การศึกษาตัวแบบที่เหมาะสมในการเพาะและขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ Ulva intestinalis ประกอบด้วย สภาวะการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ในต้นพันธุ์จากแหล่งธรรมชาติที่แตกต่างกัน การเหนี่ยวนำให้สร้างเซลล์สืบพันธุ์ และการกระตุ้นให้ปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ และการเลือกชนิดของวัสดุที่เหมาะสมกับการเกาะของเซลล์สืบพันธุ์ และรูปแบบการเลี้ยงในบ่อซิเมนต์และในบ่อดิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขยายพันธุ์สาหร่ายไส้ไก่ได้อย่างต่อเนื่อง การศึกษาสภาวะการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของสาหร่ายไส้ไก่ที่เก็บจาก 4 แหล่ง ได้แก่ บ่อดิน บ่อซิเมนต์ อ่าวปัตตานี และห้องปฏิบัติการ พบว่า รูปแบบการสร้างเซลล์สืบพันธุ์สัมพันธ์กับลักษณะและแหล่งที่พบสาหร่าย การสร้างเซลล์สืบพันธุ์แบบผสมทั้งสองแบบในต้นเดียวกันสัมพันธ์เชิงบวกกับความกว้างของแทลลัส ส่วนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์แบบมีเพศ หรือแกมีต สัมพันธ์แบบผกผันกับค่าความเป็นด่างและแสง แต่มีสัมพันธ์ในเชิงบวกกับ ความยาวของแทลลัส สำหรับการเหนี่ยวนำการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ โดยใช้ปัจจัยกระตุ้น 5 ปัจจัย ประกอบด้วย ขนาดท่อนพันธุ์ การผึ่งลม อุณหภูมิ ความเค็ม และ การเติมสาร CaCl2 ทีละปัจจัย จากใช้ขนาดความยาวท่อนพันธุ์ 5 ระดับ คือ 0.5, 1.0, 1.5, 2.0 และ 3.0 ซม. การผึ่งแห้ง 4 ระดับ คือ 0, 1, 2 และ 3 ชั่วโมง 2 อุณหภูมิ 3 ระดับ คือ 25, 30 และ 35 °C 5 ระดับ และความเค็ม 5 ระดับ คือ 10, 15, 20, 25 และ 30 ppt พบว่า ความยาวท่อนพันธุ์ 0.5-3.0 เซนติเมตร ไม่มีผลต่อการสร้างอับซูโอสปอร์ ส่วนการผึ่งแห้งพบว่าที่เวลา 0 ชม.หรือการไม่ผึ่งแห้ง สร้างอับสปอร์ได้ร้อยละ 97±2 ในเวลา 4 วัน และมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) กับที่เวลาการผึ่งแห้ง 1, 2 และ 3 ชม. ในวันที่ 2 ของการกระตุ้น ที่ โดยสร้างได้ร้อยละ 98±2 5 -100±0 ในเวลา 4 วัน อุณหภูมิ 25°C ทำให้เกิดการสร้างอับซูโอสปอร์ได้มากที่สุดคือร้อยละ 100±0 ในวันที่ 4 สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อเทียบกับอุณหภูมิอื่น โดยระดับความเค็ม 15-30 ppt สามารถสร้างอับซูโอสปอร์ได้ร้อยละ 100±0 ส่วนการเติมสารละลายของแคลเซียมไอออนโดยการเติมสารละลายของ CaCl2 6 และ 18 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่งผลให้มีการสร้างอับซูโอสปอร์มากที่สุดร้อยละ 100±0 ในวันที่ 2 ซึ่งร้อยละการสร้างไม่แตกต่างกับการเติม CaCl2 12 มิลลิกรัมต่อลิตรการกระตุ้นให้ปล่อยซูโอสปอร์ใช้ปัจจัยกระตุ้น 3 ปัจจัยประกอบด้วย 1) ความเค็ม 5 ระดับคือ 5, 10, 15, 20 และ 25 ppt 2) การได้รับแสงความเข้มแสง 20, 80, 100 และ 150 µmol m-2s-1 และ 3) การผึ่งแห้งที่เวลา 0, 1, 2 และ 3 ชั่วโมง พบว่าที่ระดับความเค็ม 5-25 ppt มีปริมาณการปล่อยสปอร์ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p>0.05) โดยที่ความเค็ม 25 ppt ปล่อยสปอร์ได้มากที่สุดจำนวน 12.16±0.37 ล้านสปอร์ต่อกรัมน้ำหนักสด ส่วนการนำต้นพันธุ์ไปกระตุ้นด้วยระดับความเข้มแสงต่าง ๆ เป็นเวลา 3 ชั่วโมง พบว่าทุกระดับความเข้มแสงช่วง 20-150 µmol m-2 s-1 ได้จำนวนสปอร์ไม่มีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p>0.05) โดยที่การให้แสง 20 µmol m-2 s-1 ให้จำนวนสปอร์มากที่สุด คือ 10.10±0.24 ล้านสปอร์ต่อกรัมน้ำหนักสด ส่วนปัจจัยด้านการผึ่งแห้งพบว่าที่ระดับการผึ่งแห้ง 0-3 ชั่วโมง ได้จำนวนสปอร์ไม่มีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p>0.05) โดยที่การผึ่งแห้ง 1 ชั่วโมง ให้จำนวนสปอร์สูงกว่าที่เวลาอื่น ๆ ของการผึ่งแห้งที่ 9.91±1.01 ล้านสปอร์ต่อกรัมน้ำหนักสด การเกาะของสปอร์ใช้วัสดุเกาะแตกต่างกัน 3 ชนิด ได้แก่ แผ่นพลาสติกรังผึ้งขนาดตา 1 ตา อวนขนาดตา 2 ซม. และเชือกโพลีเอทธีลีนเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 มิลลิเมตร พันกรอบสี่เหลี่ยม ขนาด 30x50 ตารางเซนติเมตร ใช้ดักสปอร์ในถังพลาสติกสี่เหลี่ยมปริมาตรน้ำ 150 ลิตร ที่สภาวะกลางแจ้ง มีสปอร์ว่ายอยู่ในมวลน้ำที่ระดับความหนาแน่น 33 ล้าน สปอร์ต่อมิลลิลิตร ทำการสุ่มตัวอย่างสปอร์ที่ระดับความสูงทุก 10 เซนติเมตร บน กลาง และล่างของกรอบสี่เหลี่ยมพบว่า สปอร์เริ่มเกาะวัสดุทั้ง 3 ชนิดตั้งแต่วันที่ 1 และเกาะมากที่สุดในวันที่ 9 ของการเลี้ยง โดยการเกาะของสปอร์รวมบนวัสดุทั้ง 3 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) โดยเชือกมีความหนาแน่นสปอร์มากที่สุด ถึง 1.4±1.7x109 สปอร์/ตารางเซนติเมตร รองลงมาคืออวน และพลาสติกมีความหนาแน่นของสปอร์ถึง 1.1±0.0X109 สปอร์/ตารางเซนติเมตร และ 0.8±0.1X109 สปอร์/ตารางเซนติเมตรตามลำดับ สำหรับระดับการเกาะของสปอร์ พบว่ามีปริมาณสปอร์เกาะที่ระดับบนมากที่สุด
การเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ในบ่อซีเมนต์ จากการทดลองเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ ในบ่อซีเมนต์ ที่เลี้ยงโดยใช่ต้นพันธุ์ เริ่มต้นขนาด 2.9±0.3 ในความหนาแน่น 25000, 37500 และ 50000 ต้นต่อตร.ม. หรือ น้ำหนักเริ่มต้น เท่ากับ 3, 6 และ 9 กรัม เมื่อเลี้ยงไป 3 สัปดาห์ พบว่า 50000 ต้นต่อตร.ม. มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยคิดเป็นการเพิ่มของน้ำหนัก ร้อยละ 14,398±14,713 และเป็นการเพิ่มของความยาว 123±77 ซึ่งเป็นอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะโดยน้ำหนักเท่ากับ 23.7±0.1 g ต่อวัน และ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะโดยความยาวเท่ากับ 11.0±5.0 ซม. ต่อ วัน ซึ่งทั้งหมดไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ กับที่ความหนาแน่น 37500 ต้นต่อตร.ม. สำหรับการทดลองเลี้ยงสาหร่ายไส้ไก่ ในบ่อดิน ที่เลี้ยงโดยใช่ต้นพันธุ์ เริ่มต้นขนาด 3±0 กรัมต่อตร.ม. หรือ น้ำหนักเริ่มต้น เท่ากับ 2.9±0.4 กรัม เมื่อเลี้ยงไป 6 สัปดาห์ เกาะวัสดุเชือกพีอี พลาสติกรังผึ้ง และอวนไนล่อน พบว่า มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากที่สุด 91±15, 67±16 และ 34±2 กรัมต่อตร.ม. และมีความยาวเพิ่มขึ้น เท่ากับ13.2±1.0, 10.5±1.1, 6.2±1.4 เซนติเมตร โดยมีการเพิ่มของน้ำหนัก ร้อยละ 1,360±238, 974±257 และ 438±31ตามลำดับ และเป็นการเพิ่มของความยาวร้อยละ 955±25, 863±85 และ 491±76 ตามลำดับ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะต่อวัน โดยน้ำหนักร้อยละ 8.5±0.4, 7.8±0.6 และ 6.2±0.1และ 11.0±5.0 g ต่อวัน และ มีอัตราการเจริญเติบโตจำเพาะต่อวัน โดยความยาวร้อยละเท่ากับ 5.8±3.0, -7.1±0.8 และ
การแปล กรุณารอสักครู่..