Growth predictions are falling to u

Growth predictions are falling to under 2.5% and Bank of Thailand interest rates have been slashed to 1.5% as the Thai baht enters a currency war. Economic activity in Bangkok is faltering in the face of weaker fundamentals.

The Bangkok slowdown is affecting the 14 million people, 22.2% of all Thais, who live in the Bangkok metropolitan region, a socio-economic area covering over 7,700 square kilometres. Asean's largest capital, Bangkok embodies both the best and worst of Thainess — performances of high culture and sites of renowned cultural heritage are juxtaposed with slums and gross wealth inequality.

All Thais know Bangkok can be a source of problems and solutions. For Thais from other regions, Bangkok has been both a means of earning an income and a partial solution to the problems of poverty, and, on the other hand, a source of their economic woes, especially a Byzantine bureaucracy.

In particular, the lives of those in the Northeast, where regional poverty is over 16%, have become interwoven with the lives of Bangkokians. Some northeasterners move there permanently to work in the service industries. At the same time, the World Bank has estimated that Bangkok consumes more of the northeastern provinces' taxes than it actually allocates to the region in terms of grants to local government and development projects.

This unequal interdependency breeds complacency and does not address the "Isan Problem" — the Northeast's infrastructure requirements, social inequity and political tensions.

The issue has been the focal point of Thai development planning since the late 1950s and has been a priority for both military and civilian governments. In particular, irrigation, infrastructure and education have been prioritised, with the Northeast now being home to multiple dams, a decent road network, and a flowering university system, though much still remains to be done.

In particular, there is a lack of vision, of focused development and of political stability. To address these issues, Khon Kaen is taking its future into its own hands, empowered by the 2013 Private Investment in State Undertaking Act and encouragement by the Ministries of Finance, Transport and Science.

Khon Kaen is already a hub for education, logistics and business. Moreover, it is the nexus of the North-South and East-West super-corridors designed to link Asean countries with each other and with the rest of the world.

In response, Khon Kaen people have created a private special-purpose vehicle to develop a Provincial Infrastructure Fund and raise six billion baht for a mass transit system linking the city's northern and southern limits, and connecting Khon Kaen University to the urban community.

This tram system will be Thailand's first community-driven mass transport project, and will be similar to the Bangkok Mass Transit System but with all infrastructure and track costs borne by a limited liability company.

One of the aims of the company is for Khon Kaen citizens to become shareholders as well as concessionaires via the city government. As such, they will be able to check progress against the plan with their own eyes and conduct social audits both through the regular meetings of the civic council and through networked pressure on the company to succeed.

A policy of the company is that it is rejecting any expressions of interest from politicians to remain politically unbiased. Furthermore, as well as conventional accounting, the company intends to be guided by a gross domestic happiness index and a well-being audit and is developing mutually beneficial research with KKU's faculties.

Crucially, a major international partner has been lined up, with the deal involving full technology transfer. This allows for other northeastern cities to follow similar development pathways.

Although this development is helped along by Khon Kaen's unique geopolitical position, the city has also been nationally recognised as a model of socio-cultural integration, being home to a range of mutually-respectful ethnicities, and it is a shared aspiration that Khon Kaen should develop as an economic centre.

From a national perspective, such locally-driven projects drive the engines of commerce, such as Thailand's market capitalisation, making the country more attractive to prospective inwards investors. Thus, provincial cities can grow, network and mobilise the true potential of Thailand's economy.

One year after its commencement, the Khon Kaen project provides a plan for environmentally friendly and socially responsible urban development that avoids the "spore growth" Bangkok has experienced. This vision ultimately aims to create a more prosperous Northeast and a more equitable Thailand by empowering local people to overcome bureaucratic inertia.

Of course, there are risks. Multiple levels of international auditing, including by the Stock Exchange of Thailand, together with the multi-dimensional involvement of the community, significantly reduce risks.

However, in countries which local governments are allowed to realise their own potential like Japan, the central government has guaranteed the bonds of urban development corporations, for example in Kobe. Bangkok is actually the most primate city on earth, 40 times larger than the next Thai city. Given the structure of local government and the overriding power of a Bangkok-based authority that is restrictive rather than permissive in nature, policy support is the minimum the central government can do to support the bottom-up development approach.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คาดคะเนการเจริญเติบโตจะลดลงต่ำกว่า 2.5% และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ถูกเฉือนไป 1.5% เป็นบาทไทยเข้าสู่สงครามสกุล กิจกรรมทางเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ คือ faltering หน้าพื้นฐานแข็งแกร่งการชะลอตัวของกรุงเทพมหานครมีผลต่อคนที่ 14 ล้าน 22.2% ของคนไทยทุกคน ที่อยู่กรุงเทพและปริมณฑล พื้นที่ทางเศรษฐกิจสังคมที่ครอบคลุมกว่า 7,700 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน กรุงเทพมหานครก็ส่วนและความแย่ที่สุด — ของวัฒนธรรมสูงและเว็บไซต์ของแหล่งวัฒนธรรมหรูหราอันน่า slums และอสมการรวมให้เลือกมากมายคนไทยทุกคนรู้ว่า กรุงเทพเป็นแหล่งที่มาของปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหา สำหรับคนไทยจากภูมิภาคอื่น กรุงเทพมหานครได้ทั้งวิธีการหารายได้และการแก้ไขปัญหา ความยากจน และ ในทาง กลับกัน แหล่งที่มาของ woes เศรษฐกิจของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งไบแซนไทน์อำมาตยาธิปไตยบางส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชีวิตของคนในภาคอีสาน ความยากจนในภูมิภาคกว่า 16% ได้กลายเป็นเน้น ด้วยชีวิตของกรุงเทพฯ บาง northeasterners ย้ายมีถาวรไปทำงานในอุตสาหกรรมบริการ ในเวลาเดียวกัน ธนาคารโลกได้ประเมินว่า กรุงเทพใช้มากกว่าภาษีของจังหวัดอีสานมันจะจัดสรรมาในรูปแบบของเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาและรัฐบาลท้องถิ่นความเชื่อมโยงกันนี้ไม่ขยายพันธุ์ complacency และไม่ปัญหา "อีสาน" ซึ่งความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของภาคอีสาน inequity สังคม และความตึงเครียดทางการเมืองปัญหาแล้วจุดโฟกัสไทยแผนการพัฒนาตั้งแต่ปลาย และมีความสำคัญสำหรับรัฐบาลทั้งทหาร และพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชลประทาน โครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษาได้ถูก prioritised กับภาคอีสานตอนนี้เป็นหน้าแรกหลายเขื่อน เครือข่ายถนนดี และ ระบบมหาวิทยาลัยดอก แต่ยังคงนิ่งมากจะทำโดยเฉพาะ มีการขาดวิสัยทัศน์ เน้นการพัฒนา และเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ขอนแก่นจะพิจารณาอนาคตของมือตัวเอง อำนาจ โดยทุนส่วนตัวปี 2013 ในกระทำกิจการของรัฐและให้กำลังใจ โดยทบวงกรมทาง ขนส่ง และวิทยาศาสตร์ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจ และโลจิสติกส์ ศึกษาแล้ว นอกจากนี้ มันเป็น nexus ที่เหนือใต้และตะวันออกตะวันตกซุปเปอร์ทางเดินเพื่อเชื่อมโยงประเทศอาเซียน ด้วยกัน และส่วนเหลือของโลกตอบ คนขอนแก่นได้สร้างรถวัตถุประสงค์พิเศษส่วนตัวในการพัฒนากองทุนโครงสร้างพื้นฐานจังหวัด และเพิ่ม 6 พันล้านบาทสำหรับระบบขนส่งมวลชนเชื่อมโยงเมืองภาคเหนือ และภาคใต้วงเงิน และเชื่อมต่อมหาวิทยาลัยขอนแก่นกับชุมชนเมืองระบบรถรางนี้จะมีโครงการขนส่งมวลชนขับเคลื่อนชุมชนแรกของประเทศไทย และจะคล้าย กับ ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ แต่ มีโครงสร้างพื้นฐานและติดตามต้นทุนทั้งหมดจากท่านบริษัทจำกัดหนึ่งในเป้าหมายหลักของบริษัทไว้สำหรับประชาชนจังหวัดขอนแก่นเป็น ผู้ถือหุ้นตลอดจนสุดรอบผ่านรัฐบาลเมือง เช่น พวกเขาจะได้ตรวจสอบความคืบหน้ากับแผนด้วยตาของตนเอง และตรวจสอบทางสังคม ผ่านการประชุมปกติของสภาพลเมือง และ ผ่านความดันเครือข่ายบริษัทจะประสบความสำเร็จนโยบายของบริษัทคือ มันจะปฏิเสธนิพจน์ใด ๆ ที่น่าสนใจจากนักการเมืองยังคนทางการเมือง นอกจากนี้ การบัญชีทั่วไปเป็นอย่างดี บริษัทต้องถูกแนะนำ โดยดัชนีความสุขมวลรวมภายในประเทศและการตรวจสอบสุขภาพ และมีการพัฒนาวิจัยประโยชน์ร่วมกันกับคณะของดิอำนาจ พันธมิตรนานาชาติหลักได้ถูกตั้งเรียงราย มีการจัดการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเต็ม นี้ช่วยให้เมืองอีสานอื่น ๆ ตามหลักการพัฒนาคล้ายแม้ว่าการพัฒนานี้จะช่วยไปตามตำแหน่งภูมิศาสตร์การเมืองเฉพาะจังหวัดขอนแก่น เมืองยังได้ผลงานตราบใดที่แบบจำลองของสังคมวัฒนธรรมรวม บ้าน ethnicities ซึ่งกันและกันเคารพ และมันเป็นเป็นความใฝ่ฝันร่วมกันที่จังหวัดขอนแก่นควรพัฒนาเป็นศูนย์การทางเศรษฐกิจจากมุมมองแห่งชาติ โครงการดังกล่าวภายในขับเคลื่อนขับเครื่องยนต์พาณิชย์ เช่น capitalisation ตลาดของไทย ทำให้ประเทศนักลงทุน inwards อนาคต ดังนั้น เมืองจังหวัดสามารถเจริญเติบ โต เครือข่าย และย้ำศักยภาพแท้จริงของเศรษฐกิจไทยหนึ่งปีหลังจากนั้นเริ่มดำเนินการ โครงการขอนแก่นให้แผนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบสังคมเมืองการพัฒนาที่หลีกเลี่ยง "สปอร์เจริญเติบโต" มีประสบการณ์กรุงเทพ วิสัยทัศน์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาคอีสานเจริญขึ้นและไทยเป็นธรรมมากขึ้น โดยองค์กรท้องถิ่นเพื่อเอาชนะแรงเฉื่อยราชการในที่สุดแน่นอน มีความเสี่ยง หลายระดับของการตรวจสอบระหว่างประเทศ รวม โดยตลาดหลักทรัพย์ไทย ร่วมกับการมีส่วนร่วมหลายมิติชุมชน ลดความเสี่ยงอย่างไรก็ตาม ในประเทศที่รัฐบาลท้องถิ่นได้ตระหนักถึงศักยภาพของตนเองเช่นญี่ปุ่น รัฐบาลกลางมีรับประกันพันธบัตรของการพัฒนาองค์กร เช่นในโกเบ กรุงเทพมหานครเป็นจริงมากที่สุดเจ้าคณะเมืองบนโลก 40 ครั้งมีขนาดใหญ่กว่าเมืองเชียงใหม่ต่อไป กำหนดโครงสร้างของรัฐบาลท้องถิ่นและต้องเอาชนะอำนาจของอำนาจที่กรุงเทพฯ ที่เข้มงวด มากกว่า permissive ธรรมชาติ สนับสนุนนโยบายเป็นขั้นต่ำที่รัฐบาลกลางสามารถทำได้เพื่อสนับสนุนแนวทางการพัฒนาด้านล่างขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การคาดการณ์การเติบโตจะลดลงในอัตราดอกเบี้ย 2.5% และธนาคารแห่งประเทศไทยได้ลง 1.5% เป็นสกุลเงินบาทไทยเข้าสู่สงคราม กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเขตคือไม่ในใบหน้าของปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง

ซึ่งกรุงเทพมหานครต่อ 14 ล้านคน , 22.2% ของคนไทยทุกคนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 7 , สังคม ,700 ตารางกิโลเมตร . ของอาเซียนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง กรุงเทพฯ ( ทั้งดีที่สุดและเลวร้ายที่สุดของดนตรี - การแสดงของวัฒนธรรมชั้นสูงและเว็บไซต์ของมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงเป็น juxtaposed กับชุมชนแออัดและความไม่เท่าเทียมกันความมั่งคั่งขั้นต้น

คนไทยทุกคนรู้ว่ากรุงเทพฯ สามารถเป็นแหล่งที่มาของปัญหา และการแก้ไข ชาวไทยจากภูมิภาคอื่น ๆกรุงเทพมหานครมีทั้งวิธีการของรายได้และโซลูชั่นบางส่วนให้กับปัญหาของความยากจน และบนมืออื่น ๆที่เป็นแหล่งของ woes เศรษฐกิจของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ของระบบราชการ

โดยเฉพาะชีวิตของผู้คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งความยากจนในภูมิภาคมากกว่า 16 เปอร์เซ็นต์ ได้กลายเป็น ผสมผสานกับชีวิตของคน .ชาวอีสานบางส่วนย้ายไปถาวรที่จะทำงานในอุตสาหกรรมบริการ ในเวลาเดียวกัน ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่ากรุงเทพฯจะมากกว่าของของจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาษีกว่าจริงจัดสรรไปยังภูมิภาคในแง่ของทุนเพื่อโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นและการพัฒนา

นี้ไม่เท่ากันการพึ่งพาอาศัยกันพันธุ์ความพึงพอใจและไม่มีที่อยู่ " อีสานปัญหา - ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความไม่เสมอภาคทางสังคม และความตึงเครียดทางการเมือง

ปัญหาได้รับการจุดโฟกัสของการวางแผนพัฒนาไทยตั้งแต่ปลายปี 1950 และได้รับความสำคัญ ทั้งทหารและรัฐบาลพลเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชลประทานโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษาได้รับการจัดลําดับความสําคัญกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนนี้อยู่บ้านหลายเขื่อน เครือข่ายถนนที่ดีและออกดอกระบบมหาวิทยาลัย แต่มากยังคงที่จะทำ

โดยเฉพาะ ขาดวิสัยทัศน์ มุ่งพัฒนา และเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้ ขอนแก่นจะมีอนาคตอยู่ในมือของตัวเองอํานาจโดย 2013 ส่วนการลงทุนในกิจการของรัฐฯ และให้กำลังใจ โดยกระทรวงการเงิน การขนส่ง และวิทยาศาสตร์ .

ขอนแก่นแล้วฮับการศึกษา โลจิสติกส์ และธุรกิจ นอกจากนี้ Nexus ของทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ซูเปอร์ทางเดินออกแบบที่จะเชื่อมโยงประเทศในอาเซียน กับแต่ละอื่น ๆและกับส่วนที่เหลือของโลก .

ในการตอบสนองคนขอนแก่นได้สร้างรถของเอกชนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเพิ่มทุน 6 พันล้านบาทสำหรับระบบขนส่งมวลชนเชื่อมโยงของเมือง ภาคเหนือ และภาคใต้ จำกัด , และการเชื่อมต่อมหาวิทยาลัยขอนแก่นกับชุมชนเมือง

ระบบรางจะเป็นแห่งแรกของไทยชุมชนขับเคลื่อนโครงการระบบขนส่งมวลชนและจะคล้ายกับระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครแต่กับโครงสร้างพื้นฐานและติดตามค่าใช้จ่าย borne โดยบริษัทจํากัด

หนึ่งในจุดมุ่งหมายของ บริษัท ขอนแก่น ประชาชนกลายเป็นผู้ถือหุ้นเป็นผู้รับสัมปทาน ทางรัฐบาลเมือง เช่นพวกเขาจะสามารถตรวจสอบความคืบหน้ากับแผนการดําเนินการตรวจสอบด้วยตาของตัวเองและสังคมทั้งผ่านการประชุมปกติของสภาเทศบาลและผ่านเครือข่ายกดดันบริษัทประสบความสำเร็จ

เป็นนโยบายของ บริษัท คือว่า มันปฏิเสธใด ๆ การแสดงออกของความสนใจจากนักการเมืองยังคงเป็นกลางในทางการเมือง นอกจากนี้ เป็นบัญชีปกติบริษัทมุ่งมั่นที่จะถูกชี้นำโดยดัชนีความสุขมวลรวมภายในประเทศ และความเป็นอยู่ การตรวจสอบ และมีการพัฒนาประโยชน์ร่วมกันของคณะวิจัย มข.

crucially สำคัญระหว่างประเทศคู่ค้ามีเรียงรายขึ้นกับข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ นี้จะช่วยให้เมืองอื่น ๆทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวทางการพัฒนาที่คล้ายกัน

ถึงแม้ว่าการพัฒนานี้จะช่วยตลอด โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น ตำแหน่งทางการเมือง เมืองนี้ยังได้รับการยอมรับในระดับชาติเป็นรูปแบบของการบูรณาการทางสังคมและวัฒนธรรม อยู่บ้านช่วงของกลุ่มชาติพันธุ์ เคารพกันและกัน และมันคือการแบ่งปัน ความทะเยอทะยานที่ขอนแก่นควรพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ

จากมุมมองของชาติเช่นในประเทศขับเคลื่อนโครงการขับเครื่องยนต์พาณิชย์ เช่น ตลาดทุนของไทย ทำให้ประเทศที่น่าสนใจมากขึ้นเพื่ออนาคตในใจนักลงทุน ดังนั้น เมืองจังหวัดสามารถขยายเครือข่ายและระดมศักยภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจของประเทศไทย หลังจากหนึ่งปีของการเริ่ม

,โครงการขอนแก่นให้แผนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชนรับผิดชอบต่อสังคมที่หลีกเลี่ยง " การเติบโต " สปอร์ กรุงเทพมหานคร มีประสบการณ์ วิสัยทัศน์สุดนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้นความเจริญรุ่งเรืองและประเทศไทยอย่างเป็นธรรมมากขึ้น โดยเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนท้องถิ่นในการเอาชนะแรงเฉื่อยระบบราชการ .

แน่นอน มีความเสี่ยง หลายระดับของการตรวจสอบระหว่างประเทศรวมทั้งโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับการมีส่วนร่วมของหลายมิติของชุมชน ลดความเสี่ยง

แต่ในประเทศที่รัฐบาลท้องถิ่นจะอนุญาตให้ตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง เช่น ญี่ปุ่น รัฐบาลกลางได้รับประกันหุ้นกู้ของ บริษัท พัฒนาเมือง ตัวอย่างเช่น ใน โกเบ กรุงเทพฯ เป็นเจ้าคณะเมืองมากที่สุดบนโลกมีขนาดใหญ่กว่าเมืองไทยอีก 40 ครั้ง ให้โครงสร้างของรัฐบาลท้องถิ่นและเอาชนะอำนาจของกรุงเทพมหานคร ตามอำนาจที่เข้มงวดมากกว่าแบบในธรรมชาติ สนับสนุนนโยบายเป็นขั้นต่ำที่รัฐบาลกลางจะสนับสนุนการพัฒนาจากล่างขึ้นบน )