To our knowledge, two relevant stud

To our knowledge, two relevant studies have been published since the end date of our search. One study used Twitter and Facebook to share important concepts in a yearlong elective ultrasound course for Of the 27 participants who completed the study’s
fourth-year medical students. 43 follow-up survey, 88.9% found these social media tools to be user-friendly, and 81.5% found the educational content to be useful. The second study used a social networking portal compatible with low-bandwidth Internet connections to deliver dermatology instruction to eight medical students and interns in Somaliland and to allow participants to interact in real time with a tutor in the United Kingdom.44 All
six of the trainees who completed the feedback questionnaire indicated that the interactive format was more useful than textbook reading for learning the material, and four reported that they felt more con dent in describing rashes after completing the tutorial.
This systematic review has several limitations. Given the recent rapid growth in this literature, relevant articles have continued to be published since
we conducted our search, as discussed above. In addition, articles identi ed in our search did not always clearly de ne the form or content of social media technology used, so some may have been inappropriately excluded from this review. Publication bias favoring articles demonstrating bene ts of social media use versus those demonstrating equivalence or negative results must
be recognized, as in the context of any systematic review. Finally, the studies included in this review were too heterogeneous to perform sensitivity, subgroup, or meta-analyses.
Despite these limitations, this systematic review offers a foundation for future research and guidance for incorporating social media tools into medical curricula. Future scholarship in this new eld should include clear de nitions of social media technologies and their components to allow appropriate comparisons and data synthesis. In addition, it would be helpful to compare social media use with other educational methods, explore a variety
of learner populations, and examine skill- or behavior-based outcomes. Additional, higher-quality research is needed to establish best practices in the development of social media technology to enhance medical education.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความรู้ของเรา สองการศึกษาที่เกี่ยวข้องมีการจัดตั้งแต่วันสิ้นสุดของการค้นหาของเรา ศึกษาใช้ Twitter และ Facebook เพื่อแบ่งปันแนวคิดสำคัญในซาวด์ yearlong วิชาเลือกหลักสูตรสำหรับผู้เรียนของ 27 ซึ่งสำเร็จการศึกษานักศึกษาแพทย์ปีสี่ สำรวจติดตามผล 43, 88.9% พบเครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้จะใช้งานง่าย และ 81.5% พบเนื้อหาการศึกษาจะเป็นประโยชน์ การศึกษาที่สองใช้เว็บเครือข่ายสังคมออนไลน์เข้ากันได้กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบนด์วิธต่ำเพื่อผิวพรรณสอนกับนักศึกษาแพทย์และฝึกหัดคนในโซมาลีแลนด์แปด และ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบในเวลาจริงกับ tutor ในสห Kingdom.44 หมดหกของผู้รับการฝึกที่กรอกแบบสอบถามความคิดเห็นระบุว่า รูปแบบโต้ตอบมีประโยชน์กว่าอ่านตำราสำหรับการเรียนรู้วัสดุ และสี่รายงานว่า พวกเขารู้สึกว่ารอยเว้าในอธิบายผื่นหลังจากเสร็จสิ้นการสอนปรับเพิ่มเติมตรวจสอบระบบนี้มีข้อจำกัดหลาย ให้การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วล่าในวรรณคดีนี้ บทความที่เกี่ยวข้องได้อย่างต่อเนื่องที่จะเผยแพร่ตั้งแต่เราดำเนินการค้นหาของเรา ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากนี้ บทความ identi ed ในการค้นหาของเราจึงไม่เคยชัดเจน ne de แบบฟอร์มหรือเนื้อหาของสื่อสังคมเทคโนโลยีใช้ บางส่วนอาจถูกเหมาะสมแยกออกจากรีวิวนี้ ต้องประกาศอคติเห็น ts bene สื่อสังคมบทความนิยมใช้กับผู้ที่แสดงให้เห็นผลเชิงลบหรือเทียบเท่ารับรู้ เช่นในบริบทของระบบตรวจสอบใด ๆ ในที่สุด การศึกษาที่รวมอยู่ในรีวิวนี้ได้ต่างกันเกินไปเพื่อทำความไว กลุ่มย่อย หรือ วิเคราะห์เมตาแม้ มีข้อจำกัดเหล่านี้ ระบบตรวจสอบนี้มีมูลนิธิเพื่อการวิจัยในอนาคตและคำแนะนำสำหรับการผสมผสานเครื่องมือสื่อสังคมออนไลน์ในหลักสูตรแพทย์ ทุนการศึกษาในอนาคตในภายใหม่นี้ควรรวมใสเด nitions ของสังคมเทคโนโลยีและส่วนประกอบให้เปรียบเทียบที่เหมาะสมและการสังเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ มันจะเป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ด้วยวิธีการอื่น ๆ การศึกษา สำรวจความหลากหลายของประชากรผู้เรียน และตรวจสอบผลคะแนนทักษะ หรือลักษณะการทำงาน จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม คุณภาพสูงเพื่อสร้างแนวทางปฏิบัติในการพัฒนาของเทคโนโลยีสื่อสังคมเพื่อพัฒนาการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรู้ของเราสองการศึกษาที่เกี่ยวข้องได้รับการตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่สิ้นสุดของการค้นหาของเรา การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ใช้ Twitter และ Facebook เพื่อแบ่งปันแนวคิดที่สำคัญในหลักสูตรวิชาเลือกอัลตราซาวนด์ตั้งปีสำหรับผู้เข้าร่วม 27 คนที่เสร็จสิ้นการศึกษาของ
สี่ปีนักศึกษาแพทย์ สำรวจ 43 ติดตาม 88.9% พบว่าเครื่องมือเหล่านี้สื่อสังคมเพื่อจะใช้งานง่ายและ 81.5% พบว่าเนื้อหาการศึกษาที่จะเป็นประโยชน์ การศึกษาที่สองใช้พอร์ทัลเครือข่ายสังคมเข้ากันได้กับแบนด์วิธต่ำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการส่งมอบคำแนะนำในการรักษาโรคผิวหนังนักศึกษาแพทย์แปดและฝึกงานในประเทศโซมาลิแลนด์และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมในการโต้ตอบในเวลาจริงกับครูในประเทศ Kingdom.44 ทั้งหมดที่ผู้
หกของการฝึกอบรม ที่เสร็จสิ้นการตอบแบบสอบถามความคิดเห็นที่ระบุว่ารูปแบบ Interactive เป็นประโยชน์มากกว่าการอ่านตำราเรียนสำหรับการเรียนรู้วัสดุและสี่รายงานว่าพวกเขารู้สึกว่าบุ๋ม Con มากขึ้นในการอธิบายผื่นหลังจากเสร็จสิ้นการกวดวิชา.
นี้ทบทวนอย่างเป็นระบบมีข้อ จำกัด หลายประการ ได้รับการเติบโตอย่างรวดเร็วล่าสุดในวรรณคดีนี้บทความที่เกี่ยวข้องได้อย่างต่อเนื่องจะได้รับการตีพิมพ์ตั้งแต่
เราดำเนินการค้นหาของเราตามที่กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากนี้บทความระบุ ed ในการค้นหาของเราไม่เคยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างชัดเจนรูปแบบหรือเนื้อหาของเทคโนโลยีสื่อสังคมใช้ดังนั้นบางคนอาจได้รับการยกเว้นไม่เหมาะสมจากการตรวจสอบนี้ อคติที่ตีพิมพ์บทความแสดงให้เห็นถึงความนิยม TS Bene ในการใช้สื่อสังคมเมื่อเทียบกับผู้ที่แสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมหรือผลลบจะต้อง
ได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับในบริบทของระบบตรวจสอบใด ๆ สุดท้ายการศึกษาที่รวมอยู่ในการตรวจสอบนี้มีความแตกต่างมากเกินไปที่จะดำเนินการไวกลุ่มย่อยหรือเมตาวิเคราะห์.
แม้จะมีข้อ จำกัด เหล่านี้มีระบบตรวจสอบการวางรากฐานสำหรับการวิจัยและให้คำแนะนำในอนาคตสำหรับการรวมเครื่องมือสื่อสังคมในหลักสูตรการแพทย์ ทุนการศึกษาในอนาคต ELD ใหม่นี้ควรมีความชัดเจนเด nitions ของเทคโนโลยีสื่อสังคมและส่วนประกอบของพวกเขาที่จะอนุญาตให้รถที่เหมาะสมและการสังเคราะห์ข้อมูล นอกจากนี้ก็จะเป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบการใช้สื่อสังคมที่มีวิธีการศึกษาอื่น ๆ สำรวจความหลากหลาย
ของประชากรผู้เรียนและตรวจสอบผลทักษะหรือพฤติกรรมตาม การวิจัยเพิ่มเติมที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างการปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพัฒนาของเทคโนโลยีสื่อสังคมเพื่อส่งเสริมการศึกษาทางการแพทย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความรู้ของเราสองที่เกี่ยวข้องการศึกษาได้รับการเผยแพร่ตั้งแต่วันที่สิ้นสุดของการค้นหา หนึ่งการศึกษาที่ใช้ Twitter และ Facebook เพื่อแบ่งปันแนวคิดที่สำคัญในหลักสูตรอัลตราซาวด์วิชาเลือกตั้งปีของ 27 ผู้จบการศึกษานักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 สำรวจ 43 ติดตาม 88.9 % พบเครื่องมือสื่อทางสังคมเหล่านี้จะง่าย และร้อยละ 81.5 พบเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ การทดลองใช้เครือข่ายทางสังคมพอร์ทัลเข้ากันได้กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบนด์วิดธ์ต่ำเพื่อส่งวิชาตจวิทยา , นักศึกษาแพทย์และแพทย์ฝึกหัดโซมาลีแลนด์และอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมโต้ตอบในเวลาจริงกับครูสอนพิเศษในสหรัฐอเมริกา kingdom.44 ทั้งหมดหกของการฝึกอบรมที่สมบูรณ์ความคิดเห็นแบบสอบถาม พบว่า รูปแบบแบบมีประโยชน์มากกว่าตำราการอ่านเพื่อการเรียนรู้วัสดุ และสี่รายงานว่าพวกเขารู้สึกมากขึ้น คอนรอยผื่นหลังจากเสร็จสิ้นการสอนรีวิวนี้เป็นระบบมีข้อจำกัดหลายประการ ได้รับการเติบโตอย่างรวดเร็วในวรรณกรรมนี้ล่าสุดบทความที่เกี่ยวข้อง ยังคงได้รับการตีพิมพ์ตั้งแต่เราทำการค้นหาของเราตามที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ บทความ identi เอ็ดในการค้นหาของเราไม่ได้เสมอชัดเจนเดอเน่รูปแบบหรือเนื้อหาของเทคโนโลยีสื่อสังคมใช้ ดังนั้นบางอย่างอาจไม่เหมาะสมที่แยกออกจากรีวิวนี้ ตีพิมพ์บทความแสดงถึงอคตินิยมครับ TS ของการใช้สื่อสังคมเมื่อเทียบกับผู้ที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ หรือ ลบที่ได้รับการยอมรับในบริบทของระบบตรวจสอบ ในที่สุด การศึกษารวมอยู่ในรีวิวนี้ก็ต่างกันเพื่อแสดงความไว หรือกลุ่มย่อย โดยวิธีการวิเคราะห์เมต้า .แม้จะมีข้อ จำกัด เหล่านี้ ตรวจสอบนี้อย่างเป็นระบบ มีมูลนิธิเพื่อการวิจัยในอนาคตและแนวทางผสมผสานสื่อสังคมเครื่องมือในหลักสูตรการแพทย์ ทุนการศึกษาในอนาคตในสาขาใหม่นี้ควรรวมถึงการล้าง เดอ nitions เทคโนโลยีสื่อสังคมและส่วนประกอบเพื่อให้เปรียบเทียบที่เหมาะสม และการสังเคราะห์ข้อมูล นอกจากนั้นจะเป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบการใช้สื่อสังคมด้วยวิธีการศึกษา สำรวจความหลากหลายประชากรของผู้เรียน และศึกษาทักษะหรือพฤติกรรมตามผลลัพธ์ เพิ่มเติม การวิจัยคุณภาพสูงกว่าต้องสร้างแนวปฏิบัติที่ดีในการพัฒนาของเทคโนโลยีสื่อสังคมเพื่อเสริมสร้างการศึกษาทางการแพทย์