My great-grandparents lived in Penn

My great-grandparents lived in Pennsylvania coal country. My great-grandfather worked for the coal mine. My great-grandmother raised 7 children. In 1908, when she started having kids, my great-grandmother got one dairy cow for her backyard. The cow’s name was Betsy. She got Betsy so she would have milk to feed her family.
Betsy made enough milk so my great-grandmother’s family of 9 had fresh milk every day. In fact, she made enough milk that there was extra for some of the neighbors. Sometimes she would trade milk for a few fresh eggs from the neighbor who had chickens. Most of the time, the milk was sold to the neighbors for a nickel per quart. Anyone could come over with a quart-sized bucket and a nickel, and my great-grandmother would fill their bucket with fresh milk. As it turns out, my great-grandmother wasn’t all that picky about the size of the bucket; she would just fill up whatever bucket she was given. And the neighbors started to figure this out. Pretty soon, the buckets got bigger and bigger, but the nickel stayed the same.

Cows need to have a baby to make milk (just like people do). And after a while, their milk dries up. So about 2-3 months after Betsy had her calf, it was time to get her pregnant again. My great-grandmother would take Betsy up the road to the neighbor who had a bull. Betsy would live there with the bull for a few weeks, until they were sure she was pregnant, and then they would bring her back home. My great-grandmother would still walk up the road to milk Betsy every day.

For most of the year, there would be fresh milk every day. Cows are pregnant for 9 months. In that last month, they work very hard to finish growing the baby inside them, so they don’t make very much milk. When Betsy was close to giving birth, she would “dry up,” or not produce any milk. During this time, my family would go into town to the market to get milk (like anyone else who didn’t have a cow handy). Since they only had an icebox (not a refrigerator), they had to go to the market every day or every other day to get food for that day’s meals. They couldn’t just buy a gallon of milk and keep it around for 2 weeks, like we can today!

After the calf was born, it would stay with Betsy and nurse for the first 2-3 days so it could get colostrum from its mom. (Colostrum is the “first milk” – it is chock full of antibodies and other good proteins for the calf, but isn’t very good for people to drink.) Then the calf would be sold so Betsy could provide milk for the family.

Once all the kids were grown enough that they didn’t need quite so much milk, Betsy was sold to be butchered. As part of the sale, my great-grandmother got some of the meat to feed her family. (Remember, they didn’t have a refrigerator or a freezer, so they could only keep what they would use in the next day or two.)

This doesn’t sound so bad, does it? A backyard cow as a pet, and a way to provide a little bit of income for the family. Milk for the neighbors at only $0.05 per quart. (That’s $0.20 per gallon!) You could get fresh raw milk every day. You knew where the milk was coming from, you knew the family who raised the cow, you could see where she lived, and you might have raised some of the food that she ate. Your kids could probably see Betsy when they walked to school every morning. Sure, it sounds wonderful – idyllic, even. And some parts of this were great. Stick with me for the next few weeks, and we’ll talk about Betsy and my great-grandmother’s “dairy” a little bit more. We’ll compare this to how we get milk today, and take a look at how things have changed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉันทวดอาศัยอยู่ในประเทศรัฐเพนซิลวาเนียถ่านหิน ดีปู่ของฉันทำงานถ่านหินเหมือง ฉันดียายเลี้ยงเด็ก 7 ใน 1908 เมื่อเธอเริ่มมีเด็ก ดียายของฉันมีวัวนมหนึ่งสำหรับสนามหลังบ้านของเธอ ชื่อของวัวทรงได้ เธอมีทรงเพื่อที่เธอจะมีน้ำนมเลี้ยงครอบครัวทรงทำนมพอเพียงเพื่อให้ครอบครัวของฉันดียายของ 9 มีนมสดทุกวัน ในความเป็นจริง เธอได้นมเพียงพอว่า มีพิเศษสำหรับบางบ้าน บางครั้งเธอจะค้านมไข่สดกี่จากเพื่อนบ้านที่มีไก่ ส่วนใหญ่เวลา นมถูกขายไปแล้วไปบ้านสำหรับนิกเกิลต่อ quart ทุกคนสามารถมีมากกว่าถังที่ขนาด quart และนิกเกิล และยายดีของฉันจะกำหนดกลุ่มของพวกเขากับนมสด เป็นมันเปิดออก ดียายของฉันไม่ picky ที่เกี่ยวกับขนาดของกลุ่ม เพียงเธอจะระบุค่ากลุ่มสิ่งมี และบ้านเริ่มคิดนี้ สวยเร็ว ถังใส่ใหญ่ และใหญ่กว่า แต่นิกเกิลอยู่เหมือนกันวัวต้องมีลูกให้นม (เหมือนคนทำ) และหลัง นมความแห้งขึ้น ดังนั้นประมาณ 2-3 เดือนหลังจากที่ทรงได้ลูกของเธอ มันเป็นเวลาที่จะตั้งครรภ์เธออีกครั้ง ยายดีของฉันจะใช้ทรงขึ้นอยู่กับเพื่อนบ้านที่มีตำรวจ ทรงจะอยู่มี มีวัวไม่กี่สัปดาห์ จนกว่าพวกเขาแน่ใจว่า เธอตั้งครรภ์ แล้ว พวกเขาจะนำเธอกลับบ้าน ยายดีของฉันจะยังคงเดินค่านมทรงทุกวันสำหรับส่วนใหญ่ของปี จะมีนมสดทุกวัน แม่โคจะตั้งครรภ์ 9 เดือน ในเดือนสุดท้าย ทำงานหนักมากเพื่อสิ้นสุดการเจริญเติบโตทารกภายในพวกเขา ดังนั้นพวกเขาไม่ทำนมมาก เมื่อทรงถูกปิดเพื่อ ให้กำเนิด เธอจะ "แห้ง" หรือผลิตนมใด ๆ ไม่ ในช่วงเวลานี้ ครอบครัวจะไปเข้าเมืองไปตลาดจะได้รับน้ำนม (เช่นใครที่ไม่มีวัวมีประโยชน์) ตั้งแต่พวกเขามีการ icebox (ไม่เย็น) เท่านั้น พวกเขาจะไปตลาดทุกวันหรือวันเว้นวันจะได้รับอาหารมื้อวันที่ พวกเขาเพียงไม่ซื้อแกลลอนนม และให้รอบ 2 สัปดาห์ เช่นเราสามารถวันนี้หลังจากเกิดน่อง มันจะอยู่กับทรงและพยาบาล 2-3 วันแรกเพื่อให้สามารถได้รับ colostrum จากแม่ของ (Colostrum เป็น "แรกนม" – เป็นไข้ทั้งแอนตี้และโปรตีนอื่น ๆ ดีสำหรับน่อง แต่ไม่ดีสำหรับคนที่ดื่ม) แล้วน่องจะขายเพื่อทรงสามารถให้น้ำนมสำหรับครอบครัวเมื่อเด็กทั้งหมดได้ปลูกพอที่พวกเขาไม่ได้ต้องการนมค่อนข้างมาก ทรงถูกขายไปจะแปร่ง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการขาย ดียายของฉันมีบางส่วนของเนื้อสัตว์เพื่อเลี้ยงครอบครัว (จำ มีตู้เย็นหรือตู้แช่แข็ง เพื่อให้พวกเขาเท่านั้นสามารถเก็บพวกเขาจะใช้ในวันถัดไปหรือ 2)นี้ไม่เสียงเลว ไม่มัน วัวบ้านสัตว์เลี้ยง และวิธีการให้หน่อยรายได้สำหรับครอบครัว นมสำหรับเพื่อนบ้านที่เพียง $0.05 ต่อ quart (นั่นคือ $0.20 ต่อแกลลอน) คุณสามารถรับวัตถุดิบนมสดทุกวัน คุณรู้ซึ่งนมที่ได้มาจาก คุณรู้ว่าครอบครัวคนเลี้ยงวัว คุณสามารถดูที่เธออาศัยอยู่ และคุณอาจได้ยกบางส่วนของอาหารที่เขากิน เด็กของคุณคงได้เห็นทรงได้เมื่อพวกเขาเดินไปโรงเรียนทุกเช้า แน่นอน มันเสียงยอดเยี่ยม – งดงาม แม้ และบางส่วนนี้ได้ดี ติดกับฉันสำหรับถัดไปไม่กี่สัปดาห์ และเราจะพูดคุยเกี่ยวกับทรงและยายดีของฉันของ "นม" เล็กน้อยบิตเพิ่มเติม เราจะเปรียบเทียบว่าเราได้รับนมวันนี้ และพิจารณาว่ามีการเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทวดของฉันอาศัยอยู่ในรัฐเพนซิลวาเนียประเทศถ่านหิน ฉันปู่ทำงานให้กับเหมืองถ่านหิน ฉันทวดยก 7 เด็ก ในปี 1908 เมื่อเธอเริ่มมีเด็กที่ดียายของฉันมีโคนมหนึ่งสำหรับสนามหลังบ้านของเธอ ชื่อของวัวเป็นเบ็ตซี่ เธอได้เบ็ตซี่เพื่อที่เธอจะมีนมที่จะเลี้ยงครอบครัวของเธอ.
เบ็ตซี่ทำนมเพียงพอเพื่อครอบครัวของฉันยายทวดของ 9 มีนมสดทุกวัน ในความเป็นจริงที่เธอทำนมพอที่จะทำให้มีความพิเศษสำหรับบางส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน บางครั้งเธอจะซื้อขายนมไข่สดจากเพื่อนบ้านไม่กี่คนที่มีไก่ ส่วนใหญ่เวลาที่นมก็ขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านสำหรับนิกเกิลต่อควอร์ ทุกคนสามารถมากับถังวอร์ขนาดและนิกเกิลและทวดของฉันจะเติมถังของพวกเขาด้วยนมสด ในฐานะที่เป็นมันจะเปิดออกที่ดียายของฉันไม่ได้ทั้งหมดที่จู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับขนาดของถัง; เธอก็จะเติมให้เต็มถังสิ่งที่เธอได้รับ และเพื่อนบ้านเริ่มที่จะคิดออกนี้ พริตตี้เร็ว ๆ นี้มีถังที่ใหญ่กว่าและใหญ่กว่า แต่นิกเกิลอยู่เหมือนกัน. วัวต้องการที่จะมีลูกที่จะทำให้นม (เช่นเดียวกับคนทำ) และหลังจากที่ในขณะที่นมของพวกเขาแห้งขึ้น ดังนั้นประมาณ 2-3 เดือนหลังจากที่เบ็ตซี่มีลูกวัวของเธอมันเป็นเวลาที่จะได้รับของเธอตั้งครรภ์อีกครั้ง ยายที่ดีของฉันจะใช้เวลาเบ็ตซี่ขึ้นไปบนถนนกับเพื่อนบ้านที่มีวัว เบ็ตซี่จะมีชีวิตอยู่ที่นั่นกับวัวไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจนกว่าพวกเขาจะแน่ใจว่าเธอกำลังตั้งท้องและจากนั้นพวกเขาจะพาเธอกลับบ้าน ฉันทวดจะยังคงเดินขึ้นไปบนถนนนมเบ็ตซี่ทุกวัน. สำหรับส่วนมากของปีจะมีนมสดทุกวัน วัวกำลังตั้งครรภ์ 9 เดือน ในเดือนที่ผ่านมาว่าพวกเขาทำงานหนักมากที่จะเสร็จสิ้นการเจริญเติบโตของทารกในพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงไม่ให้นมมาก เมื่อเบ็ตซี่ได้ใกล้เคียงกับการให้กำเนิดเธอจะ "แห้ง" หรือไม่ได้ผลิตนมใด ๆ ในช่วงเวลานี้ครอบครัวของฉันจะไปเข้าไปในเมืองไปยังตลาดที่จะได้รับนม (เหมือนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีวัวที่มีประโยชน์) เนื่องจากพวกเขามีเพียง icebox (ไม่ใช่ตู้เย็น) พวกเขาจะต้องไปที่ตลาดทุกวันหรือทุกวันอื่น ๆ จะได้รับอาหารสำหรับมื้ออาหารในวันนั้น พวกเขาไม่สามารถเพียงแค่ซื้อแกลลอนของนมและเก็บมันไว้รอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเราสามารถวันนี้! หลังจากลูกวัวเกิดก็จะอยู่กับเบ็ตซี่และพยาบาลเป็นครั้งแรก 2-3 วันจึงจะได้รับนมน้ำเหลืองจากมัน แม่ (Colostrum คือ "นมแรก" - มันเป็นหนุนเต็มของแอนติบอดีและโปรตีนที่ดีอื่น ๆ สำหรับลูกวัว แต่ไม่ดีมากสำหรับคนที่จะดื่ม.) จากนั้นลูกวัวจะขายเพื่อให้เบ็ตซี่สามารถให้นมสำหรับครอบครัวเมื่อเด็กทุกคนเป็นผู้ใหญ่พอที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องนมค่อนข้างมากเบ็ตซี่ถูกขายจะถูกเชือด เป็นส่วนหนึ่งของการขายที่ดียายของฉันมีบางส่วนของเนื้อสัตว์ที่จะเลี้ยงครอบครัวของเธอ (อย่าลืมว่าพวกเขาไม่ได้มีตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งเพื่อให้พวกเขาเท่านั้นที่สามารถให้สิ่งที่พวกเขาจะใช้ในวันถัดไปหรือสอง.) นี้ไม่ได้เสียงที่เลวร้ายไม่ได้หรือไม่ สนามหลังบ้านวัวเป็นสัตว์เลี้ยงและวิธีที่จะให้นิด ๆ หน่อย ๆ ของรายได้สำหรับครอบครัว นมสำหรับเพื่อนบ้านในราคาเพียง $ 0.05 ต่อควอร์ (นั่นคือ $ 0.20 ต่อแกลลอน!) คุณจะได้รับน้ำนมดิบสดใหม่ทุกวัน คุณรู้ว่านมที่ได้รับมาจากคุณรู้ว่าครอบครัวที่เลี้ยงวัวที่คุณจะได้เห็นที่เธออาศัยอยู่และคุณอาจได้ยกบางส่วนของอาหารที่เธอกิน เด็กของคุณอาจจะได้เห็นเบ็ตซี่เมื่อพวกเขาเดินไปโรงเรียนทุกเช้า แน่นอนว่ามันเสียงยอดเยี่ยม - งดงามแม้ และบางส่วนของเรื่องนี้ได้ดี ติดกับฉันที่ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้และเราจะพูดคุยเกี่ยวกับเบ็ตซี่และดียายของฉัน "นม" นิด ๆ หน่อย ๆ เราจะเปรียบเทียบวิธีการที่เราได้รับนมในวันนี้และจะดูที่ว่าสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทวดของผมอยู่ในประเทศถ่านหินเพนซิลเวเนีย คุณปู่ที่ดีของฉันทำงานในเหมืองถ่านหิน ยายฉันยก 7 เด็ก ในปี 1908 เมื่อเธอเริ่มมีเด็ก ยายฉันมีวัวสำหรับสวนหลังบ้านของเธอ ชื่อของวัว คือ เบทซี่ เธอมีเบ็ตซี่ เพื่อที่เธอจะได้นมเพื่อเลี้ยงครอบครัว
เบทซี่ทำนมเพียงพอดังนั้นของฉันคุณยายที่ดีของครอบครัว มี นม สด ทุกวัน ในความเป็นจริง เธอทำนมพอเพียงมีพิเศษสำหรับบางส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน บางครั้งเธอจะค้านมไม่กี่ไข่ไก่สดจากเพื่อนบ้านที่มีไก่ ส่วนมากของเวลา , นมถูกขายให้กับเพื่อนบ้านขายต่อที่อยู่ ใครสามารถมากับ quart ขนาดถังและนิกเกิลคุณยายของฉันดีจะเติมถังของพวกเขาด้วยนมสด กลับกลายเป็นว่า คุณยายใหญ่ไม่ได้ทั้งหมดที่จู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับขนาดของถัง เธอเพิ่งเติมถังที่เธอได้รับ และเพื่อนบ้านก็เริ่มหาทางออก อีกไม่นาน ถังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่นิกเกิลอยู่เหมือนกัน

วัวต้องมีเด็กทำนม ( เหมือนคน )และหลังจากที่ในขณะที่นมแห้งขึ้น ดังนั้น ประมาณ 2-3 เดือนหลังเบ็ตซี่มีน่องของเธอ มันเป็นเวลาที่จะทำให้เธอท้องอีกครั้ง ยายฉันต้องใช้ซี่ขึ้นถนนเพื่อนบ้านที่มีวัว เบทซี่จะอยู่ที่นั่นกับวัวไม่กี่สัปดาห์จนกว่าพวกเขาจะแน่ใจว่าเธอท้อง แล้วเขาจะพาเธอกลับบ้านยายฉันยังเดินขึ้นถนนซี่นมทุกวัน

สำหรับส่วนใหญ่ของปี จะมีน้ำนมสดทุกวัน วัวท้อง 9 เดือน ในเดือนที่ผ่านมา พวกเขาทำงานอย่างหนักมากที่จะเสร็จสิ้นเติบโตทารกภายในพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทำให้มาก นม เมื่อซี่ใกล้จะคลอด เธอจะ " แห้ง " หรือ อย่านมแล้ว ในช่วงเวลานี้ครอบครัวของฉันจะเข้าไปในเมือง ในตลาดที่จะได้รับนม ( เหมือนคนอื่นที่ไม่ได้มีวัวสะดวก ) ตั้งแต่พวกเขามีตู้เย็น ( ตู้เย็น ) ก็ต้องไปที่ตลาดทุกวัน หรือ วันเว้นวัน ที่จะได้รับอาหารสำหรับมื้ออาหารในวันนั้น พวกเขาไม่สามารถซื้อแค่แกลลอนนม และเก็บไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ เหมือนเราวันนี้ !

หลังจากลูกวัวเกิดมัน จะ อยู่ กับ เบทซี่ และพยาบาลใน 2-3 วันแรกจึงได้รับนมน้ำเหลืองจากแม่ของมัน ( colostrum คือ " นม " ซึ่งจะหนุนเต็มสำหรับลูกวัวของแอนติบอดีโปรตีนที่ดีอื่น ๆแต่ไม่ค่อยดีสำหรับคนดื่ม ) แล้วน่องจะขายแล้วซี่สามารถให้นมสำหรับครอบครัว

เมื่อเด็กๆโตพอที่พวกเขาไม่ได้ต้องการเลยทีเดียว มากนมเบ็ตซี่ถูกขายเป็นอย่างทารุณ เป็นส่วนหนึ่งของการขาย ยายฉันมีเนื้อเพื่อเลี้ยงครอบครัว ( จำที่พวกเขาไม่ได้มีตู้เย็นหรือตู้แช่ จึงทำได้แต่เพียงสิ่งที่พวกเขาจะใช้ในวันถัดไปหรือสอง )

นี้ฟังดูดี ใช่มั้ย สวนหลังบ้านวัวเป็นสัตว์เลี้ยง และวิธีที่จะให้นิด ๆหน่อย ๆของรายได้ให้ครอบครัวนมสำหรับเพื่อนบ้านที่เพียง $ 0.05 ต่อที่อยู่ ( นั่นคือ $ 0.20 ต่อแกลลอน ! ) คุณสามารถรับน้ำนมดิบสดใหม่ทุกวัน คุณรู้ว่านมมาจาก คุณรู้จัก ครอบครัวที่เลี้ยงวัว คุณจะได้เห็นที่เธออาศัย และคุณอาจจะทำให้บางส่วนของอาหารที่เธอกิน เด็กของคุณอาจจะดูซี่ เมื่อพวกเขาเดินไปโรงเรียนทุกวัน แน่นอนมันเสียงที่ยอดเยี่ยมและงดงาม แม้ และบางส่วนของนี้มาก อยู่กับฉันสำหรับสองสามสัปดาห์ถัดไปและเราจะพูดคุยเกี่ยวกับเบทซี่และคุณยายที่ดี " โคนม " นิด ๆหน่อย ๆเพิ่มเติม เราจะเปรียบเทียบกับวิธีการที่เราได้รับนมในวันนี้และดูว่าสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง