การจัดการน้ำเพื่อการเกษตรนั้นมีความหลากหลาย และแตกต่างกันตามระบบนิเวศของธรรมชาติที่ได้สร้างขึ้นซึ่งต้องยอมรับว่ามนุษย์เราเองในอดีตได้พึ่งพาอาศัยธรรมชาติในการดำเนินวิถีชีวิตที่สอดคล้อง แล้วก่อให้เกิดองค์ความรู้ในการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพโดยการจัดการน้ำในอดีตนั้นจะเน้นในเรื่องของการจัดหาน้ำ สำหรับใช้ในในการทำการเกษตรในฤดูแล้ง ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยมีสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นพื้นราบสลับกับภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งกำเนิดของธารน้ำเล็กๆ หลายๆสาย ที่ไหลมารวมกันกลายเป็นลำน้ำสายใหญ่จึงเกิดการไหลจากที่สูงลงมาสู่ที่ต่ำ ดังนั้นธรรมชาติของการไหลของแม่น้ำในภาคเหนือจึงไหลเร็ว และแรง การเก็บกักน้ำเพื่อที่จะนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรกรรมจึงเป็นไปด้วยความลำบาก ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ชาวล้านนาเกิดการคิดค้นวิธีเก็บกักเก็บน้ำโดยใช้วิธีการสร้างฝายกั้นน้ำและขุดคูคลอง หรือที่ชาวล้านนาเรียกว่า ลำเหมือง เพื่อเป็นการกระจายน้ำให้ไหลไปสู่พื้นที่นาหรือพื้นที่เกษตรกรรมการสร้างเหมืองฝายจึงต้องอาศัยความรู้ในเรื่องของภูมิศาสตร์ การไหลของน้ำ และการจัดการสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เกี่ยวข้อง “กลุ่มเหมืองฝาย” ถือว่าเป็นองค์กรทางสังคมที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น โดยในกลุ่มผู้ที่ใช้น้ำจากฝายเดียวกันจะมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องของข้อตกลง จึงทำให้เกิดความเสมอภาคและเท่าเทียม ซึ่งเป็นการรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มเหมืองฝายจะเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เข้ามามีบทบาทในการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรในชุมชน แต่ในตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่นั้น ไม่ได้มีแค่เพียงกลุ่มเหมืองฝายเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ที่เข้ามามีบทบาทในการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ เพราะยังมีกลุ่ม 5 ภาคีตำบลโหล่งขอด ซึ่งประกอบด้วย 1)คณะสงฆ์ตำบลโหล่งขอด 2)ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลโหล่งขอด 3)องค์การบริหารส่วนตำบลโหล่งขอด 4)ชมรมผู้สูงอายุตำบลโหล่งขอด และ 5)กลุ่มสตรีแม่บ้านตำบลโหล่งขอด ที่เข้ามาร่วมกันจัดการกับปัญหาที่เกี่ยกับทรัพยากรน้ำ ตลอดจนวางแผนในการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรในอนาคตอีกด้วย บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอบริบท, วิธีการ ของการจัดการน้ำเพื่อการเกษตร และปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของกลุ่มเหมืองฝายตำบลโหล่งขอด รวมไปถึงปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนาการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรในอนาคต