Two inoculum types were evaluated:

Two inoculum types were evaluated: one consisted of only an arbuscular mycorrhizal (AM) fungus species (Glomus spp.), and the other was a mixture of different Glomus species and associated soil bacteria. Inoculated plants were compared with non-inoculated plants and with plants supplemented with extra phosphorus (P) to obtain plants of the same size as mycorrhizal plants, thus excluding potentially-confounding mycorrhizal effects on shoot growth. VOC emissions of Artemisia annua plants were analyzed by leaf cuvette sampling followed by off-line measurements with pre-concentration and gas chromatography mass spectrometry (GC-MS). Measurements of CO2 and H2O exchanges were conducted simultaneously. Several volatile monoterpenes were identified and characterized from leaf emissions of Artemisia annua L. by GC-MS analysis. The main components identified belong to different monoterpene structures: alpha-pinene, beta-pinene, camphor, 1,8-cineole, limonene, and artemisia ketone. A good correlation between monoterpene leaf concentration and leaf emission was found. Leaf extracts included also several sesquiterpenes. Total terpene content and emission was not affected by AM inoculation with or without bacteria, while emission of limonene and artemisia ketone was stimulated by this treatment. No differences were found among treatments for single monoterpene content, while accumulation of specific sesquiterpenes in leaves was altered in mycorrhizal plants compared to control plants. Growth conditions seemed to have mainly contributed to the outcome of the symbiosis and influenced the magnitude of the plant response. These results highlight the importance of considering the below-ground interaction between plant and soil for estimating VOC emission rates and their ecological role at multitrophic levels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สองชนิด inoculum ได้ประเมิน: หนึ่งประกอบด้วยพันธุ์เฉพาะ arbuscular mycorrhizal (AM) เชื้อรา (โอ Glomus), และอื่น ๆ ที่ถูกผสมพันธุ์ Glomus แตกต่างกัน และดินแบคทีเรียที่เกี่ยวข้อง Inoculated พืชถูกเปรียบเทียบ กับพืชที่ไม่ใช่ inoculated และเสริม ด้วยการเสริมฟอสฟอรัส (P) รับพืชขนาดเป็นพืช mycorrhizal จึง ไม่รวม confounding อาจ mycorrhizal ผลยิงเจริญเติบโตของพืช การปล่อย VOC Artemisia annua พืชถูกวิเคราะห์ โดยสุ่ม cuvette ใบไม้ตามวัดออฟไลน์ก่อนสมาธิและ chromatography ก๊าซโตรเมทรี (GC-MS) ประเมินแลกเปลี่ยน CO2 และ H2O ได้ดำเนินพร้อมกัน Monoterpenes ระเหยหลายที่ระบุ และลักษณะจากใบปล่อยของ Artemisia annua L. โดยวิเคราะห์ GC MS ส่วนประกอบหลักที่ระบุอยู่ในโครงสร้างต่าง ๆ monoterpene: อัลฟา-pinene เบต้า-pinene การบูร cineole 1, 8, limonene และ artemisia จุด พบความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง monoterpene ใบความเข้มข้นและลีเล็ดรอด สารสกัดจากใบรวมยังหลาย sesquiterpenes เทอร์พีนรวมเนื้อหาและการปล่อยก๊าซไม่มีผลกระทบ โดย inoculation AM มี หรือไม่ มี แบคทีเรีย ในขณะที่ปล่อยก๊าซของ limonene และ artemisia จุดที่ถูกกระตุ้น โดยการรักษานี้ ไม่พบความแตกต่างระหว่างรักษา monoterpene เดียวเนื้อหา ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงสะสมของ sesquiterpenes เฉพาะในใบในพืช mycorrhizal เมื่อเทียบกับพืชควบคุม เจริญเติบโตสภาพดูเหมือนจะ มีส่วนผลของ symbiosis ส่วนใหญ่ และมีอิทธิพลต่อขนาดของการตอบสนองของพืช ผลลัพธ์เหล่านี้เน้นความสำคัญของการพิจารณาการโต้ตอบด้านล่างพื้นระหว่างพืชและดินสำหรับการประเมินอัตราการปล่อยก๊าซ VOC และบทบาทของระบบนิเวศในระดับ multitrophic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สองชนิดเชื้อได้รับการประเมิน: หนึ่งมีเพียงไมคอไรซา Arbuscular (AM) สายพันธุ์เชื้อราและอื่น ๆ ที่เป็นส่วนผสมของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันและ Glomus แบคทีเรียในดินที่เกี่ยวข้อง (Glomus spp.) พืชเชื้อถูกนำมาเปรียบเทียบกับพืชที่ไม่ใช่เชื้อกับพืชและเสริมด้วยฟอสฟอรัสพิเศษ (P) เพื่อให้ได้พืชที่มีขนาดเดียวกับพืชไมคอไรซาจึงอาจไม่รวม-รบกวนผลกระทบต่อการเจริญเติบโต mycorrhizal ยิง ปล่อยสารระเหยอินทรีย์ของ Artemisia annua พืชนำมาวิเคราะห์โดยการสุ่มตัวอย่างใบ cuvette ตามด้วยการตรวจวัดแบบ off-line ที่มีความเข้มข้นก่อนและก๊าซโคมวลสาร (GC-MS) วัด CO2 และ H2O แลกเปลี่ยนได้ดำเนินการไปพร้อม ๆ กัน monoterpenes ระเหยหลายคนระบุและโดดเด่นจากการปล่อยใบ Artemisia annua ลิตรโดยการวิเคราะห์ GC-MS องค์ประกอบหลักที่ระบุอยู่ในโครงสร้างที่แตกต่างกัน monoterpene: alpha-pinene เบต้า pinene การบูร 1,8-cineole, limonene และคีโตน Artemisia ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างความเข้มข้นของใบ monoterpene และการปล่อยใบก็พบว่า สารสกัดจากใบรวมถึงยังมีหลาย sesquiterpenes เนื้อหา terpene รวมและการปล่อยไม่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน AM มีหรือไม่มีเชื้อแบคทีเรียในขณะที่การปล่อย limonene และคีโตน Artemisia ถูกกระตุ้นโดยการรักษานี้ ไม่มีความแตกต่างถูกพบในการรักษาสำหรับเนื้อหา monoterpene เดียวในขณะที่การสะสมของ sesquiterpenes ที่ระบุในใบมีการเปลี่ยนแปลงในพืช mycorrhizal เมื่อเทียบกับพืชควบคุม สภาวะการเจริญเติบโตดูเหมือนจะมีส่วนร่วมเป็นหลักในการผลของการ symbiosis และได้รับอิทธิพลความสำคัญของการตอบสนองของพืช ผลการศึกษานี้เน้นความสำคัญของการพิจารณาการทำงานร่วมกันด้านล่างพื้นดินระหว่างพืชและดินสำหรับการประเมินอัตราการปล่อยสารระเหยและบทบาทของระบบนิเวศของพวกเขาในระดับ multitrophic

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เชื้อสองชนิด ได้แก่ : หนึ่งเป็นเพียงน้ำไมโคไรซา ( AM ) เชื้อราชนิด ( Glomus spp . ) และอื่น ๆ ที่เป็นส่วนผสมของ Glomus สายพันธุ์ที่แตกต่างกันและแบคทีเรียดินที่เกี่ยวข้อง ปลูกพืชที่ไม่ใช่พืช และเปรียบเทียบกับเชื้อกับพืชอาหารฟอสฟอรัสเสริม ( P ) เพื่อให้ได้พืชขนาดเดียวกับพืชไมโคไรซา ,จึงไม่อาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงไมโคไรซาที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ยิง สำหรับการปล่อยอาร์เทมิเซีย annua พืช โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบตามใบคิวเวตต์วัดสอนสมาธิและ Gas Chromatography Mass Spectrometry ( GC-MS ) การวัด CO2 และ H2O การแลกเปลี่ยนการพร้อมกันหลายองค์ประกอบระเหยพบว่าลักษณะใบปล่อยอาร์เทมิเซีย annua L . โดยการวิเคราะห์ GC-MS . ส่วนประกอบหลักของโครงสร้างโมโนเทอร์ปีนที่ระบุแตกต่างกัน : อัลฟาไปนีน , เบต้าไพนีน การบูร 1,8-cineole ไลโมนีนและอาร์ , สูง ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของโมโนเทอร์ปีนและใบต่อใบ พบสารสกัดจากใบรวมทั้งเซสควิเทอร์ปีนมากหลาย เนื้อหาทั้งหมดและการปล่อยเทอร์ปีน ได้รับผลกระทบ โดยเป็นเชื้อที่มีหรือไม่มีแบคทีเรีย ในขณะที่ปล่อยลิโมนินอาร์เทมิเซียคีโตนและถูกกระตุ้นด้วยการรักษานี้ ไม่มีความแตกต่างระหว่างการรักษา พบว่าปริมาณโมโนเทอร์ปีนเดี่ยวในขณะที่การสะสมเฉพาะเซสควิทเทอร์ปีนในการเปลี่ยนแปลงในไมโคไรซา ใบพืชเมื่อเทียบกับการควบคุมพืช เงื่อนไขการเจริญเติบโตดูเหมือนจะเป็นส่วนผลของ symbiosis มีผลต่อขนาดของพืช การตอบสนองผลลัพธ์เหล่านี้เน้นความสำคัญของการพิจารณาด้านล่างพื้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืชและดิน เพื่อประเมินอัตราการปล่อยสารระเหย และนิเวศวิทยาบทบาทของพวกเขาในระดับ multitrophic .