Workplace DemographicsOne workforce

Workplace Demographics

One workforce group where changes are proving to be dramatic and lasting is among those over age 55. In 2012, only Japan reported 30% or more of its citizens older than 55 years of age, but by 2030, there will be 64 such countries in that category (the United States alone will have 34%, and Europe will be the oldest region with 36%).

Health remains the top reason for early retirement, but 39% leave for more leisure. Most are also looking for new solutions to protect against rising health-care costs, including the cost of long-term care.

In contrast to previous Sunbelt migrations in the United States, retirement-in-place is growing much more common, even in Snowbelt areas. The end of the boomer “boom” in 2030 already suggests that a slowdown of economic growth may be coming.

Meanwhile, another workforce cohort of concern are the many millennials who have not gone on to college. A recent Pew Research Center survey found that employed millennial-age (now 25–32 years old) high-school graduates were earning an average of $18,000 less annually than college graduates in the same age group. As well, they were four times more likely to be unemployed (12%) and three times more likely to live below the poverty line (22%).

In contrast, average retirement-age workers now work 4.2 years past their projected retirement date, and almost 70% consider seeking employment of some kind after officially retiring. This can include flex-retirement and volunteering in order to use one’s life skills to assist nonprofits.

Certainly a big change is coming in Social Security. The twentieth-century Social Security model was built on an assumption of 150 workers for each retiree. By 2030, we should expect that ratio in the United States to be down to two workers for each retiree. That definitely means significant policy change, as millennials will represent 30% of the electorate by 2030—and 12% unemployment for those with only a high-school diploma portends civic discontent. Given the fact that there will be 80 million millennials in the United States by 2020, they will be a political force to be reckoned with.

The postretirement job market will require successful candidates to focus on their personal core competencies, especially among those re-careering beyond age 55. Besides the growth of peer-to-peer services from the elderly to the elderly, there is also the significant growth potential in collateral markets, including construction of new service facilities (e.g., community, assisted-living, and nursing homes). In addition, smart-home tech (health monitoring, security, connectivity) also brings with it positions in managing, installing, and repairing the hardware and software to run a smart home, as these collateral industries grow.

Beyond the Workplace Horizon

We have considered a number of less-conventional futures for the world of work, but only skimmed the truly adventuresome, such as the eventual impact of 3-D printing (additive manufacturing). Will it become a veritable horn of plenty, which could supply all human wants and thus nullify the need to “work to live”? While the physical and economic specifics shaping this “Black Swan” outcome are yet unclear, cultural and values dynamics have the potential to change the way we see work in the near future.

Many boomer retirees appear to be moving away from the idea of “working for money alone” (or at all). An increasing number of retirees aim to provide value to society as volunteers without being rewarded in a traditional manner. In contrast, many high-school-graduate millennials agree that work and the identity it provides may not be at the center of personal or social life, often seeing work as “just a job to get by” (42% on the Pew survey).

As the manner in which individuals and their demographic cohorts view the world of work changes, and as social values evolve, these shifts in attitude and action shape the future of work just as much as technology and economic forces. The future has always been the outcome of a broad range of interactive factors, and shifts in attitude drive human behavior as much or more than automation or recessions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักษณะประชากรที่ทำงานกลุ่มบุคลากรที่การพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และยั่งยืนเป็นหนึ่งในผู้ผ่านอายุ 55 ใน 2012 ญี่ปุ่นเฉพาะรายงานของประชาชนอายุมากกว่า 55 ปีอายุอย่างน้อย 30% แต่ปี 2030 จะมี 64 ประเทศในประเภท (สหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวจะได้ 34% และยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่เก่าแก่ที่สุด 36%)สุขภาพยังคง ระบุสำหรับเกษียณอายุก่อนกำหนด แต่มาจาก 39% ส่วนใหญ่ยังมองหาโซลูชั่นใหม่เพื่อป้องกันต้นทุนสุขภาพเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายของการดูแลระยะยาวตรงข้ามตั้งระดับก่อนหน้านี้พร้อมกันในสหรัฐอเมริกา เกษียณอายุมีการเติบโตทั่วไปมากขึ้น แม้ในพื้นที่ Snowbelt จุดสิ้นสุดของ boomer "บูม" ในปี 2030 แล้วแนะนำว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจจะมาในขณะเดียวกัน cohort บุคลากรอื่นความกังวลมี millennials มากที่ไม่ไปในวิทยาลัย การสำรวจของศูนย์วิจัยพิวล่าสุดพบว่า เจ้า millennial-อายุ (ตอนนี้ 25 – 32 ปี) โรงเรียนมัธยมบัณฑิตมีรายได้โดยเฉลี่ย $18000 น้อยกว่าบัณฑิตวิทยาลัยในกลุ่มอายุเดียวกันเป็นประจำทุกปี เช่น พวกเขาได้สี่ครั้งมีแนวโน้มคนตกงาน (12%) และครั้งที่สามยิ่งอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน (22%)ในทางตรงกันข้าม เฉลี่ยคนเกษียณอายุตอนนี้งาน 4.2 ปีที่ผ่านมาของพวกเขาวันเกษียณอายุที่คาดการณ์ไว้ และเกือบ 70% ลองหาจ้างบางชนิดหลังจากทางออก ซึ่งอาจรวมถึงการเกษียณอายุทำงานแบบยืดหยุ่นและอาสาสมัครการใช้ทักษะชีวิตของคน ๆ หนึ่งเพื่อช่วย nonprofitsแน่นอนการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นในสังคม แบบสังคมศตวรรษที่ยี่สิบถูกสร้างขึ้นบนการอัสสัมชัญ 150 แรงงานสำหรับแต่ละ retiree ปี 2030 เราควรคาดหวังว่าอัตราส่วนในสหรัฐอเมริกาจะลงแรงงานสองสำหรับ retiree แต่ละ แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ เป็น millennials แสดงถึง 30% ของในรูปแบบปี 2030 — และ 12% การว่างงานสำหรับผู้ที่มีเพียงประกาศนียบัตรโรงเรียนมัธยม portends พลเมืองไม่พอใจ ให้ความจริงที่ว่าจะมี millennials 80 ล้านในสหรัฐอเมริกา โดย 2020 พวกเขาจะบังคับเมืองหมอนี่ตลาดงาน postretirement จะต้องมีผู้ประสบความสำเร็จเน้นความส่วนบุคคลหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ careering ใหม่เกินอายุ 55 นอกจากการเติบโตของบริการเพียร์เพื่อเพียร์จากผู้สูงอายุผู้สูงอายุ มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมีศักยภาพในตลาด หลักประกันรวมทั้งก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ (เช่น ชุมชน ช่วยชีวิต และสถานพยาบาล) บ้านสมาร์ทเทค (ตรวจสอบสุขภาพ ความปลอดภัย การเชื่อมต่อ) จะมียังได้ตำแหน่ง ในการจัดการ ติดตั้ง ซ่อมแซมฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ทำงานบ้านสมาร์ท เป็นอุตสาหกรรมหลักประกันเหล่านี้เติบโตนอกเหนือจากขอบเขตการทำงานเรามีเป็นจำนวนน้อยกว่าปกติในอนาคตสำหรับโลกของการทำงาน แต่เอาเฉพาะ แท้จริง adventuresome เช่นผลกระทบในการพิมพ์ 3 มิติ (สามารถผลิต) มันจะเห็นฮอร์นของเมืองพัทยา ซึ่งสามารถจัดหาต้องการมนุษย์ทั้งหมด และลบล้างดังนั้นจึง จำเป็นต้อง "ทำงานอยู่" ขณะทางกายภาพ และเศรษฐกิจประเภทสร้างรูปร่างผล "หงส์ดำ" นี้ยังไม่ชัดเจน วัฒนธรรม และ dynamics อาจเปลี่ยนวิธีเราดูค่าทำงานในอนาคตอันใกล้ผู้เกษียณจำนวนมาก boomer จะ ถูกย้ายออกจากความคิดของการ "ทำงานหาเงินคนเดียว" (หรือทั้งหมด) การเพิ่มจำนวนผู้เกษียณมุ่งให้ค่าสังคมเป็นอาสาสมัครโดยไม่ได้รับรางวัลในลักษณะดั้งเดิม ในทางตรงกันข้าม millennials บัณฑิตวิทยาลัยโรงเรียนสูงมากเห็นว่า งานและอัตลักษณ์ที่แสดงอาจไม่ที่บุคคล หรือสังคมชีวิต ทำงานมักจะเห็นเป็น "เพียงงานรับโดย" (42% ในการสำรวจพิว)เป็นลักษณะที่บุคคลและ cohorts ของประชากรดูโลกของการเปลี่ยนแปลงการทำงาน และค่าสังคมพัฒนา กะในทัศนคติและการกระทำเหล่านี้สร้างอนาคตงานเพียงมากเป็นกองกำลังทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี อนาคตจะได้รับผลของปัจจัยแบบโต้ตอบที่หลากหลาย และเลื่อนในทัศนคติพฤติกรรมมนุษย์ของไดรฟ์เป็นมาก หรือมากกว่าระบบอัตโนมัติหรือ recessions

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานที่ทำงานประชากรกลุ่มแรงงานที่หนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงจะพิสูจน์ให้เป็นอย่างมากและยาวนานเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอายุเกินกว่า 55 ในปี 2012 มีเพียงญี่ปุ่นรายงาน 30% หรือมากกว่าของประชาชนที่มีอายุมากกว่า 55 ปี แต่ในปี 2030 จะมี 64 ดังกล่าว ประเทศในประเภทที่ (สหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวจะมี 34% และยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่เก่าแก่ที่สุดที่มี 36%). สุขภาพยังคงเป็นเหตุผลด้านบนสำหรับการเกษียณอายุก่อน แต่ลา 39% สำหรับการพักผ่อนมากขึ้น ส่วนใหญ่ยังมองหาโซลูชั่นใหม่เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว. ในทางตรงกันข้ามกับการโยกย้ายซันเบลท์ก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกาเกษียณอายุในสถานที่ที่มีการเติบโตมากขึ้นทั่วไปแม้ใน Snowbelt พื้นที่ ในตอนท้ายของ Boomer "บูม" ใน 2030 แล้วแสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจจะมา. ขณะที่กลุ่มแรงงานของความกังวลอีก Millennials หลายคนที่ยังไม่ได้ไปเรียนที่วิทยาลัย การสำรวจล่าสุดของ Pew Research Center พบว่าพันปีอายุงาน (ตอนนี้ 25-32 ปี) จบการศึกษาระดับมัธยมปลายได้รับรายได้เฉลี่ย $ 18,000 ต่อปีน้อยกว่าบัณฑิตวิทยาลัยในกลุ่มอายุเดียวกัน เช่นเดียวกับที่พวกเขาสี่ครั้งมีแนวโน้มที่จะตกงาน (12%) และสามครั้งมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน (22%). ในทางตรงกันข้ามเฉลี่ยคนงานเกษียณอายุอายุตอนนี้ทำงาน 4.2 ปีที่ผ่านมาวันที่เกษียณที่คาดการณ์ของพวกเขา และเกือบ 70% พิจารณาหางานบางชนิดอย่างเป็นทางการหลังจากที่เกษียณ นี้จะรวมถึงดิ้นเกษียณอายุและอาสาสมัครเพื่อที่จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งของทักษะชีวิตเพื่อช่วยไม่หวังผลกำไร. แน่นอนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาในประกันสังคม ในศตวรรษที่ยี่สิบรูปแบบการประกันสังคมที่ถูกสร้างขึ้นบนสมมติฐานของ 150 คนสำหรับแต่ละหลังเกษียณ ในปี 2030 เราควรคาดหวังว่าอัตราส่วนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่จะลงไปหาคนงานสองคนหลังเกษียณในแต่ละ แน่นอนว่าหมายถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญเป็น Millennials จะเป็นตัวแทนของ 30% ของการเลือกตั้งในปี 2030 และการว่างงาน 12% สำหรับผู้ที่มีเพียงประกาศนียบัตรมัธยมปลาย portends พอใจของเทศบาล ให้ความจริงว่าจะมี 80 ล้าน Millennials ในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ที่พวกเขาจะเป็นแรงทางการเมืองที่จะต้องคำนึงถึง. ตลาดงานหลังเกษียณจะต้องมีผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จที่จะมุ่งเน้นความสามารถหลักของส่วนตัวของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ที่ใหม่ careering เกินกว่าอายุ 55 นอกจากนี้การเจริญเติบโตของบริการแบบ peer-to-peer จากผู้สูงอายุผู้สูงอายุนอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในตลาดหลักประกันรวมทั้งการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกบริการใหม่ (เช่นชุมชนช่วยชีวิตและพยาบาล ) นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีสมาร์ทบ้าน (การตรวจสอบสุขภาพ, การรักษาความปลอดภัยการเชื่อมต่อ) นอกจากนี้ยังทำให้มีตำแหน่งในการจัดการการติดตั้งและการซ่อมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จะใช้สมาร์ทเช่นอุตสาหกรรมหลักประกันเหล่านี้เติบโต. นอกเหนือจากฮอไรซอนสถานที่ทำงานเราได้มีการพิจารณา จำนวนของฟิวเจอร์สน้อยธรรมดาสำหรับโลกของการทำงาน แต่ไขมันต่ำเพียงผจญภัยอย่างแท้จริงเช่นผลกระทบในท้ายที่สุดของการพิมพ์ 3 มิติ (ผลิตสารเติมแต่ง) มันจะกลายเป็นจริงของฮอร์นมากมายซึ่งสามารถจัดหาต้องการของมนุษย์จึงจำเป็นที่จะต้องลบล้าง "งานจะมีชีวิตอยู่"? ในขณะที่รายละเอียดทางกายภาพและทางเศรษฐกิจการสร้างนี้ "Black Swan" ผลที่ยังไม่มีความชัดเจนในวัฒนธรรมและคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนวิธีที่เราเห็นการทำงานในอนาคตอันใกล้. Boomer เกษียณหลายคนดูเหมือนจะย้ายออกไปจากความคิดของ "การทำงาน กับราคาเพียงอย่างเดียว "(หรือที่ทั้งหมด) จำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้เกษียณมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ค่าให้กับสังคมในฐานะอาสาสมัครได้โดยไม่ต้องได้รับผลตอบแทนในลักษณะแบบดั้งเดิม ในทางตรงกันข้ามหลาย Millennials มัธยมจบการศึกษายอมรับว่าการทำงานและเอกลักษณ์ที่จะให้อาจจะไม่เป็นที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตส่วนตัวหรือสังคมมักจะเห็นการทำงานเป็น "แค่งานจะได้รับโดย" (42% ในการสำรวจ Pew) . ในฐานะที่เป็นลักษณะที่บุคคลและผองเพื่อนประชากรของพวกเขามองโลกของการเปลี่ยนแปลงการทำงานและเป็นค่านิยมของสังคมมีวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในทัศนคติและรูปร่างการดำเนินการในอนาคตของการทำงานเพียงเท่าที่เทคโนโลยีและกองกำลังทางเศรษฐกิจ ในอนาคตได้เสมอผลของความหลากหลายของปัจจัยการโต้ตอบและการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติขับรถพฤติกรรมของมนุษย์ได้มากหรือมากกว่าอัตโนมัติหรือถดถอย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประชากรแรงงานที่ทำงาน

หนึ่งกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงจะพิสูจน์ให้เป็นอย่างมาก และยั่งยืน เป็นหนึ่งในผู้ที่อายุมากกว่า 55 ใน 2012 , เพียง ญี่ปุ่นถึง 30% หรือมากกว่าของประชาชนที่มีอายุมากกว่า 55 ปี แต่โดยปี 2030 จะมี 64 ประเทศในประเภท ( สหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวจะได้ 34% และยุโรปจะเป็นภูมิภาคที่เก่าแก่ที่สุด 36 %

)สุขภาพยังคงเหตุผลด้านบนสำหรับเกษียณอายุก่อนกำหนด แต่ 39% ปล่อยว่างมากขึ้น ส่วนใหญ่ยังมองหาโซลูชั่นใหม่เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลระยะยาว

ในทางตรงกันข้ามกับก่อนหน้านี้ Sunbelt migrations ในสหรัฐอเมริกาเกษียณในสถานที่ที่มีการเติบโตมากทั่วไป แม้แต่ในพื้นที่เขตที่มีหิมะตกหนักทุกปี .จุดสิ้นสุดของบูมเมอร์ " บูม " ใน 2030 แล้วชี้ว่า การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจจะมา

ส่วนเพื่อนร่วมงานอื่นพนักงานกังวลเป็น millennials หลายคนที่ไม่ไปวิทยาลัย การสำรวจศูนย์วิจัยล่าสุดพบว่าลูกจ้างอายุพันปี ( ตอนนี้ 24 – 32 ปี ) ผู้สำเร็จการศึกษามัธยมปลาย คือ รายได้เฉลี่ยของ $ 18000 น้อยลงทุกปีกว่าบัณฑิตวิทยาลัยในกลุ่มอายุเดียวกัน ดี พวกเขามี 4 ครั้งมีแนวโน้มที่จะตกงาน ( 12% ) และสามครั้งมีแนวโน้มที่จะอาศัยอยู่ใต้เส้นความยากจน ( 22% )

ส่วนคนงานที่เกษียณอายุเฉลี่ยตอนนี้ทำงาน 4.2 ปีอดีต ฉายวันที่เกษียณและเกือบ 70% พิจารณาแสวงหาการจ้างงานบางอย่างหลังจากที่อย่างเป็นทางการเท่านั้น .นี้จะรวมถึงการเกษียณอายุ Flex และอาสาสมัครในการใช้ทักษะชีวิตที่จะช่วยให้ไม่หวังผลกําไร

แน่นอน การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในสังคม รูปแบบประกันสังคมในศตวรรษที่ยี่สิบสร้างขึ้นบนสมมติฐานของ 150 คนงานแต่ละคนเกษียณ โดย 2030 , เราควรคาดหวังว่าอัตราส่วนในสหรัฐอเมริกาจะลง 2 คนแต่ละคนเกษียณนั่นหมายความว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญๆ เช่น จะเป็นตัวแทนของ millennials 30% ของเขตเลือกตั้งโดย 2030 และ 12 เปอร์เซ็นต์การว่างงานสำหรับผู้ที่มีเพียงประกาศนียบัตรมัธยมปลาย portends จังหวัดไม่พอใจ ให้ข้อเท็จจริงว่า จะมี 80 ล้าน millennials ในสหรัฐอเมริกาโดย 2020 , พวกเขาจะเป็นแรงทางการเมืองที่จะคาดคิดด้วย .