A pilot study to assess if urine sp

A pilot study to assess if urine specific gravity and urine colour charts are useful indicators of dehydration in acute stroke patients
Abstract
Aim. The purpose of this pilot study was to examine whether urine specific gravity and urine colour could provide an early warning of dehydration in stroke patients compared with standard blood indicators of hydration status.
Background.Dehydration after stroke has been associated with increased blood viscosity, venous thrombo-embolism and stroke mortality at 3-months. Earlier identification of dehydration might allow us to intervene to prevent significant dehydration developing or reduce its duration to improve patient outcomes.
Methods. We recruited 20 stroke patients in 2007 and measured their urine specific gravity with urine test strips, a refractometer, and urine colour of specimens taken daily on 10 consecutive days and compared with the routine blood urea:creatinine ratios over the same period to look for trends and relationships over time. The agreement between the refractometer,test strips and urine colour were expressed as a percentage with 95% confidence intervals.
Results. Nine(45%) of the 20 stroke patients had clinical signs of dehydration and had a significantly higher admission median urea:creatinine ratio (P=0.02, Mann-Whitney U-test).There were no obvious relationships between urine specific gravity and urine colour with the urea:creatinine ratio. Of the 174 urine samples collected, the refractometer agreed with 70/174 (40%) urine test strip urine specific gravity and 117/174 (67%) urine colour measurements.
Conclusions. Our results do not support the use of the urine test strip urine specific gravity as an early indicator of dehydration. Further research is required to develop a practical tool for the early detection of dehydration in stroke patients.
Keywords:acute stroke,complication,dehydration,hydration,urine specific gravity

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานำร่องการประเมินถ้าความถ่วงจำเพาะปัสสาวะและปัสสาวะสีแผนภูมิมีตัวบ่งชี้ประโยชน์ของการคายน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันบทคัดย่อจุดมุ่งหมาย วัตถุประสงค์ของการศึกษานำร่องนี้ถูกตรวจสอบว่าแรงโน้มถ่วงเฉพาะปัสสาวะและสีปัสสาวะสามารถให้เตือนเป็นช่วงของการคายน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเมื่อเทียบกับเลือดมาตรฐานตัวบ่งชี้สถานะไล่น้ำBackground.Dehydration หลังจากจังหวะได้สัมพันธ์กับความหนืดของเลือดเพิ่มขึ้น เครื่อง thrombo ดำ และเส้นตายที่ 3 เดือน รหัสก่อนหน้าของการคายน้ำอาจช่วยให้เราสามารถแทรกแซงเพื่อป้องกันการคายน้ำสำคัญพัฒนา หรือลดระยะเวลาในการปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยวิธี เราคัดผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 20 ในปี 2007 และวัดถ่วงในปัสสาวะของแถบทดสอบปัสสาวะ refractometer และสีปัสสาวะของไว้เป็นตัวอย่างมาในทุก 10 วันติดต่อกัน และเมื่อเทียบกับอัตราส่วนยูเรีย: creatinine เลือดประจำรอบระยะเวลาเดียวกันเพื่อหาแนวโน้มและความสัมพันธ์เวลา ข้อตกลงระหว่าง refractometer แถบทดสอบ และปัสสาวะสีที่แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์กับช่วงความเชื่อมั่น 95%ผลลัพธ์ที่ Nine(45%) ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 20 มีอาการทางคลินิกของการคายน้ำ และมีอัตราส่วนมัธยฐานยูเรีย: creatinine เข้าที่อย่างมีนัยสำคัญ (P = 0.02 วิทนีย์มานน์ U-ทดสอบ)มีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนระหว่างความถ่วงจำเพาะปัสสาวะและสีปัสสาวะ มีอัตราส่วนของยูเรีย: creatinine อย่าง 174 ปัสสาวะเก็บ refractometer ที่ตกลงกับปัสสาวะ (40%) ทดสอบแถบปัสสาวะเฉพาะแรงโน้มถ่วงและการวัดสีปัสสาวะ (67%) 117/174 70/174บทสรุปของการ ผลของเราสนับสนุนการใช้ปัสสาวะทดสอบแถบปัสสาวะถ่วงเป็นตัวบ่งชี้เริ่มต้นของการคายน้ำ วิจัยเพิ่มเติมจะต้องพัฒนาเครื่องมือปฏิบัติสำหรับการตรวจหาช่วงของการคายน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองคำสำคัญ: โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน ภาวะแทรกซ้อน คายน้ำ ไล่น้ำ ความถ่วงจำเพาะปัสสาวะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษานำร่องเพื่อประเมินว่าปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงและแผนภูมิสีปัสสาวะเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ของการขาดน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมาย วัตถุประสงค์ของการศึกษานำร่องครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบว่าปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงและสีปัสสาวะจะให้การเตือนภัยล่วงหน้าของการขาดน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเมื่อเทียบกับตัวชี้วัดมาตรฐานในเลือดของสถานะความชุ่มชื้น.
Background.Dehydration หลังจากที่จังหวะมีความเกี่ยวข้องกับความหนืดของเลือดที่เพิ่มขึ้น Thrombo ดำ -embolism และอัตราการตายโรคหลอดเลือดสมองที่ 3 เดือน บัตรประจำตัวก่อนหน้านี้ของการขาดน้ำอาจจะช่วยให้เราสามารถแทรกแซงเพื่อป้องกันการขาดน้ำอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนาหรือลดระยะเวลาในการปรับปรุงการรักษาผู้ป่วย.
วิธี เราได้รับคัดเลือก 20 ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในปี 2007 และวัดปัสสาวะของพวกเขาแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงกับแถบทดสอบปัสสาวะ Refractometer และสีปัสสาวะของตัวอย่างที่นำมาในชีวิตประจำวันเมื่อวันที่ 10 วันติดต่อกันและเมื่อเทียบกับยูเรียในเลือดประจำอัตราส่วน creatinine ในช่วงเวลาเดียวกันที่จะมองหาแนวโน้ม และความสัมพันธ์ที่เมื่อเวลาผ่านไป ข้อตกลงระหว่าง Refractometer, แถบทดสอบและสีปัสสาวะถูกแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มีช่วงความเชื่อมั่น 95%.
ผล เก้า (45%) ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือด 20 มีอาการทางคลินิกของการขาดน้ำและมีการเข้ารับการรักษาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญยูเรียเฉลี่ยอัตราส่วน creatinine (p = 0.02, Mann-Whitney U-Test) .There ไม่พบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงและปัสสาวะ สีที่มียูเรียอัตรา creatinine ของตัวอย่างปัสสาวะ 174 เก็บ Refractometer เห็นด้วยกับ 70/174 (40%) แถบทดสอบปัสสาวะปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงและ 117/174 (67%) การวัดสีปัสสาวะ.
สรุปผลการวิจัย ผลของเราไม่สนับสนุนการใช้ของปัสสาวะแถบทดสอบปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจงเป็นตัวบ่งชี้ในช่วงต้นของการขาดน้ำ นอกจากนี้การวิจัยจะต้องพัฒนาเครื่องมือในทางปฏิบัติสำหรับการตรวจหาของการขาดน้ำในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง.
คำสำคัญ: โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันแทรกซ้อนแห้งชุ่มชื้นปัสสาวะแรงโน้มถ่วงที่เฉพาะเจาะจง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานำร่องเพื่อประเมินหากปัสสาวะความถ่วงจำเพาะและแผนภูมิสีปัสสาวะจะชี้ประโยชน์ของ dehydration ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันนามธรรม

เล็ง การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาว่า ขับปัสสาวะความถ่วงจำเพาะและสีปัสสาวะสามารถให้การเตือนภัยของร่างกายในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเมื่อเทียบกับมาตรฐาน ตัวบ่งชี้สถานะของเลือด hydration .
พื้นหลังน้ำหลังจากที่จังหวะได้รับเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความหนืดของเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ , thrombo และอัตราการตาย และจังหวะที่ 3-months . ก่อนหน้านี้การขาดน้ำอาจให้เราเข้าไปแทรกแซงเพื่อป้องกันไม่ให้การพัฒนาที่สำคัญ หรือลดระยะเวลาของการปรับปรุงผลการศึกษา .
วิธีเราคัดเลือก 20 ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองใน 2007 และวัดความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะด้วยแถบตรวจปัสสาวะ Refractometer และปัสสาวะสีตัวอย่างถ่ายทุกวัน 10 วันติดต่อกัน และเมื่อเทียบกับเลือดตามปกติ : ครียูเรียอัตราส่วนในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อดูแนวโน้มและความสัมพันธ์ตลอดเวลา ข้อตกลงระหว่าง refractometer ,แผ่นทดสอบและสีปัสสาวะถูกแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์กับช่วงความเชื่อมั่น 95%
ผลลัพธ์ เก้า ( 45% ) ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการทางคลินิกของ 20 dehydration และมีสูงกว่าค่ามัธยฐานส่วนครีเข้ายูเรีย ( P = 0.02 , Mann Whitney U-test ) มีชัดเจนความสัมพันธ์ระหว่างปัสสาวะความถ่วงจำเพาะในปัสสาวะสีด้วยยูเรียต่อครี .ในปัสสาวะ จำนวน 174 , Refractometer เห็นด้วยกับ 70 / 174 ( 40% ) แถบตรวจปัสสาวะปัสสาวะความถ่วงจำเพาะ และ 117 / 174 ( 67% ) การวัดสีปัสสาวะ
สรุป ผลของเราไม่สนับสนุนการใช้แถบทดสอบปัสสาวะปัสสาวะความถ่วงจำเพาะเป็นตัวบ่งชี้ต้นของการขาดน้ำต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาเครื่องมือในทางปฏิบัติสำหรับการตรวจหา dehydration ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง .
คำสำคัญ : ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน อัมพาต อาการขาดน้ำความชุ่มชื้น

โดยเฉพาะปัสสาวะแรงโน้มถ่วง