ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับสมอง เ

ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับสมอง เป็นสิ่งที่ควบคู่กัน ซึ่งการทำงานสมองทำโดยที่ เซลล์สมองแต่ละเซลล์เชื่อมโยงต่อเนื่องกับเซลล์สมองตัวอื่น ๆ มีจำนวนเฉลี่ยประมาณหนึ่งหมื่นตัว การเชื่อมโยงส่วนใหญ่เป็นระบบและมีระเบียบที่ก็คงเป็นไปตามการกำหนดทางพันธุกรรม แต่มีอีกส่วนหนึ่งที่การเชื่อมโยงต่อเนื่องระหว่างกันที่อาจเกิดทีหลังวิวัฒนาการทีหลัง เป็นการเชื่อมต่อที่ไม่เป็นระเบียบ การส่งออกซึ่งกระแสไฟฟ้าจากเซลล์ประสาทแต่ละตัวแต่ละครั้ง ขึ้นกับผลรวมของกระแสที่รับเข้ามาจากเซลล์ตัวอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกันเหล่านั้น และกระแสที่รับเข้ามาจากเซลล์ตัวอื่น ๆ นั้น มีทั้งกระแสที่กระตุ้นหรือยับยั้ง ดังนั้นเซลล์สมองแต่ละตัวที่ส่งกระแสของตัวออกไปแต่ละครั้ง หรือด้วยความเร็วเท่าไรนั้นขึ้นกับจำนวนและความซับซ้อนของคำสั่งที่ตนได้รับ คำสั่งที่เมื่อไล่ไปถึงที่สุดแล้วบ่งบอกถึงสภาพของเซลล์ตัวอื่น ๆ ทั่วทั้งสมอง สมองเป็นส่วนที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดโดยที่ความคิดมีอยู่หลายสิ่ง จะการเกี่ยวเนื่องไปถึงการ การรับรู้สิ่งต่างๆ เมื่อมีการคิดในมุมมองต่างๆ ที่มีกระบวนการของการคิดที่เป็นขั้นเป็นตอน การเรียนรู้ สิ่งที่อยู่รอบๆ แต่ถ้าความคิดกัสมองของเราไม่มีความสัมพันธ์กันทุกอย่างที่จะทำนั้นไม่มีความสำเร็จ และเกิดการขัดแย้งกัน
ความคิดและความรู้สึกไม่เพียงเป็นสมองของเรา ความเชื่อในทางตรงกันข้ามว่าจิตใจมีจิตวิญญาณที่จะจัดขึ้นอย่างมั่นคงโดยส่วนใหญ่ของผู้ที่อยู่ในศาสนาความเชื่อว่ามีพระเจ้า จิตใจที่อาจจะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับร่างกายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีสมอง แต่ยืนยันว่าจิตใจและสมองจะไม่เหมือนกันเพราะพวกเขามีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สมองของคุณมีมวลประกอบด้วยสสารและพลังงานและสิ้นสุดการทำงานเมื่อคุณตาย ในขณะที่จิตวิญญาณของคุณมีน้ำหนักอะไรไม่อยู่ภายใต้กฎหมายทางกายภาพและรอดตาย กระบวนการทำงานของสมองที่หลักฐานเพื่อระบุตัวตนของจิตใจและสมองเท่านั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงในสมองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิต แต่บางทีอาจจะมีความสัมพันธ์มากกว่าที่จะทำให้เกิดผลกับตัวเรา และ สมองมีความสัมพันธ์กับคนที่จิตโดยไม่ต้องของสมองสาเหตุพิเศษของจิตใจ ในการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์วิธีที่ดีที่สุดที่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความสัมพันธ์มากกว่าคือ จัดการกับสมองสามารถการเปลี่ยนแปลงทางจิต และจิตวิญญาณไม่สามารถหลีกเลี่ยงหลักฐานที่เชื่อมโยงด้านดังกล่าวของจิตใจกับกระบวนการสมอง แต่พวกเขาต้องบอกว่าสมมติฐานสมองไม่ได้ด้วยตัวเองเพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับการคิด คู่ยืนยันว่าคนที่ประกอบด้วยทั้งจิตใจและร่างกายหรือจิตวิญญาณมากขึ้นโดยเฉพาะและสมอง ให้เราตอนนี้พิจารณาหลักฐานที่อาจสนับสนุนที่เรียบง่ายของจิตใจบางคนที่มีสมอง และสมองนั้นว่าเมื่อเรามีการสั่งให้คิดทำในสิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วมีความสัมพันธ์กัน และมีผลกับจิตใจของเรา ทุกอย่างนี้มีผลกับจิตใต้สำนึกว่า เมื่อทำสิ่งต่างๆ เมื่อคิดทำในสิ่งที่ไม่ดีจิตใต้สำนึกจะเป็นสิ่งที่จะเตือน ให้ทำในสิ่งที่ถูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับสมองเป็นสิ่งที่ควบคู่กันซึ่งการทำงานสมองทำโดยที่ ๆ มีจำนวนเฉลี่ยประมาณหนึ่งหมื่นตัว เป็นการเชื่อมต่อที่ไม่เป็นระเบียบ ๆ ที่เชื่อมต่อกันเหล่านั้น ๆ นั้นมีทั้งกระแสที่กระตุ้นหรือยับยั้ง ๆ ทั่วทั้งสมอง จะการเกี่ยวเนื่องไปถึงการการรับรู้สิ่งต่างๆเมื่อมีการคิดในมุมมองต่างๆ การเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบ ๆ
และ แล้วมีความสัมพันธ์กันและมีผลกับจิตใจของเราทุกอย่างนี้มีผลกับจิตใต้สำนึกว่าเมื่อทำสิ่งต่างๆ ให้ทำในสิ่งที่ถูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดกับสมองเป็นสิ่งที่ควบคู่กันซึ่งการทำงานสมองทำโดยที่เซลล์สมองแต่ละเซลล์เชื่อมโยงต่อเนื่องกับเซลล์สมองตัวอื่นจะมีจำนวนเฉลี่ยประมาณหนึ่งหมื่นตัวแต่มีอีกส่วนหนึ่งที่การเชื่อมโยงต่อเนื่องระหว่างกันที่อาจเกิดทีหลังวิวัฒนาการทีหลังเป็นการเชื่อมต่อที่ไม่เป็นระเบียบการส่งออกซึ่งกระแสไฟฟ้าจากเซลล์ประสาทแต่ละตัวแต่ละครั้งจะที่เชื่อมต่อกันเหล่านั้นและกระแสที่รับเข้ามาจากเซลล์ตัวอื่นจะนั้นมีทั้งกระแสที่กระตุ้นหรือยับยั้งดังนั้นเซลล์สมองแต่ละตัวที่ส่งกระแสของตัวออกไปแต่ละครั้งคำสั่งที่เมื่อไล่ไปถึงที่สุดแล้วบ่งบอกถึงสภาพของเซลล์ตัวอื่นจะทั่วทั้งสมองสมองเป็นส่วนที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของความคิดโดยที่ความคิดมีอยู่หลายสิ่งจะการเกี่ยวเนื่องไปถึงการการรับรู้สิ่งต่างๆที่มีกระบวนการของการคิดที่เป็นขั้นเป็นตอนการเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบๆแต่ถ้าความคิดกัสมองของเราไม่มีความสัมพันธ์กันทุกอย่างที่จะทำนั้นไม่มีความสำเร็จและเกิดการขัดแย้งกัน
ความคิดและความรู้สึกไม่เพียงเป็นสมองของเราความเชื่อในทางตรงกันข้ามว่าจิตใจมีจิตวิญญาณที่จะจัดขึ้นอย่างมั่นคงโดยส่วนใหญ่ของผู้ที่อยู่ในศาสนาความเชื่อว่ามีพระเจ้าแต่ยืนยันว่าจิตใจและสมองจะไม่เหมือนกันเพราะพวกเขามีคุณสมบัติที่แตกต่างกันสมองของคุณมีมวลประกอบด้วยสสารและพลังงานและสิ้นสุดการทำงานเมื่อคุณตายกระบวนการทำงานของสมองที่หลักฐานเพื่อระบุตัวตนของจิตใจและสมองเท่านั้นหากมีการเปลี่ยนแปลงในสมองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตแต่บางทีอาจจะมีความสัมพันธ์มากกว่าที่จะทำให้เกิดผลกับตัวเราและในการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์วิธีที่ดีที่สุดที่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความสัมพันธ์มากกว่าคือจัดการกับสมองสามารถการเปลี่ยนแปลงทางจิตแต่พวกเขาต้องบอกว่าสมมติฐานสมองไม่ได้ด้วยตัวเองเพียงพอที่จะอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับการคิดคู่ยืนยันว่าคนที่ประกอบด้วยทั้งจิตใจและร่างกายหรือจิตวิญญาณมากขึ้นโดยเฉพาะและสมองและสมองนั้นว่าเมื่อเรามีการสั่งให้คิดทำในสิ่งหนึ่งสิ่งใดแล้วมีความสัมพันธ์กันและมีผลกับจิตใจของเราทุกอย่างนี้มีผลกับจิตใต้สำนึกว่าเมื่อทำสิ่งต่างๆให้ทำในสิ่งที่ถูก