In Sect. 1.5, we introduced the ter

In Sect. 1.5, we introduced the terms Play-in, Play-out, and Replay. Play-out is the
classical use of process models; the model generates behavior. For instance, by playing the “token game” in a WF-net, example behaviors can be generated. Simulation
and workflow engines use Play-out to analyze and enact process models. Play-in
is the opposite of Play-out, i.e., example behavior is taken as input and the goal is
to construct a model.
The discovery techniques presented in Chaps.
5 and 6 can be used for Play-in.
Replay uses both an event log and a process model as input, i.e.,
history is replayed using the model to analyze various phenomena. For example,
in Chap. 8 we will show that replay can be used for analyzing bottlenecks and decision analysis.
In Chap. 9, replay will be used to predict the behavior of running cases and to recommend suitable actions.
In this chapter,
we focus on conformance checking
using replay.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน Sect. 1.5 เราแนะนำเงื่อนไขเล่นใน เล่นออก และ Replay เล่นออกเป็นการ การใช้แบบจำลองกระบวนการ คลาสสิก แบบจำลองการสร้างพฤติกรรม เช่น โดยการเล่น "เกมโทเค็น" ดับเบิลยูเอฟสุทธิ ตัวอย่างลักษณะการทำงานสามารถสร้าง การจำลอง และเครื่องยนต์ลำดับใช้เล่นออกเพื่อวิเคราะห์ และดำเนินการแบบจำลองกระบวนการ ในการเล่น เป็นตรงข้ามของเล่นออก เช่น เป็นตัวอย่างที่ใช้ลักษณะการทำงานเป็นอินพุตและเป้าหมาย การสร้างแบบจำลอง เทคนิคการค้นพบที่นำเสนอใน Chaps5 และ 6 สามารถใช้สำหรับการเล่นใน เล่นซ้ำใช้บันทึกเหตุการณ์และแบบจำลองกระบวนการป้อนข้อมูล เช่น ประวัติเป็นโซร์โดยใช้แบบจำลองเพื่อวิเคราะห์ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตัวอย่าง ใน Chap. 8 เราจะแสดงที่เล่นซ้ำสามารถใช้สำหรับวิเคราะห์ปัญหาคอขวดและวิเคราะห์ตัดสินใจ ใน Chap. 9 เล่นซ้ำจะมีใช้ เพื่อทำนายพฤติกรรมของการใช้งานกรณี และแนะนำการดำเนินการที่เหมาะสม ในบทนี้เรามุ่งเน้นการตรวจสอบความสอดคล้องกัน ใช้การเล่นซ้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในนิกาย 1.5 เราแนะนำแง่เล่นอินเล่นออกและ Replay เล่นเอาต์คือ
การใช้งานคลาสสิกของรูปแบบกระบวนการ รูปแบบการสร้างพฤติกรรม ยกตัวอย่างเช่นโดยการเล่นเกม "โทเค็น" ใน WF-สุทธิพฤติกรรมตัวอย่างที่สามารถสร้าง จำลอง
และเครื่องมือเวิร์กโฟลว์ใช้เล่นออกในการวิเคราะห์และตรารูปแบบกระบวนการ เล่นใน
ตรงข้ามเล่นออกเช่นพฤติกรรมตัวอย่างที่จะนำมาเป็น input และเป้าหมายก็คือ
การสร้างรูปแบบ.
การค้นพบเทคนิคที่นำเสนอใน Chaps.
5 และ 6 สามารถนำมาใช้สำหรับการเล่นใน.
Replay ใช้ทั้ง บันทึกเหตุการณ์และรูปแบบกระบวนการเป็น input คือ
ประวัติศาสตร์ย้อนไปโดยใช้แบบจำลองในการวิเคราะห์ปรากฏการณ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น
ในบท 8 เราจะแสดงการเล่นใหม่ที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาคอขวดและการวิเคราะห์การตัดสินใจ.
ใน Chap 9 รีเพลย์จะใช้ในการทำนายพฤติกรรมของกรณีการทำงานและการให้คำแนะนำการดำเนินการที่เหมาะสม.
ในบทนี้
เรามุ่งเน้นการตรวจสอบความสอดคล้อง
โดยใช้รีเพลย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในนิกาย 1.5 เราแนะนำเงื่อนไข เล่น เล่น และเล่นใหม่ เล่นเป็น
ใช้คลาสสิกของรูปแบบกระบวนการ รูปแบบการสร้างพฤติกรรม ตัวอย่างเช่นโดยการเล่นเกม " โทเค็น " ใน WF สุทธิพฤติกรรมตัวอย่างที่สามารถสร้าง จำลอง
และเวิร์กโฟลว์ใช้เครื่องยนต์เล่นออกเพื่อวิเคราะห์และออกแบบกระบวนการ เล่นใน
ตรงข้ามเล่นออก , เช่นพฤติกรรมตัวอย่างที่ถ่ายเป็น input และเป้าหมายคือ
เพื่อสร้างแบบจำลอง การค้นพบเทคนิคที่นำเสนอในคับ
.
5 และ 6 ที่สามารถใช้สำหรับการเล่น
Replay ใช้ทั้งการบันทึกเหตุการณ์และกระบวนการเป็น input เช่น
ประวัติศาสตร์ซ้ำโดยใช้แบบจำลองเพื่อวิเคราะห์ปรากฏการณ์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น
ใน CHAP 8 เราจะแสดงที่เล่นสามารถใช้สำหรับการวิเคราะห์คอขวดและการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจ
ใน CHAP 9 Replay จะใช้ทำนายพฤติกรรมของกำลังและกรณีแนะนำการกระทำที่เหมาะสม
ในบทนี้

เรามุ่งเน้นที่การตรวจสอบ Replay