Hormone therapies are approved by t

Hormone therapies are approved by the U.S. Food and Drug Administration (FDA) for certain uses in postmenopausal women, such as severe hot flashes. Because of health risks, such as a higher chance of stroke, FDA recommends it be used at the lowest doses for the shortest period needed.

Conjugated equine estrogens are the most common type of postmenopausal hormone therapy. A previous study, the Women’s Health Initiative Memory Study (WHIMS), found cognitive deficits and increased risk for dementia among women who had been prescribed this type of hormone therapy when they were ages 65 and older.

The Women’s Health Initiative Memory Study of Younger Women (WHIMSY), an extension of WHIMS, explored whether hormone therapy affects brain health when given to younger postmenopausal women. Researchers enrolled more than 1,300 women who started treatment when they were between 50 and 55 and continued for an average of 7 years. Over 1,100 of the women participated in a telephone assessment of cognition an average of 7 years afterward. The study was funded by NIH’s National Institute on Aging (NIA) and National Heart, Lung and Blood Institute (NHLBI).

The researchers assessed global cognitive function, which includes memory, problem-solving skills and other cognitive abilities. They also measured specific cognitive functions: verbal memory, attention, executive function, verbal fluency and working memory. The assessment was done when the participants’ average age was about 67 years and repeated a year later. Results appeared online in JAMA Internal Medicine on June 24, 2013.

The scientists found no meaningful difference in global cognitive function between women assigned to receive hormone therapy or placebo. There were no significant differences for any specific cognitive measures either.

“In contrast to findings in older postmenopausal women, this study tells women that taking these types of estrogen-based hormone therapies for a relatively short period of time in their early postmenopausal years may not put them at increased risk for cognitive decline over the long term,” says co-author Dr. Susan Resnick of NIA. “Further, it is important to note that we did not find any cognitive benefit after long-term follow-up.”

Why the effects of these hormone treatments on cognition differ by age is unknown. The scientists will continue to follow the participants to assess longer term effects. Because of the complicated effects of hormone therapy, women should consult their physicians about its use.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฮอร์โมนบำบัดได้รับการรับรองจากสหรัฐอเมริกาอาหาร และยา (FDA) สำหรับใช้ในผู้หญิง postmenopausal เช่นแฟลชร้อนรุนแรง เนื่องจาก มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่นโอกาสสูงของจังหวะ FDA แนะนำจะใช้ในปริมาณต่ำสุดสำหรับสั้นที่สุดระยะเวลาจำเป็นEstrogens กลวงเพาะพันธุ์เป็นชนิดพบมากที่สุดของฮอร์โมน postmenopausal การศึกษาก่อนหน้านี้ ผู้หญิงสุขภาพริเริ่มหน่วยความจำศึกษา (WHIMS), พบขาดดุลที่รับรู้ และเพิ่มเสี่ยงสมองเสื่อมในหมู่สตรีที่มีการกำหนดชนิดของฮอร์โมนนี้เมื่อพวกเขาอายุ 65 และเก่าผู้หญิงสุขภาพความคิดริเริ่มจำศึกษาของ Younger ผู้หญิง (WHIMSY), ขยาย WHIMS อุดมว่าฮอร์โมนมีผลต่อสุขภาพสมองเมื่อให้หญิง postmenopausal อายุ นักวิจัยลงทะเบียนผู้หญิงมากกว่า 1300 เริ่มรักษาเมื่อพวกเขาถูกระหว่าง 50 และ 55 และอย่างต่อเนื่องค่าเฉลี่ย 7 ปี กว่า 1100 ของผู้หญิงเข้าร่วมประเมินโทรศัพท์ของประชานโดยเฉลี่ย 7 ปีหลังจากนั้น การศึกษาได้รับการสนับสนุน โดย NIH ของ สถาบันในการกำหนดอายุ (NIA) และชาติหัวใจ ปอด และเลือดสถาบัน (NHLBI)นักวิจัยประเมินรับรู้ฟังก์ชันสากล ซึ่งรวมถึงหน่วยความจำ ทักษะการแก้ปัญหา และอื่น ๆ ความสามารถในการรับรู้ พวกเขาวัดหน้าที่เฉพาะรับรู้: หน่วยความจำวาจา ความสนใจ ฟังก์ชันเอ็ก แคล่ววาจา และหน่วยความจำทำงาน ทำการประเมินเมื่อผู้เข้าร่วมเฉลี่ยอายุประมาณ 67 ปี และซ้ำปีต่อ ผลปรากฏออนไลน์ในอายุรกรรมจามาในวันที่ 24 มิถุนายน 2013นักวิทยาศาสตร์พบความแตกต่างไม่มีความหมายในฟังก์ชันสากลรับรู้ระหว่างผู้หญิงกับได้รับฮอร์โมนหรือยาหลอก มีได้ไม่แตกต่างกันสำหรับวัดการรับรู้ใด ๆ เฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง"ตรงข้ามพบในสตรีมากกว่า postmenopausal ศึกษาบอกผู้หญิงว่า การเหล่านี้ชนิดของฮอร์โมนฮอร์โมนหญิงใช้รักษาเป็นระยะเวลาค่อนข้างสั้นในปี postmenopausal แรก ๆ ของพวกเขาอาจไม่ทำให้พวกเขาเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับการปฏิเสธการรับรู้ในระยะยาว กล่าวว่า ผู้เขียนร่วมดร.ซูซาน Resnick ของสนช "ต่อไป ได้โปรดทราบว่า เราไม่พบประโยชน์ของการรับรู้หลังจากติดตามผลระยะยาว"ผลของการรักษาฮอร์โมนเหล่านี้ในประชานแตกต่างตามอายุทำไมไม่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์ที่จะทำตามผู้ที่เข้าร่วมในการประเมินผลระยะยาว เนื่องจากผลของฮอร์โมนที่ซับซ้อน ผู้หญิงควรปรึกษาแพทย์ของตนเกี่ยวกับการใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การบำบัดฮอร์โมนได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) สำหรับการใช้งานบางอย่างในสตรีวัยหมดประจำเดือนเช่นร้อนวูบวาบอย่างรุนแรง เพราะความเสี่ยงต่อสุขภาพเช่นโอกาสที่สูงขึ้นของโรคหลอดเลือดสมอง, องค์การอาหารและยาแนะนำให้มันถูกนำมาใช้ในปริมาณที่ต่ำสุดสำหรับช่วงเวลาที่สั้นที่สุดที่จำเป็น. estrogens ม้า Conjugated เป็นชนิดที่พบมากที่สุดของการรักษาด้วยฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน การศึกษาก่อนหน้า, สุขภาพสตรีริเริ่มการศึกษาหน่วยความจำ (whims) พบการขาดดุลองค์ความรู้และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับภาวะสมองเสื่อมในหมู่ผู้หญิงที่ได้รับการกำหนดประเภทของการรักษาด้วยฮอร์โมนนี้เมื่อพวกเขาอายุ 65 และผู้สูงอายุ. สุขภาพสตรีริเริ่มหน่วยความจำการศึกษาของสตรีที่มีอายุน้อยกว่า (อย่างรวดเร็ว) การขยายตัวของ whims สำรวจว่าการรักษาด้วยฮอร์โมนมีผลกระทบต่อสุขภาพสมองเมื่อมอบให้กับสตรีวัยหมดประจำเดือนที่อายุน้อยกว่า นักวิจัยที่ลงทะเบียนเรียนกว่า 1,300 ผู้หญิงที่เริ่มต้นการรักษาเมื่อพวกเขาอยู่ระหว่าง 50 และ 55 และต่อเนื่องเป็นเวลาเฉลี่ย 7 ปี กว่า 1,100 ในผู้หญิงที่มีส่วนร่วมในการประเมินความรู้ความเข้าใจของโทรศัพท์เฉลี่ย 7 ปีหลังจากนั้น การศึกษาได้รับการสนับสนุนจากสถาบันแห่งชาติของ NIH ในอายุ (NIA) และหัวใจแห่งชาติปอดและเลือดสถาบัน (NHLBI). นักวิจัยประเมินการทำงานทางปัญญาทั่วโลกซึ่งรวมถึงหน่วยความจำและทักษะการแก้ปัญหาและความสามารถทางปัญญาอื่น ๆ พวกเขายังวัดการทำงานขององค์ที่เฉพาะเจาะจง: หน่วยความจำด้วยวาจาให้ความสนใจการทำงานของผู้บริหารคล่องแคล่ววาจาและหน่วยความจำในการทำงาน การประเมินได้รับการทำเมื่ออายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมประมาณ 67 ปีและทำซ้ำในปีต่อมา ผลปรากฏออนไลน์ใน JAMA อายุรศาสตร์ใน 24 มิถุนายน 2013. นักวิทยาศาสตร์พบว่าไม่มีความแตกต่างที่มีความหมายในการทำงานทางปัญญาโลกระหว่างผู้หญิงที่ได้รับมอบหมายจะได้รับการรักษาด้วยฮอร์โมนหรือยาหลอก ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญสำหรับมาตรการองค์ความรู้ใด ๆ ที่เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง. "ในทางตรงกันข้ามกับการค้นพบในผู้สูงอายุสตรีวัยหมดประจำเดือน, การศึกษาครั้งนี้บอกว่าการที่ผู้หญิงเหล่านี้ประเภทของสโตรเจนที่ใช้การบำบัดฮอร์โมนเป็นระยะเวลาอันสั้นของเวลาในปีที่ผ่านวัยหมดประจำเดือนแรกของพวกเขาอาจจะไม่ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับการลดลงของความรู้ความเข้าใจในระยะยาว "กล่าวว่าผู้ร่วมเขียนดร. ซูซานเรสนิคของสนช "นอกจากนี้มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าเราไม่ได้หาผลประโยชน์องค์ความรู้ใด ๆ หลังจากที่ในระยะยาวติดตาม." ทำไมผลกระทบของการรักษาเหล่านี้ฮอร์โมนในความรู้ความเข้าใจที่แตกต่างกันตามอายุไม่เป็นที่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์จะยังคงที่จะปฏิบัติตามผู้เข้าร่วมในการประเมินผลกระทบในระยะยาว เพราะผลกระทบที่มีความซับซ้อนของการรักษาด้วยฮอร์โมนผู้หญิงควรปรึกษาแพทย์ของพวกเขาเกี่ยวกับการใช้งาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรักษาฮอร์โมนที่ได้รับการอนุมัติโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ( FDA ) สำหรับบางใช้ในสตรีวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ รุนแรง เพราะความเสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น โอกาสสูงของโรคหลอดเลือดสมอง , FDA แนะนำมันใช้ได้ที่ถูกที่สุด ( สำหรับรอบระยะเวลาที่สั้นที่สุด

conjugated equine ต้องเจาะเลือดเป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุดของการรักษาด้วยฮอร์โมนวัยทอง . การศึกษาก่อนหน้านี้การศึกษาความความคิดริเริ่มสุขภาพสตรี ( คำสั่ง ) พบ การรับรู้ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับภาวะสมองเสื่อมในหมู่ผู้หญิงที่ได้รับการรักษาด้วยยาฮอร์โมนชนิดนี้เมื่ออายุ 65 และผู้สูงอายุ

หญิงริเริ่มสุขภาพความจำการศึกษาน้องหญิง ( อย่างรวดเร็ว ) , ส่วนขยายของคำสั่ง ,สำรวจว่า การรักษาด้วยฮอร์โมนมีผลต่อสุขภาพสมอง เมื่อให้เด็กสตรีวัยทอง . นักวิจัยลงทะเบียนมากกว่า 1300 ผู้หญิงที่เริ่มการรักษาเมื่อพวกเขาอยู่ระหว่าง 50 และ 55 และต่อเนื่องเฉลี่ย 7 ปี 1100 ของผู้หญิงมีส่วนร่วมในการประเมินการโทรศัพท์เฉลี่ย 7 ปี หลังจากนั้นการศึกษาได้รับการสนับสนุนโดยสถาบัน NIH ของอายุ ( NIA ) และสถาบันหัวใจปอดและเลือดแห่งชาติ , ( nhlbi ) .

นักวิจัยประเมินความจำระดับโลก ซึ่งรวมถึง ความจำ ทักษะการแก้ปัญหาและความสามารถทางปัญญาอื่น ๆ พวกเขายังวัดภาวะพุทธิปัญญาที่เฉพาะเจาะจง : วาจา ความจำ ความสนใจ หน้าที่ผู้บริหาร ความคล่องแคล่วและหน่วยความจำทำงานประเมินเสร็จ เมื่อผู้เรียนมีอายุเฉลี่ยประมาณ 67 ปี และอีกปีต่อมา ผลปรากฏออนไลน์ใน JAMA อายุรศาสตร์ ในวันที่ 24 มิถุนายน ปี 2013

นักวิทยาศาสตร์พบไม่มีความหมาย ความแตกต่างในความจำระดับโลกระหว่างผู้หญิงได้รับมอบหมายให้รับการรักษาด้วยฮอร์โมน หรือยาหลอก ไม่พบความแตกต่างด้านมาตรการใด ๆที่เฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง .

" ในทางตรงกันข้ามกับผลในแก่สตรีวัยทอง การศึกษานี้บอกผู้หญิงที่กำลังใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดเหล่านี้ของการบำบัดสำหรับระยะเวลาอันสั้นของเวลาของพวกเขาในช่วงต้นปี หลังไม่อาจให้พวกเขาที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปฏิเสธการรับรู้ในระยะยาวกล่าวว่า " ผู้เขียน ดร. ซูซาน เรสนิคของสนช. . " เพิ่มเติมมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทราบว่าเราไม่ได้หาผลประโยชน์ทางปัญญาใด ๆ หลังจากการติดตามผลระยะยาว "

ทำไมผลของการรักษาฮอร์โมนเหล่านี้แตกต่างกันตามอายุ คือ การรู้จัก นักวิทยาศาสตร์จะยังคงติดตามผู้เข้าร่วมศึกษาผลในระยะยาว เพราะมันซับซ้อนมาก ผลของการรักษาด้วยฮอร์โมน ผู้หญิงควรปรึกษาแพทย์ของพวกเขาเกี่ยวกับการใช้