4.3. Permanent deformation in base

4.3. Permanent deformation in base and subgrade
As previously mentioned, the customized potentiometer was
installed at the mid-height of base layer to measure the compressive
strain. It is assumed here that the compressive strain at the
mid-height represents the mean compressive strain of the whole
layer. As such, the overall deformation of the entire base layer was
determined by multiplying the measured compressive strain by the
thickness of base layer. In the subgrade layer, a customized LVDT
was mounted on a steel rod, which has an end fixed to the bottom
of the steel box. Therefore, the deformation measured by the LVDT
is the overall deformation of the entire subgrade layer. Fig. 5a and b
illustrates the development of base and subgrade permanent
deformation with number of EASLs. As can be seen from the figures,
for the control section (section 4), the subgrade layer makes more
significant contribution to the total permanent deformation, when
compared to the base layer. The use of geosynthetics resulted in
reducing the permanent deformations in both the base and subgrade
layers (sections 2, 3, and 5). However, when the geosynthetic
is placed at the baseesubgrade interface, significant reduction of
permanent deformation occurred in subgrade layer while only
small reduction of permanent deformation was observed in base
layer (section 3 and 5). This means that the geosynthetic at the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4.3. ถาวรแมพในฐานและ subgradeกล่าวว่าก่อนหน้านี้ มิเตอร์เองถูกการติดตั้งที่กลางความสูงของชั้นฐานวัดการอัดสายพันธุ์ จะถือว่าที่นี่ที่ความเครียดอัดที่การกลางสูงแสดงถึงความเครียดอัดเฉลี่ยของทั้งชั้น เช่นนี้ เปลี่ยนรูปโดยรวมของชั้นฐานทั้งหมดถูกกำหนด โดยการคูณความเครียดอัดวัดโดยการความหนาของชั้น ในชั้น subgrade, LVDT กำหนดเองติดอยู่บนราวแขวนเหล็ก ซึ่งมีการแก้ไขด้านล่างกล่องเหล็ก ดังนั้น ความผิดปกติที่วัด โดย LVDTจะเปลี่ยนรูปโดยรวมของชั้น subgrade ทั้ง รูป 5a และ bแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาฐานและ subgrade ถาวรแมพที่ มี EASLs สามารถเห็นได้จากตัวเลขสำหรับส่วนควบคุม (ส่วนที่ 4), ชั้น subgrade ทำให้มากขึ้นส่วนสำคัญเพื่อที่แมพรวมถาวร เมื่อเมื่อเทียบกับชั้นฐาน ส่งผลให้การใช้งานของ geosyntheticsลดการพิการถาวรทั้งในฐานและ subgradeชั้น (ชั้น 2, 3 และ 5 อย่างไรก็ตาม เมื่อการ geosyntheticตั้งอยู่ที่อินเตอร์เฟซ baseesubgrade ลดความสำคัญของเปลี่ยนรูปถาวรเกิดขึ้นในชั้น subgrade ขณะเท่านั้นพบว่า ในฐานขนาดเล็กลดการเสียรูปถาวรชั้น (ส่วนที่ 3 และ 5) ซึ่งหมายความ ว่า geosynthetic ที่การ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.3 การเปลี่ยนรูปถาวรในฐานและฐานราก
ดังกล่าวข้างต้นมิเตอร์ที่กำหนดเองได้รับการ
ติดตั้งที่กลางความสูงของชั้นฐานในการวัดอัด
ความเครียด มันจะสันนิษฐานที่นี่ที่ความเครียดอัดที่
กลางสูงหมายถึงความเครียดอัดเฉลี่ยของทั้ง
ชั้น เช่นการเสียรูปโดยรวมของชั้นฐานทั้งหมดถูก
กำหนดโดยการคูณความเครียดอัดโดยวัดจาก
ความหนาของชั้นฐาน ในชั้นฐานรากเป็น LVDT ที่กำหนดเอง
ได้รับการติดตั้งอยู่บนแกนเหล็กซึ่งมีที่สิ้นสุดจับจ้องไปที่ด้านล่าง
ของกล่องเหล็ก ดังนั้นการเปลี่ยนรูปวัดจาก LVDT
เป็นความผิดปกติโดยรวมของชั้นฐานรากทั้งหมด มะเดื่อ. 5A และ B
แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของฐานและฐานรากถาวร
ความผิดปกติที่มีจำนวนของ EASLs ที่สามารถเห็นได้จากตัวเลขการ
ส่วนควบคุม (มาตรา 4) ชั้นฐานรากทำให้มากขึ้น
ส่วนร่วมสำคัญในการเสียรูปถาวรสิ้นเชิงเมื่อ
เทียบกับฐานชั้น การใช้งานของ Geosynthetics ผลใน
การลดความพิการถาวรในทั้งฐานและฐานราก
ชั้น (ส่วนที่ 2, 3 และ 5) แต่เมื่อ geosynthetic
จะอยู่ที่อินเตอร์เฟซ baseesubgrade การลดความสำคัญของ
การเปลี่ยนรูปถาวรที่เกิดขึ้นในชั้นฐานรากเท่านั้นในขณะที่
ลดขนาดเล็กของการเสียรูปถาวรพบว่าในฐาน
ชั้น (มาตรา 3 และ 5) ซึ่งหมายความว่า geosynthetic ที่ The

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.3 . การเปลี่ยนรูปถาวรในฐานและรองพื้นทางตามที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ปรับแต่งมิเตอร์ คือติดตั้งที่ความสูงระดับกลางของชั้นฐานวัดแรงอัดสายพันธุ์ เป็นสันนิษฐานว่าเมื่อยอัดที่ความสูงกลางหมายถึงหมายถึงอัดความเครียดของทั้งชั้น เช่น การเปลี่ยนรูปโดยรวมของชั้นฐาน คือกำหนดโดยการคูณวัดแรงอัดสายพันธุ์โดยความหนาของชั้นฐาน ในชั้น Subgrade , แอลวี ดี ที เองติดตั้งบนแกนเหล็ก ซึ่งได้สิ้นสุดการแก้ไขด้านล่างของเหล็กกล่อง ดังนั้น การเสียรูป โดยวัดจากแอลวี ดี ทีเป็นรูปโดยรวมของชั้น Subgrade ทั้งหมด รูปที่ 43 และแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของเบสและรองพื้นทางถาวรรูปกับเบอร์ของ easls . ดังจะเห็นได้จากตัวเลขสำหรับกลุ่มควบคุม ( ส่วนที่ 4 ) , Subgrade ชั้นให้มากขึ้นส่วนสําคัญการเสียรูปอย่างถาวร รวม เมื่อเมื่อเปรียบเทียบกับฐานชั้นที่ ใช้ของ geosynthetics ส่งผลลดการเปลี่ยนรูปถาวร ทั้งเบสและรองพื้นทางชั้น ( ส่วนที่ 2 , 3 , และ 5 ) อย่างไรก็ตาม เมื่อ geosyntheticอยู่ใน baseesubgrade อินเตอร์เฟซที่ลดลงของการเปลี่ยนรูปถาวรที่เกิดขึ้นในชั้น Subgrade ในขณะที่เพียงการเสียรูปถาวรขนาดเล็กพบในฐานชั้น ( มาตรา 3 และ 5 ) ซึ่งหมายความว่า geosynthetic ที่