The EU and ASEAN enjoy robust comme

The EU and ASEAN enjoy robust commercial relations. The EU is ASEAN's third largest trading partner, while ASEAN is the EU's 5th largest trading partner. Total trade in 2011 in goods and services amounted to $265 billion. ASEAN had a surplus of $25 billion in its trade with the EU. The EU is the biggest provider of Foreign Direct Investment into ASEAN, 24% of the total.[3]

Trade has increased significantly over the past decades. EU exports to ASEAN were estimated at €45.7 billion in 1997, up from €8.9 billion in 1987. EU imports from ASEAN were valued at €10 billion in 1987 and had already surged to €46 billion by 1997.[4] The structure of EU-ASEAN trade has undergone significant changes. In the past, EU exports to ASEAN have included a higher percentage of manufactured products. As ASEAN transforms from a commodity-producing region to a supplier of manufactured goods, there has been a dramatic shift in ASEAN's exports to the EU from primary products to manufactures. Hence, ASEAN's exports consisted mostly of raw materials such as wood, manioc, rubber and palm oil. Today, electronic equipment, textiles and clothing account for a larger share of exports.[5] Trade in services between the two regions has also grown in recent years.

In order to further improve trade between the two regions and to speed up ASEAN's economic integration, there is a regular dialogue at Ministerial level and ASEAN-EU Business Summits are held on a regular basis. The first ASEAN-EU Business Summit was organised in Jakarta in May 2011, followed by a second Business Summit in April 2012 in Phnom Penh and third one in Ha Noi in March 2013. These meetings of business leaders, including small and medium-sized enterprises, with ASEAN Trade Ministers and the EU Trade Commissioner generate a host of recommendations for both parties to facilitate trade.[6]

In 2007 the Council authorized the Commission to start negotiating an FTA with ASEAN. FTA negotiations were launched at the ASEAN-EU Economic Ministers (AEM) Consultations held in Brunei Darussalam in the same year. However, trade talks were moving relatively slowly and eventually ground to a halt in 2009. The failed ASEAN-EU FTA paved the way for bilateral FTAs and negotiating Partnership and Cooperation Agreements (PCA) with individual ASEAN member states. The EU has concluded a Free Trade Agreement (FTA) with Singapore in 2012 and is negotiating FTAs with several other ASEAN countries (Vietnam, Thailand, and Malaysia). With Malaysia negotiations are well advanced. These agreements are stepping stones to an overarching region-to-region agreement between the EU and ASEAN.[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สหภาพยุโรปและอาเซียนกับความสัมพันธ์ทางการค้าแข็งแกร่ง สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าใหญ่เป็นอันดับสามของอาเซียน อาเซียนเป็น คู่ค้าที่ใหญ่ที่สุด 5 ของสหภาพยุโรป การค้ารวมในปี 2554 ในสินค้าและบริการมีจำนวนถึง $265 พันล้าน อาเซียนมีส่วนเกินของ $25 พันล้านในการค้ากับสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในอาเซียน 24% ของทั้งหมด [3]การค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าทศวรรษ ส่งออก EU อาเซียนถูกประมาณ 45.7 ล้านยูโรในปี 1997 ขึ้นจาก €8.9 พันล้านในปี 1987 สหภาพยุโรปนำเข้าจากอาเซียนมีให้ 10 ล้านยูโรในปี 1987 และได้เพิ่มเป็น €46 พันล้าน โดยปี 1997 [4] โครงสร้างของการค้าสหภาพยุโรปอาเซียนมีระดับการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ในอดีต ส่งออกสหภาพยุโรปกับอาเซียนได้รวมสัดส่วนสูงของผลิตภัณฑ์ที่ผลิต เป็นอาเซียนเปลี่ยนจากภาคการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายของสินค้าที่ผลิต มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการส่งออกของอาเซียนไปยังสหภาพยุโรปจากผลิตภัณฑ์หลักการผลิต ด้วยเหตุนี้ การส่งออกของอาเซียนประกอบด้วยส่วนใหญ่ของวัตถุดิบเช่นไม้ manioc ยาง และน้ำมันปาล์ม วันนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเสื้อผ้าบัญชีสำหรับหุ้นขนาดใหญ่ของการส่งออก [5] นอกจากนี้ยังมีการเติบโตการค้าบริการระหว่างสองภูมิภาคในปีเพื่อปรับ ปรุงการค้าระหว่างสองภูมิภาค และอาเซียนรวมเศรษฐกิจ มีความเร็วคือการสนทนาปกติที่รัฐมนตรีระดับ และประชุมสุดยอดธุรกิจอาเซียน-สหภาพยุโรปจัดขึ้นเป็นประจำ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรปธุรกิจแรกจัดในจาการ์ตาใน 2554 พฤษภาคม ตาม ด้วยการประชุมสุดยอดธุรกิจสองในเดือน 2555 เมษายนในพนมเปญและหนึ่งในสามในฮานอยในเดือน 2556 มีนาคม ประชุมของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งขนาดเล็กขนาดกลาง และขนาดย่อม กับรัฐมนตรีการค้าของอาเซียนและกรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรปเหล่านี้สร้างคำแนะนำสำหรับทั้งสองฝ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้ามากมาย [6]ใน 2007 สภาอนุญาตคณะเพื่อเริ่มต้นการเจรจาต่อรองมีเอฟทีเอกับอาเซียน มีเปิดเจรจาเขตการค้าเสรีที่ปรึกษารัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียน-สหภาพยุโรป (AEM) ที่จัดขึ้นในบรูไนดารุสซาลามในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้าได้เคลื่อนไหวค่อนข้างช้า และในที่สุดพื้นดินต้องหยุดชะงักในปี 2552 เขตการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรปล้มเหลวปูทางสำหรับทวิภาคีเขตการค้าเสรี และเจรจาความร่วมมือ และข้อตกลงความร่วมมือ (PCA) กับแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน สหภาพยุโรปได้สรุปแบบการค้าเสรีข้อตกลง (FTA) กับประเทศสิงคโปร์ในปี 2555 และจะเจรจาเอฟทีเอกับอาเซียนประเทศอื่น ๆ (เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย) กับมาเลเซีย เจรจาเอ สัญญาเหล่านี้จะเหยียบหินข้อตกลงภูมิภาคยอดกล้องระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สหภาพยุโรปและอาเซียนเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่ง สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสามของอาเซียนในขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป รวมลูกหนี้การค้าในปี 2011 ในสินค้าและบริการที่มีจำนวน 265 พันล้าน $ อาเซียนมีการเกินดุล $ 25 พันล้านดอลลาร์ในการค้ากับสหภาพยุโรป สหภาพยุโรปเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในอาเซียน 24% ของทั้งหมด. [3]

การค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา การส่งออกไปยังตลาดอาเซียนสหภาพยุโรปอยู่ที่ประมาณพันล้าน€ 45.7 ในปี 1997 เพิ่มขึ้นจากพันล้าน€ 8.9 ในปี 1987 การนำเข้าของสหภาพยุโรปจากอาเซียนมีมูลค่าพันล้าน€ 10 ในปี 1987 และได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่แล้วพันล้าน€ 46 โดยปี 1997 [4] โครงสร้างของการค้าของสหภาพยุโรปและอาเซียนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ในอดีตที่ผ่านมาการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนสหภาพยุโรปได้รวมร้อยละที่สูงขึ้นของสินค้าที่ผลิต ในฐานะที่เป็นอาเซียนเปลี่ยนจากภูมิภาคสินค้าที่ผลิตเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการส่งออกของอาเซียนไปยังสหภาพยุโรปจากผลิตภัณฑ์หลักในการผลิต ดังนั้นการส่งออกของอาเซียนส่วนใหญ่ประกอบด้วยวัตถุดิบเช่นไม้มันสำปะหลังยางพาราและปาล์มน้ำมัน วันนี้, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอและเสื้อผ้าสำหรับบัญชีหุ้นขนาดใหญ่ของการส่งออก. [5] การค้าบริการระหว่างสองภูมิภาคนอกจากนี้ยังมีการเติบโตในปีที่ผ่านมา.

เพื่อที่จะปรับปรุงการค้าระหว่างสองภูมิภาคและเพื่อเพิ่มความเร็วในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนจะมีการเจรจาปกติในระดับรัฐมนตรีและอาเซียนสหภาพยุโรปการประชุมสุดยอดธุรกิจที่จะมีขึ้นใน ประจำ การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ธุรกิจสหภาพยุโรปจัดขึ้นในกรุงจาการ์ตาในเดือนพฤษภาคม 2011 ตามด้วยการประชุมสุดยอดธุรกิจที่สองในเดือนเมษายน 2012 ในกรุงพนมเปญและเป็นหนึ่งในสามใน Ha Noi มีนาคม 2013 การประชุมเหล่านี้ของผู้นำทางธุรกิจรวมทั้งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอาเซียนและคณะกรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรปสร้างโฮสต์ของคำแนะนำสำหรับทั้งสองฝ่ายเพื่ออำนวยความสะดวกการค้า. [6]

ในปี 2007 คณะกรรมการสภาที่ได้รับอนุญาตที่จะเริ่มต้นการเจรจาเขตการค้าเสรีกับอาเซียน การเจรจาเอฟทีเอได้รับการเปิดตัวในอาเซียนสหภาพยุโรปรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (AEM) ให้คำปรึกษาจัดขึ้นในบรูไนดารุสซาลามในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตามการเจรจาการค้าถูกย้ายค่อนข้างช้าและในที่สุดก็ต้องหยุดชะงักพื้นดินในปี 2009 ล้มเหลวอาเซียนสหภาพยุโรปเอฟทีเอปูทางสำหรับเขตการค้าเสรีทวิภาคีและการเจรจาต่อรองความร่วมมือและข้อตกลงความร่วมมือ (PCA) กับแต่ละรัฐสมาชิกอาเซียน สหภาพยุโรปได้ข้อสรุปข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศสิงคโปร์ในปี 2012 และอยู่ระหว่างการเจรจาเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศอาเซียนอื่น ๆ (เวียดนามไทยและมาเลเซีย) มาเลเซียกับการเจรจาต่อรองขั้นสูงได้ดี ข้อตกลงเหล่านี้จะก้าวหินข้อตกลงเขตการครอบคลุมภูมิภาคระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน. [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สหภาพยุโรปและอาเซียนกับความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่ง สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับสามของอาเซียน ในขณะที่อาเซียนเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ที่สุด 5 คู่ รวมการค้าใน 2011 ในสินค้าและบริการจาก $ 265 ล้านบาท อาเซียนมีมูลค่า $ 25 พันล้านดอลลาร์ในการค้ากับอียู สหภาพยุโรปเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในอาเซียน , 24% ของทั้งหมด [ 2 ]การค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าทศวรรษที่ผ่านมา สหภาพยุโรป การส่งออกไปยังอาเซียนมีประมาณด้าน 45.7 พันล้านในปี 1997 จากด้าน 8.9 พันล้านในปี 1987 EU นำเข้าจากอาเซียน มีมูลค่าที่จ่าย 10 พันล้านในปี 1987 และได้เพิ่มขึ้นสู่โลก 46 พันล้านโดยปี 1997 [ 4 ] โครงสร้างของการค้า eu-asean มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่ผ่านมา อียูส่งออกไปอาเซียนได้รวมเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของสินค้าที่ผลิต อาเซียนเปลี่ยนจากสินค้าที่ผลิตในภูมิภาคให้ผู้ผลิตผลิตสินค้า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอาเซียนส่งออกไปอียูจากผลิตภัณฑ์หลักในการผลิต ดังนั้น การส่งออกของอาเซียนประกอบด้วยส่วนใหญ่ของวัตถุดิบ เช่น ไม้ มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน วันนี้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม บัญชีสำหรับหุ้นขนาดใหญ่ของการส่งออก . [ 5 ] การค้าบริการระหว่างสองภูมิภาคยังเติบโตในปีที่ผ่านมาเพื่อปรับปรุงการค้าระหว่างสองภูมิภาค และการเร่งการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน มีการสนทนาปกติที่ระดับรัฐมนตรีระหว่างธุรกิจและการประชุมสุดยอดจะจัดขึ้นเป็นประจํา ครั้งแรกระหว่างการประชุมสุดยอดธุรกิจ ) ในจาการ์ตาในเดือนพฤษภาคม 2011 , ตามด้วยสองธุรกิจการประชุมสุดยอดในเมษายน 2012 ในพนมเปญและที่สามใน Ha Noi ในเดือนมีนาคม 2556 เหล่านี้การประชุมของผู้นำธุรกิจ รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กับรัฐมนตรีการค้าอาเซียนและสหภาพยุโรปการค้ากรรมาธิการสร้างโฮสต์ของคำแนะนำสำหรับทั้งสองฝ่ายเพื่ออํานวยความสะดวกทางการค้า [ 6 ]ในปี 2550 คณะกรรมการสภาอนุญาตให้เริ่มเจรจาเอฟทีเอกับอาเซียน การเจรจาเอฟทีเอได้เปิดตัวในเพื่อหารือรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ( แอ๋ม ) ที่จัดขึ้นใน บรูไนดารุสซาลาม ในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาการค้าย้ายค่อนข้างช้าและในที่สุดพื้นเพื่อหยุดในปี 2009 ล้มเหลว เพื่อปูทางสำหรับเขตการค้าเสรี FTA ทวิภาคีและเจรจาความร่วมมือและข้อตกลงความร่วมมือ ( PCA ) กับสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ สหภาพยุโรปได้สรุปข้อตกลงการค้าเสรี ( FTA ) กับสิงคโปร์ใน 2012 และกำลังเจรจาเขตการค้าเสรีกับประเทศอาเซียนอื่น ๆหลาย ( เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย ) การเจรจากับมาเลเซียเป็นขั้นสูงได้ดี ข้อตกลงเหล่านี้เป็นหินก้าวที่ครอบคลุมภูมิภาคภูมิภาคข้อตกลงระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน [ 7 ]