In the context of this article, the

In the context of this article, the findings suggest that the  ‘gap’ between education and the leadership demands of the  clinical  setting,  as  identified  by  Heller  et  al  (2004),  could  perhaps be bridged by employing successful training methods  as used in the studies reported by Cummings et al (2008). The  emphasis on relationship skills as the most important leadership  skill would suggest that leadership development programmes  should include this element. In this light, it is not surprising  that student nurses valued relationship qualities, such as effective  communication and being approachable, highly in the people  ultimately responsible for helping them bridge the gap between  their training and practice (Zilembo and Monterosso, 2008).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบริบทของบทความนี้ ผลการวิจัยแนะนำว่า 'ช่องว่าง' ระหว่างการศึกษาและความต้องการเป็นผู้นำของการตั้งค่า คลินิกตามที่ระบุไว้โดยเฮลเลอร์ et al (2004), อาจบางทีจะระหว่างกาล โดยใช้วิธีการฝึกอบรมประสบความสำเร็จตามที่ใช้ในการศึกษารายงานโดยฝรั่ง et al (2008) เน้นทักษะสัมพันธ์เป็นทักษะความเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุดจะแนะนำว่า โปรแกรมการพัฒนาภาวะผู้นำควรมีองค์ประกอบนี้ ในนี้แสง มันไม่น่าแปลกใจที่นักเรียนพยาบาลให้สัมพันธ์คุณภาพ เช่นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตร สูงในคนเกิดขึ้นช่วยให้พวกเขาช่องว่างระหว่างการฝึกและปฏิบัติ (Zilembo และตำแหน่ง 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบริบทของบทความนี้ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า 'ช่องว่าง' ระหว่างการศึกษาและความต้องการเป็นผู้นำของการตั้งค่าทางคลินิกที่ระบุไว้โดยเฮลเลอร์, et al (2004) บางทีอาจจะเป็นสะพานเชื่อมโดยการใช้วิธีการฝึกอบรมที่ประสบความสำเร็จที่ใช้ในการศึกษา รายงานโดยคัมมิ่งส์, et al (2008) เน้นทักษะความสัมพันธ์เป็นทักษะความเป็นผู้นำที่สำคัญที่สุดที่จะชี้ให้เห็นว่าโปรแกรมการพัฒนาความเป็นผู้นำควรมีองค์ประกอบนี้ ในแง่นี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่านักศึกษาพยาบาลมูลค่าคุณภาพความสัมพันธ์เช่นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่เข้าถึงได้มากในคนรับผิดชอบในการช่วยให้พวกเขาลดช่องว่างระหว่างการฝึกอบรมและการปฏิบัติ (Zilembo และมอน 2008) เดอะ