia’s net energy import dependency will increase substantially over the outlookperiod, which is particularly true for oil, where import dependency will increase from 61.5% in 2005 to 78.1% in 2030.The PacificEnergy demand in the Pacific is projected to triple from 3.0 MTOE in 2005 to 9.0 MTOE in 2030, growing at an annual rate of 4.5%. Papua New Guinea will account for more than 70.1% of the sub-region’s TPED in 2030,increasing from 54.0% in 2005. Papua New Guinea and Timor-Leste are expected to expand natural gas production for export purposes, while the sub-region will have to rely on imports for meeting its oil needs.South AsiaSouth Asia’s primary energy demand will increase from 582.1 MTOE in 2005 to 1,264.3 MTOE in 2030, with an average annual growth rate of 3.2%.India will continue to account for the bulk of the energy share in South Asia, at 92.7% in 2030, nearly unchanged from 92.4% in 2005. South Asia’s growing energy demand will have to be met by imports. Oil import dependency, in particular, is expected to increase substantially, from 73.0% in 2005 to 90.9% in 2030.Southeast Asiaเติบโตในอัตรา 2.8% เป็นรายปี ความต้องการพลังงานหลักของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นจาก 492.1 MTOE ใน 2005-988.2 MTOE ในปี 2030 น้ำมันจะบัญชีสำหรับหุ้นที่ใหญ่ที่สุดที่ 38.7% ของความต้องการพลังงานขั้นต้นในปี 2030 เจริญเติบโตของอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งจะมาจากภาคการขนส่ง พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันสุทธิของอนุภูมิภาคนี้จะเพิ่มขึ้นจาก 29.6% ในปี 2005 71.9% ในปี 2030 เป็นผลิตจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศเวียดนามอาจเติบโตช้าเมื่อเทียบกับก้าวของการเติบโตของความต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Regal ปกครอง Associates Ltd. ที่จดทะเบียนในฮ่องกงให้บริการตลาดการจัดหาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในการจัดตั้งเครือข่ายการกระจายอุตสาหกรรมและในประเทศที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่าน บริษัท ย่อยของเธอเราให้บริการจัดการอุปทานให้กับลูกค้าที่มองหาเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่เป็นรวมทั้งลูกค้าที่จัดตั้งขึ้นที่ต้องการขยายและให้บริการใหม่ไปยังฐานที่มีอยู่ของพวกเขา. แผนที่2 Marker มุ่งเน้นหลักของเราอยู่ในตลาดอุตสาหกรรมและในประเทศผ่านความสัมพันธ์ที่ทำพันธสัญญาในการจัดหาการจัดจำหน่ายและการดำเนินงาน นอกจากนี้เรายังให้บริการเวียดนามกัมพูชาลาวเกาหลี, จีน, ไทยและอินโดนีเซียหมู่คนอื่น ๆ . กลางและเอเชียตะวันตกภาคกลางและเอเชียตะวันตกของความต้องการพลังงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 222.9 Mtoe ใน 2005-416.9 Mtoe ในปี 2030 เติบโตในอัตราประจำปีของ 2.5% ในปี 2030 ผ่านความหลากหลายในระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจโครงสร้างอุตสาหกรรมและสภาพภูมิอากาศในภาคกลางและเอเชียตะวันตกผลในรูปแบบที่กว้างในการต่อหัวความต้องการพลังงานมากมายจากอัฟกานิสถาน0.12 TOE 2030 ในคาซัคสถาน TOE 5.19 ภาคกลางและเอเชียตะวันตกจะรักษาตำแหน่งเป็นผู้ส่งออกสุทธิของพลังงานในช่วงแนวโน้มการส่งออกประมาณ 231.9 Mtoe ของพลังงานใน 2030 เมื่อเทียบกับ 111.7 Mtoe ในปี 2005 เอเชียตะวันออกเอเชียตะวันออกของความต้องการพลังงานหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 2,058.8 Mtoe ในปี 2005 เพื่อ 3,776.6 Mtoe ในปี 2030 ที่อัตราการเติบโตปี 2.5% เอเชียตะวันออกอาจครองความต้องการพลังงานทั้งหมดในเอเชียและแปซิฟิกในปี 2030 ที่ 53.3% ของทั้งหมด. กลุ่มของหุ้นพลังงานในเอเชียตะวันออกจะถูกนำขึ้นมาจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งคาดว่าจะคิดเป็น 86.9% ในปี 2030 เทียบกับ 83.5% ในปี 2005 พลังงานสุทธิของเอเชียตะวันออกพึ่งพาการนำเข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงแนวโน้มระยะเวลาที่เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับน้ำมันที่พึ่งพาการนำเข้าจะเพิ่มขึ้นจาก61.5% ในปี 2005-78.1% ในปี 2030 แปซิฟิกมีความต้องการพลังงานในแปซิฟิกคาดว่าจะสามจาก 3.0 Mtoe ใน 2005-9.0 Mtoe ในปี 2030 เติบโตในอัตราปีละ 4.5% ปาปัวนิวกินีจะบัญชีสำหรับมากกว่า 70.1% ของภูมิภาคย่อยของ tped ในปี 2030 เพิ่มขึ้นจาก 54.0% ในปี 2005 ปาปัวนิวกินีและติมอร์เลสเตที่คาดว่าจะขยายการผลิตก๊าซธรรมชาติสำหรับวัตถุประสงค์ในการส่งออกในขณะที่อนุภูมิภาคจะ ต้องพึ่งพาการนำเข้าสำหรับตอบสนองความต้องการน้ำมัน. เอเชียใต้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของความต้องการพลังงานหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 582.1 Mtoe ในปี 2005 เพื่อ 1,264.3 Mtoe ในปี 2030 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 3.2% .India จะยังคงบัญชีสำหรับกลุ่มของ ส่วนแบ่งการใช้พลังงานในภูมิภาคเอเชียใต้ที่ 92.7% ในปี 2030 เกือบไม่เปลี่ยนแปลงจาก 92.4% ในปี 2005 การเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ความต้องการพลังงานจะต้องพบกับการนำเข้า การพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 73.0% ในปี 2005-90.9% ในปี 2030 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโตในอัตราประจำปี 2.8% ความต้องการพลังงานหลักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นจาก 492.1 Mtoe ใน 2005-988.2 Mtoe ในปี 2030 น้ำมันจะบัญชีสำหรับหุ้นที่ใหญ่ที่สุดที่ 38.7% ของความต้องการพลังงานหลักในปี 2030 มากกว่าครึ่งหนึ่งของการเจริญเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะมาจากภาคการขนส่ง การพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันสุทธิของภูมิภาคนี้ย่อยจะเพิ่มขึ้นจาก 29.6% ในปี 2005-71.9% ในปี 2030 ขณะที่การผลิตจากประเทศอินโดนีเซียมาเลเซียและเวียดนามอาจเติบโตช้าเมื่อเทียบกับการก้าวของการเติบโตของความต้องการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระราชอำนาจ Associates Ltd . ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง ให้บริการจัดหาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เพื่อสร้างเครือข่ายการกระจายอุตสาหกรรมและในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านบริษัทย่อย บริษัท ของเธอ

เราให้บริการการจัดการอุปทานเพื่อลูกค้าที่ต้องการสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ รวมทั้งสร้างลูกค้าต้องการขยายและให้บริการใหม่ที่ฐานที่มีอยู่ของพวกเขา






แผนที่









2 เครื่องหมายเน้น

เน้นหลักของเราอยู่ในอุตสาหกรรมและตลาดในประเทศผ่านสัญญาความสัมพันธ์ในการสร้างอุปทาน การกระจายและ นอกจากนี้เรายังบริการ เวียดนาม กัมพูชา ลาว เกาหลี จีน ไทย และอินโดนีเซีย ท่ามกลางคนอื่น ๆ กลาง และตะวันตก เอเชีย

กลางและความต้องการพลังงานของตะวันตก เอเชีย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 222.9 mtoe ในปี 2005 เพื่อ 416.9 mtoe ในปี 2573 เติบโตในอัตราปีละ 2.5% โดย 2030 ระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมที่หลากหลาย การพัฒนาเศรษฐกิจ และสภาพภูมิอากาศในภาคกลางและตะวันตก เอเชีย ส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงานในหลากหลายรูปแบบรายได้ตั้งแต่

จากอัฟกานิสถาน 0.12 นิ้วเท้าใน 2030 กับคาซัคสถานเป็น 5.19 เท้าภาคกลางและตะวันตก เอเชีย จะยังคงรักษาตำแหน่งเป็นผู้ส่งออกพลังงานสุทธิช่วง Outlook ส่งออกประมาณ 231.9 mtoe พลังงานในปี 2573 เมื่อเทียบกับ 111.7 mtoe 2005


เอเชียตะวันออกเอเชียตะวันออกการความต้องการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นจาก 2058.8 mtoe ในปี 2005 เพื่อ 3776.6 mtoe ในปี 2573 ที่อัตราการเติบโตประจำปีของ 2.5 % เอเชียตะวันออกอาจจะครอบงำ

พลังงานทั้งหมดของความต้องการในเอเชียและแปซิฟิกในปี 2573 ที่ 53.3 % ของทั้งหมด

เป็นกลุ่มของพลังงานที่ใช้ในเอเชียตะวันออกจะถูกนำขึ้นโดยจีน ซึ่งคาดว่าจะบัญชีสำหรับ 134 % ในปี 2573 และ 83.5 ล้านบาทในปี 2548 เอเชียตะวันออกนำเข้าพึ่งพาพลังงานสุทธิจะเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่า Outlook

ระยะเวลา ซึ่งเป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการพึ่งพาน้ำมันที่นำเข้าจะเพิ่มขึ้นจาก 615% ในปี 2005 เพื่อ 78.1 % ในปี 2030 .

ความต้องการพลังงานแปซิฟิก
ในเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะสามเท่า ในปี 2548 จาก 3.0 mtoe 9.0 mtoe ในปี 2573 เติบโตในอัตราปีละ 4.5 % ปาปัวนิวกินีจะบัญชีสำหรับมากกว่าร้อยละ 70.1 ภูมิภาคย่อยของ tped ในปี 2573

เพิ่มจาก 54.0 ล้านบาทในปี 2548 ประเทศปาปัวนิวกีนี และติมอร์เลสเต คาดว่าจะขยายการผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อการส่งออกในขณะที่ภูมิภาคย่อยจะต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันสำหรับการประชุมความต้องการของความต้องการพลังงานหลักของ


เอเชียใต้เอเชียใต้จะเพิ่มขึ้นจาก 582.1 mtoe ในปี 2005 เพื่อ 1264.3 mtoe ในปี 2573 โดยเฉลี่ยอัตราการเติบโต 3.2% อินเดียจะยังคงบัญชีสำหรับความจุของพลังงานที่ใช้ในภาคใต้ เอเชียที่ 92.7% ใน 2030 เกือบไม่เปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 92.4 ใน 2005เอเชียใต้เพิ่มขึ้น ความต้องการพลังงานจะต้องถูกพบโดยการนำเข้า การพึ่งพาน้ำมันนำเข้า โดยเฉพาะ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากร้อยละ 73.0 ปี 90.9 % ในปี 2030 .

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เติบโตในอัตราปีละ 2.8% , ความต้องการใช้พลังงานหลักของเอเชียจะเพิ่มขึ้นจาก 492.1 mtoe ในปี 2005 เพื่อ 988.2 mtoe ใน 2030 น้ำมันจะบัญชีสำหรับหุ้นใหญ่ที่สุดที่ 387 % ของความต้องการพลังงานหลักใน 2030 มากกว่าครึ่งหนึ่งของการเจริญเติบโตของความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะมาจากภาคการขนส่ง Net oil import dependency of this sub-region will increase from 29.6% in 2005 to 71.9% in 2030, as production from Indonesia, Malaysia, and Viet Nam may grow slowly compared with the pace of demand growth