The results of the 24 datasets, onl

The results of the 24 datasets, only the datasets with the consequence of “schizophrenia” in the association rule were selected to represent the results of the study (Table 4.2). From the dataset No.11, 94% of the patients diagnosed with amphetamine use in the duration of 7 to 12 months were likely to have schizophrenia with the measure of rule 1.39, and with the strong belief of rule 5.21. From the dataset No.12, 96% of the single male patients in Bangkok diagnosed with nicotine use in diagnosis at the age of 35 to 44 years old were likely to have schizophrenia with the measure of rule 1.42, and with the strong belief of rule 7.82. From the dataset No.22, 95% of the patients diagnosed with nicotine dependence, and amphetamine dependence were likely to have schizophrenia with the measure of rule 1.41, and with the strong belief of rule 6.84. From the dataset No.24, 96% of the single male patients in Bangkok diagnosed with nicotine dependence in the age of 35 to 44 years old were likely to have schizophrenia with the measure of rule 1.42, and with the strong belief of rule 7.82. To put the results together, the single male in Bangkok diagnosed with nicotine and/or amphetamine use and/or dependence at the age of 35 to 44 years old with the use of a period of 7 to 12 months was at associated with having schizophrenia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์ของ datasets 24 เฉพาะ datasets ด้วยสัจจะของ "โรคจิตเภท" ในกฎความสัมพันธ์ถูกเลือกเพื่อแสดงผลการศึกษา (ตารางที่ 4.2) จากชุดข้อมูล No.11, 94% ของผู้ป่วยการวินิจฉัย ด้วยการใช้แอมเฟตามีนในระยะเวลา 7-12 เดือนมีแนวโน้มที่จะมีโรคจิตเภท กับวัดกฎ 1.39 และความแข็งแกร่งของกฎ 5.21 จากชุดข้อมูล No.12, 96% ของผู้ป่วยชายเดี่ยวในการวินิจฉัย ด้วยการใช้นิโคตินในการวินิจฉัยอายุ 35-44 ปีมีแนวโน้มที่จะมีโรคจิตเภท กับวัดกฎ 1.42 และความแข็งแกร่งของกฎ 7.82 จากชุดข้อมูล No.22, 95% ของผู้ป่วยการวินิจฉัย มีนิโคตินพึ่งพา และพึ่งพาแอมเฟตามีนมีแนวโน้มที่จะมีโรคจิตเภท กับวัดกฎ 1.41 และความแข็งแกร่งของกฎ 6.84 จากชุดข้อมูล No.24, 96% ของผู้ป่วยชายเดี่ยวในการวินิจฉัย มีนิโคตินการพึ่งพาในอายุ 35-44 ปีมีแนวโน้มที่จะมีโรคจิตเภท กับวัดกฎ 1.42 และความแข็งแกร่งของกฎ 7.82 ประกอบผล ชายเดี่ยวในการวินิจฉัยใช้นิโคตินหรือแอมเฟตามีนและ/หรือพึ่งพาอายุ 35-44 ปีมีการใช้เป็นระยะเวลา 7-12 เดือนได้ที่เกี่ยวข้องกับการมีโรคจิตเภท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลที่ได้จาก 24 ชุดข้อมูลเพียงชุดข้อมูลที่มีผลมาจากการ "จิตเภท" ในการปกครองของสมาคมฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของผลการศึกษา (ตารางที่ 4.2) จากครั้งที่ 11 ชุดที่ 94% ของผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่มีการใช้ยาในระยะเวลา 7 ถึง 12 เดือนมีแนวโน้มที่จะมีอาการจิตเภทที่มีตัวชี้วัดของการปกครอง 1.39 และมีความเชื่อมั่นของการปกครอง 5.21 จากชุดที่ 12, 96% ของผู้ป่วยชายเดี่ยวในกรุงเทพฯได้รับการวินิจฉัยที่มีการใช้สารนิโคตินในการวินิจฉัยที่อายุ 35-44 ปีมีแนวโน้มที่จะมีอาการจิตเภทที่มีตัวชี้วัดของการปกครอง 1.42 และมีความเชื่อมั่นของการปกครอง 7.82 จากชุดที่ 22, 95% ของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยที่มีการพึ่งพานิโคตินและการพึ่งพาแอมเฟตามีแนวโน้มที่จะมีอาการจิตเภทที่มีตัวชี้วัดของการปกครอง 1.41 และมีความเชื่อมั่นของการปกครอง 6.84 จากชุดข้อมูล No.24, 96% ของผู้ป่วยชายเดี่ยวในกรุงเทพฯการวินิจฉัยว่ามีการพึ่งพาสารนิโคตินในอายุ 35-44 ปีมีแนวโน้มที่จะมีอาการจิตเภทที่มีตัวชี้วัดของการปกครอง 1.42 และมีความเชื่อมั่นของการปกครอง 7.82 ที่จะนำผลที่ได้มารวมกันที่ชายเดี่ยวในกรุงเทพฯการวินิจฉัยว่ามีสารนิโคตินและ / หรือการใช้ยาบ้าและ / หรือการพึ่งพาอาศัยกันที่อายุ 35-44 ปีมีการใช้เป็นระยะเวลา 7-12 เดือนได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการมีอาการจิตเภท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีการวิจัยว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้