Significant level p=0.01 (p>0.01)**

Significant level p=0.01 (p>0.01)** r = pearson’s correlation value
From Table 4, it can be seen that there are quite a number of leadership styles which are correlated to the
students’ achievement (Religious Primary School Exam) although the correlation values r are not strong. Some
of the styles which are correlated with the students’ achievement for 4 consecutive years (2008-2011) are like
having a firm stand in all matters, easily understood by all staffs, treat everybody in the school equally and
willing to accept changes. The significant level is at p=0.01 .
Furthermore, correlation is seen between the ‘consideration-oriented’ leadership style and the students’
achievement for 3 consecutive years (2008-2011) although the correlation values are not strong, namely being
firm, willing to listen to teachers’ problems and feeling of care towards the teachers’ welfare.
In 2008, there are 11 items on ‘consideration-oriented’ leadership styles which are weakly correlated to the
students’ achievement such as being firm in all tasks given, like to help teachers, easily understood and
communicate well with teachers, being a good listener to the teachers’ problems, practice no favouritism, open
minded and willing to accept changes. On the other hand, in 2011, there are fewer ‘consideration-oriented’
leadership styles which correlate with the students’ acievement, namely, being able to communicate and
understand teachers’ needs, no favouritism and able to adapt with new changes.
From the Table 4, it can be concluded that the headmasters in the religious schools in the Tutong District do

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Significant level p=0.01 (p>0.01)** r = pearson’s correlation valueFrom Table 4, it can be seen that there are quite a number of leadership styles which are correlated to thestudents’ achievement (Religious Primary School Exam) although the correlation values r are not strong. Someof the styles which are correlated with the students’ achievement for 4 consecutive years (2008-2011) are likehaving a firm stand in all matters, easily understood by all staffs, treat everybody in the school equally andwilling to accept changes. The significant level is at p=0.01 .Furthermore, correlation is seen between the ‘consideration-oriented’ leadership style and the students’achievement for 3 consecutive years (2008-2011) although the correlation values are not strong, namely beingfirm, willing to listen to teachers’ problems and feeling of care towards the teachers’ welfare.In 2008, there are 11 items on ‘consideration-oriented’ leadership styles which are weakly correlated to thestudents’ achievement such as being firm in all tasks given, like to help teachers, easily understood andcommunicate well with teachers, being a good listener to the teachers’ problems, practice no favouritism, openminded and willing to accept changes. On the other hand, in 2011, there are fewer ‘consideration-oriented’leadership styles which correlate with the students’ acievement, namely, being able to communicate andเข้าใจความต้องการครู favouritism ไม่สามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และจากตาราง 4 มันสามารถสรุปได้ที่ headmasters ในโรงเรียนศาสนาในการตูทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

P = ระดับนัยสำคัญ 0.01 (p> 0.01) ** r = ค่าสหสัมพันธ์เพียร์สัน
จากตารางที่ 4 ก็จะเห็นได้ว่ามีจำนวนมากของรูปแบบความเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์กับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (ตรวจสอบทางศาสนาโรงเรียนประถม) แม้ว่า ค่าสหสัมพันธ์ r จะไม่แข็งแรง บางส่วน
ของรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน (2008-2011) เป็นเหมือน
มีขาตั้งที่มั่นคงในทุกเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายโดยพนักงานทุกคนปฏิบัติต่อทุกคนในโรงเรียนอย่างเท่าเทียมกันและ
ยินดีที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ระดับนัยสำคัญที่ p = 0.01.
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจะเห็นลักษณะการเป็นผู้นำ 'ที่มุ่งเน้นการพิจารณาและนักเรียน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน (2008-2011) แม้ว่าค่าความสัมพันธ์ที่ไม่แข็งแรงคือการเป็น
บริษัท ที่เต็มใจ เพื่อรับฟังปัญหาและความรู้สึกของการดูแลที่มีต่อครูครูสวัสดิการ.
ในปี 2008 มี 11 รายการใน 'การพิจารณาที่มุ่งเน้นรูปแบบการเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเช่น บริษัท ถูกในงานทั้งหมดที่ได้รับเช่น ที่จะช่วยให้ครูเข้าใจได้ง่ายและ
สื่อสารได้ดีกับครูเป็นผู้ฟังที่ดีในการแก้ไขปัญหาของครูฝึกการเล่นพรรคเล่นพวกไม่เปิด
ใจและเต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ในทางกลับกันในปี 2011 มีจำนวนน้อย 'ที่มุ่งเน้นการพิจารณา'
รูปแบบการเป็นผู้นำที่มีความสัมพันธ์กับนักเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการคือความสามารถในการสื่อสารและการ
ทำความเข้าใจของครูความต้องการไม่มีความลำเอียงและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่.
จาก ตารางที่ 4 ก็สามารถสรุปได้ว่าอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในอำเภอ Tutong ทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p = 0.01 ( p < 0.01 ) * * r = ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันค่า
จากตารางที่ 4 จะเห็นได้ว่ามีจำนวนของภาวะผู้นำที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (
ศาสนาโรงเรียนสอบ ) แม้ว่าความสัมพันธ์ค่า R จะไม่แข็งแรง บาง
ของรูปแบบซึ่งมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 4 ปีติดต่อกัน ( 2008-2011
) เหมือนการยืนหยัดในเรื่องทั้งหมด ที่เข้าใจได้ง่าย โดยพนักงานทุกคนปฏิบัติกับทุกคนในโรงเรียนอย่างเท่าเทียมกันและ
เต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง ระดับนัยสำคัญที่ P = 0.01
นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง ' ' เห็นการเน้นความเป็นผู้นำและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา
3 ปีติดต่อกัน ( 2008-2011 ) แม้ว่าความสัมพันธ์ค่านิยมไม่แรง คือถูก
มั่นคงอยากฟังครูปัญหาและความรู้สึกของการดูแลที่มีต่อครู สวัสดิการ .
ในปี 2008 มี 11 ข้อพิจารณาเชิง ' ' ภาวะผู้นำซึ่งมีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างอ่อน
' เช่นเป็น บริษัท ในงานที่ได้รับ เช่น อาจารย์ช่วย ที่เข้าใจได้ง่าย และสื่อสารกับครู
การเป็นผู้ฟังที่ดีของครู ปัญหาการปฏิบัติ ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก เปิดใจ และเต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง
. บนมืออื่น ๆ , ใน 2011 มีการพิจารณาน้อยลง ' เน้น '
ภาวะผู้นำซึ่งมีความสัมพันธ์กับนักเรียน acievement คือ สามารถสื่อสารและ
เข้าใจความต้องการของครู ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก และสามารถปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ .
จากตารางที่ 4สรุปได้ว่า อาจารย์ใหญ่ในโรงเรียนศาสนาในทูบีทำ