สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่า การแปล - สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่า ไทย วิธีการพูด

สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตล

สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอด เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่านำเข้าเป็นการนำเข้าเพื่อส่งออกต่อ รวมถึงการส่งออกสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นด้วย ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 การค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์มีมูลค่า 407.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออก 218.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.5 ในจำนวนนี้เป็นสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ 113.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณร้อยละ 52 ของมูลค่าส่งออกรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่นำเข้า 189.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 แต่เป็นการนำเข้าเพื่อใช้ในประเทศเพียง 84.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ทำให้สิงคโปร์ได้เปรียบดุลการค้า 29.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เป้าหมายหลักของนโยบายการค้าของสิงคโปร์ คือ การขยายฐานทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจของคนสิงคโปร์ในตลาดต่างประเทศ การพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เป็นธรรมและคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และการลดข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความโปร่งใสของกฎระเบียบและการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น โดยในปี 2556 สิงคโปร์ถูกจัดอันดับโดยองค์กรด้านความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International: TI) ให้เป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก จาก 176 ประเทศ รองจากเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ และสวีเดน และเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ซึ่งมีลักษณะเด่นในเรื่องการมีระบบกฎหมายที่เหมาะสม ความสม่ำเสมอในการดำเนินงานตามกฎหมาย และการเข้าถึงข้อมูลและหน่วยงานภาครัฐที่มีความน่าเชื่อถือ ผลจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสรีด้านการค้าและการลงทุน ทั้งยังมีความง่ายในการทำธุรกิจมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ดี สิงคโปร์ยังถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีช่องว่างของรายได้สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก จาก 42 ประเทศที่มีการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์สูง (ตามดัชนีของ UNDP ในปี 2553) ทั้งยังกำลังเผชิญกับความท้าทายของการเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ และการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ

ด้านการค้าสินค้า สิงคโปร์สนับสนุนระบบการค้าเสรี โดยได้มีการลงนามและอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี ทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค รวม 18 ฉบับ ครอบคลุมประเทศสมาชิก 24 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้นโยบายการค้าเสรีของสิงคโปร์ ปัจจุบันสิงคโปร์มีภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทุกรายการเป็นร้อยละ 0 (ยกเว้น 6 รายการ เช่น เบียร์ และเครื่องดื่มแอกอฮอล์) แม้ว่ายังมีการห้ามนำเข้าสินค้าบางรายการด้วยเหตุผลส่วนใหญ่ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับข้อผูกพันระหว่างประเทศของสิงคโปร์ เช่น หมากฝรั่ง และรถยนต์ใช้แล้วนานกว่า 3 ปี สำหรับการนำเข้าข้าว สิงคโปร์มีการบริหารจัดการการนำเข้าผ่านการดำเนินยุทธศาสตร์การสำรองข้าวเพื่อตอบสนองความมั่นคงด้านอาหาร โดยมีการใช้มาตรการขอใบอนุญาตนำเข้าจาก International Enterprise Singapore (IE Singapore) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้มีปริมาณข้าวสำรองในปริมาณเทียบเท่ากับ 2 เดือนของการนำเข้า

ด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า สิงคโปร์ได้นำระบบ Single Window มาใช้ในพิธีการศุลกากรซึ่งช่วยให้ผู้ทำการค้าสามารถยื่นเอกสารการนำเข้า-ส่งออก ณ จุดเดียว ผ่านทางเว็ปไซต์ โดยเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ทำให้ผู้ทำการค้าสามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้ภายในเวลาประมาณ 10 นาที

ด้านการลงทุน สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนขาออกสุทธิ คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 20.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ในช่วงปี 2550-2554 ขณะเดียวกัน ยังเป็นประเทศผู้รับการลงทุนที่สำคัญของโลก โดยนับตั้งแต่ปี 2550 มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศเฉลี่ยปีละเกือบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากสิงคโปร์มีข้อจำกัดด้านการลงทุนน้อยมาก แม้ว่ายังคงมีอยู่ในบางสาขา เช่น สื่อสารมวลชน บริการด้านกฎหมาย และธนาคารพาณิชย์ ในแง่สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน สิงคโปร์ให้สิทธิประโยชน์ทั้งด้านภาษีและที่มิใช่ภาษีแก่นักลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการออกไปลงทุนของผู้ประกอบการในประเทศเพื่อขยายฐานการผลิตในต่างประเทศ ส่งเสริมการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาและการฝึกอบรม และเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรจากภายนอก ขณะเดียวกัน ยังให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลกในสิงคโปร์ เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเพื่อเสริมสร้างให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางด้านบริการ ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนของสิงคโปร์มุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้เข้มข้น อาทิ การจัดโครงการฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่นให้มีทักษะและความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมตามความต้องการของงาน

ด้านบริการ ถือเป็นสาขาที่มีความสำคัญที่สุดของสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมากกว่า 2 ใน 3 และมีการจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมด ทั้งนี้ ในช่วงปี 2550-2554 สาขาบริการที่มีอัตราการขยายตัวสูง คือ การเงินและการประกันภัย บริการธุรกิจ บริการด้านที่พักและอาหาร การค้าส่งและปลีก การขนส่งและโกดัง ขณะที่สาขาที่มีความเข้มแข็ง คือ การเงินและธนาคาร โดยมีจุดแข็งด้านความยืดหยุ่นต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งส่งผลให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ การมีมาตรฐานด้านกฎระเบียบสูง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ และการมีบุคลากรทางด้านการเงินที่มีศักยภาพ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอดเนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่านำเข้าเป็นการนำเข้าเพื่อส่งออกต่อรวมถึงการส่งออกสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นด้วยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 การค้าระหว่างประเทศของสิงคโปร์มีมูลค่า 407.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออก 218.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.5 ในจำนวนนี้เป็นสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ 113.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณร้อยละ 52 ของมูลค่าส่งออกรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่นำเข้า 189.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 แต่เป็นการนำเข้าเพื่อใช้ในประเทศเพียง 84.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ทำให้สิงคโปร์ได้เปรียบดุลการค้า 29.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป้าหมายหลักของนโยบายการค้าของสิงคโปร์คือการขยายฐานทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจของคนสิงคโปร์ในตลาดต่างประเทศการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เป็นธรรมและคาดการณ์ล่วงหน้าได้และการลดข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าเกือบทั้งหมดนอกจากนี้สิงคโปร์ยังให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความโปร่งใสของกฎระเบียบและการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นโดยในปี 2556 สิงคโปร์ถูกจัดอันดับโดยองค์กรด้านความโปร่งใสระหว่างประเทศ (ความโปร่งใสนานาชาติ: ตี้) ให้เป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกประเทจาก 176ศรองจากเดนมาร์กฟินแลนด์นิวซีแลนด์และสวีเดนและเป็นอันดับ 1 ในเอเชียซึ่งมีลักษณะเด่นในเรื่องการมีระบบกฎหมายที่เหมาะสมความสม่ำเสมอในการดำเนินงานตามกฎหมายและการเข้าถึงข้อมูลและหน่วยงานภาครัฐที่มีความน่าเชื่อถือผลจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวทำให้ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสรีด้านการค้าและการลงทุนทั้งยังมีความง่ายในการทำธุรกิจมากที่สุดในโลกอย่างไรก็ดีสิงคโปร์ยังถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีช่องว่างของรายได้สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกจาก 42 ประเทศที่มีการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์สูง (ตามดัชนีของ UNDP ในปี 2553) ทั้งยังกำลังเผชิญกับความท้าทายของการเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำด้านการค้าสินค้าสิงคโปร์สนับสนุนระบบการค้าเสรีโดยได้มีการลงนามและอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาครวม 18 ฉบับครอบคลุมประเทศสมาชิก 24 ประเทศส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายใต้นโยบายการค้าเสรีของสิงคโปร์ปัจจุบันสิงคโปร์มีภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทุกรายการเป็นร้อยละ 0 (ยกเว้น 6 รายการเช่นเบียร์และเครื่องดื่มแอกอฮอล์) แม้ว่ายังมีการห้ามนำเข้าสินค้าบางรายการด้วยเหตุผลส่วนใหญ่ด้านสุขภาพความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมซึ่งสอดคล้องกับข้อผูกพันระหว่างประเทศของสิงคโปร์เช่นหมากฝรั่งและรถยนต์ใช้แล้วนานกว่า 3 ปีสำหรับการนำเข้าข้าวสิงคโปร์มีการบริหารจัดการการนำเข้าผ่านการดำเนินยุทธศาสตร์การสำรองข้าวเพื่อตอบสนองความมั่นคงด้านอาหารโดยมีการใช้มาตรการขอใบอนุญาตนำเข้าจากองค์กรระหว่างประเทศสิงคโปร์ (สิงคโปร์ IE) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการค้าระหว่างประเทศเพื่อให้มีปริมาณข้าวสำรองในปริมาณเทียบเท่ากับ 2 เดือนของการนำเข้าด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าสิงคโปร์ได้นำระบบหน้าต่างเดียวมาใช้ในพิธีการศุลกากรซึ่งช่วยให้ผู้ทำการค้าสามารถยื่นเอกสารการนำเข้าส่งออกณจุดเดียวผ่านทางเว็ปไซต์โดยเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งระบบทำให้ผู้ทำการค้าสามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้ภายในเวลาประมาณ 10 นาทีด้านการลงทุนสิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนขาออกสุทธิคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 20.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในช่วงปี 2550-2554 ขณะเดียวกันยังเป็นประเทศผู้รับการลงทุนที่สำคัญของโลกโดยนับตั้งแต่ปี 2550 มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศเฉลี่ยปีละเกือบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากสิงคโปร์มีข้อจำกัดด้านการลงทุนน้อยมากแม้ว่ายังคงมีอยู่ในบางสาขาเช่นสื่อสารมวลชนบริการด้านกฎหมายและธนาคารพาณิชย์ในแง่สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนสิงคโปร์ให้สิทธิประโยชน์ทั้งด้านภาษีและที่มิใช่ภาษีแก่นักลงทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการออกไปลงทุนของผู้ประกอบการในประเทศเพื่อขยายฐานการผลิตในต่างประเทศส่งเสริมการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาและการฝึกอบรมและเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรจากภายนอกขณะเดียวกันยังให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคและระดับโลกในสิงคโปร์เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและเพื่อเสริมสร้างให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางด้านบริการทั้งนี้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนของสิงคโปร์มุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้ความเชี่ยวชาญและความรู้เข้มข้นอาทิการจัดโครงการฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่นให้มีทักษะและความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมตามความต้องการของงานด้านบริการ ถือเป็นสาขาที่มีความสำคัญที่สุดของสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมากกว่า 2 ใน 3 และมีการจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมด ทั้งนี้ ในช่วงปี 2550-2554 สาขาบริการที่มีอัตราการขยายตัวสูง คือ การเงินและการประกันภัย บริการธุรกิจ บริการด้านที่พักและอาหาร การค้าส่งและปลีก การขนส่งและโกดัง ขณะที่สาขาที่มีความเข้มแข็ง คือ การเงินและธนาคาร โดยมีจุดแข็งด้านความยืดหยุ่นต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน ซึ่งส่งผลให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ การมีมาตรฐานด้านกฎระเบียบสูง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ และการมีบุคลากรทางด้านการเงินที่มีศักยภาพ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 407.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นการส่งออก 218.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.5 113.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณร้อยละ 52 ของมูลค่าส่งออกรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่นำเข้า 189.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 84.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ทำให้สิงคโปร์ได้เปรียบดุลการค้า 29.6
คือ นอกจากนี้ โดยในปี 2556 (Transparency International: TI) 5 ของโลกจาก 176 ประเทศรองจากเดนมาร์กฟินแลนด์นิวซีแลนด์และสวีเดนและเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ผลจากการดำเนินนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ดี 2 ของโลกจาก 42 (ตามดัชนีของ UNDP ในปี 2553) สิงคโปร์สนับสนุนระบบการค้าเสรี ทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาครวม 18 ฉบับครอบคลุมประเทศสมาชิก 24 ประเทศ ภายใต้นโยบายการค้าเสรีของสิงคโปร์ 0 (ยกเว้น 6 รายการเช่นเบียร์และเครื่องดื่มแอกอฮอล์) ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม เช่นหมากฝรั่งและรถยนต์ใช้แล้วนานกว่า 3 ปีสำหรับการนำเข้าข้าว International Enterprise Singapore (IE Singapore) 2 สิงคโปร์ได้นำระบบหน้าต่างเดียว ณ จุดเดียวผ่านทางเว็ปไซต์ 10 นาทีด้านการลงทุน คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 20.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในช่วงปี 2550-2554 ขณะเดียวกัน โดยนับตั้งแต่ปี 2550 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่ายังคงมีอยู่ในบางสาขาเช่นสื่อสารมวลชนบริการด้านกฎหมายและธนาคารพาณิชย์ในแง่สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน ขณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งนี้ อาทิ 2 ใน 3 และมีการจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมดทั้งนี้ในช่วงปี 2550-2554 สาขาบริการที่มีอัตราการขยายตัวสูงคือการเงินและการประกันภัยบริการธุรกิจบริการด้านที่พักและอาหารการค้าส่งและปลีกการขนส่ง และโกดังขณะที่สาขาที่มีความเข้มแข็งคือการเงินและธนาคาร โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือการมีมาตรฐานด้านกฎระเบียบสูง








การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
สิงคโปร์ก็ได้เปรียบดุลการค้ามาโดยตลอดเนื่องจากกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่านำเข้าเป็นการนำเข้าเพื่อส่งออกต่อรวมถึงการส่งออกสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นด้วยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550407 .8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นการส่งออก 218.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.5 ในจำนวนนี้เป็นสินค้าที่ผลิตในสิงคโปร์ 1137 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณร้อยละ 52 ของมูลค่าส่งออกรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ขณะที่นำเข้า 189.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 แต่เป็นการนำเข้าเพื่อใช้ในประเทศเพียง 841 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ทำให้สิงคโปร์ได้เปรียบดุลการค้าราวพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เป้าหมายหลักของนโยบายการค้าของสิงคโปร์ความการขยายฐานทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจของคนสิงคโปร์ในตลาดต่างประเทศการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เป็นธรรมและคาดการณ์ล่วงหน้าได้
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: