These structures provide the resear

These structures provide the researcher with an understanding of the world that
contributes towards the development of theory. On the question of theory Morse (1994)
suggests that phenomenologists do not label themselves as theorists in the strictest
sense, rather linkages from the data to theory are based on reflections of theoretical
literature. Recontextualisation comes from writing and rewriting, which as a practice
sensitises the researcher and provides new insights. This increases the level of
abstraction by moving from the “particular” sphere to a “universal” sphere where
themes are readily comprehensible to the humans which they seek to describe.
However, there are a number of misconceptions and ad hoc interpretations of
phenomenology to be found in the literature. First, the philosophy that underpins
phenomenology is often misused to refer to the qualitative paradigm as a whole. This
is not the case. Phenomenologists seek guidance from existential philosophers in the
interpretation of their data. Through careful study of individuals they hope to discover
the deeper meaning of the “lived” experience in terms of the individual’s relationship
with time, space and personal history (Stern, 1994). The collection and analysis of data
using this methodology is also specifically prescribed. Phenomenology demands that
intense reflection is an integral part of the process, but above all, the primacy of the
subjective experience is felt to be crucial. Analysis is conducted by scrutinising the text

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้างเหล่านี้ให้นักวิจัย มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกที่สนับสนุนต่อการพัฒนาของทฤษฎี คำถามที่ทฤษฎีมอร์ส (1994)แนะนำว่า phenomenologists ไม่ป้ายชื่อตัวเองเป็น theorists ในกรรมความรู้สึก แต่ลิงค์จากข้อมูลกับทฤษฎีตามสะท้อนของทฤษฎีวรรณกรรม Recontextualisation มาจากการเขียน และการ เขียน ซึ่งเป็นการปฏิบัติsensitises นักวิจัย และความเข้าใจใหม่ เพิ่มระดับของabstraction ขยับจากเรื่อง "เฉพาะ" เพื่อทรงกลม "สากล" ที่รูป comprehensible พร้อมกับมนุษย์ซึ่งพวกเขาพยายามที่จะอธิบายได้อย่างไรก็ตาม มีความเข้าใจผิดและตีความเฉพาะกิจของphenomenology ในวรรณคดี แรก ปรัชญาที่ underpinsมักจะมีผิด phenomenology อ้างถึงกระบวนทัศน์เชิงคุณภาพทั้งหมด นี้ไม่ใช่กรณี Phenomenologists ขอคำแนะนำจาก existential นักปรัชญาในการการตีความของข้อมูล ผ่านการศึกษาอย่างรอบคอบบุคคล หวังได้ความหมายลึกของประสบการณ์ "lived" ในความสัมพันธ์ของแต่ละบุคคลเวลา พื้นที่ และประวัติส่วนตัว (สเติร์น 1994) เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการนี้โดยเฉพาะยังกำหนด Phenomenology ต้องที่สะท้อนรุนแรงเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการ แต่เหนือสิ่งอื่นใด primacy ของประสบการณ์ตามอัตวิสัยคือรู้สึกเป็นสำคัญ ดำเนินการวิเคราะห์ โดย scrutinising ข้อความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงสร้างเหล่านี้ให้นักวิจัยที่มีความเข้าใจในโลกที่มีส่วนช่วยต่อการพัฒนาของทฤษฎี
เกี่ยวกับคำถามของทฤษฎีมอร์ส (1994)
แสดงให้เห็นว่า phenomenologists
ไม่ติดป้ายว่าตัวเองเป็นนักทฤษฎีในการเข้มงวดความรู้สึกค่อนข้างเชื่อมโยงจากข้อมูลทฤษฎีจะขึ้นอยู่กับการสะท้อนของทฤษฎีวรรณกรรม
Recontextualisation
มาจากการเขียนและการเขียนซึ่งเป็นการปฏิบัติไวต่อสิ่งกระตุ้นนักวิจัยและให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ นี้จะเพิ่มระดับของนามธรรมโดยการย้ายจาก "โดยเฉพาะอย่างยิ่ง" ทรงกลมเป็น "สากล" ทรงกลมที่รูปแบบที่พร้อมเข้าใจกับมนุษย์ที่พวกเขาพยายามที่จะอธิบาย. แต่มีจำนวนของความเข้าใจผิดและโฆษณาการตีความเฉพาะกิจของปรากฏการณ์ที่จะเป็นพบในวรรณคดี ครั้งแรกปรัชญาที่ว่ารมย์ปรากฏการณ์เป็นในทางที่ผิดมักจะอ้างถึงกระบวนทัศน์เชิงคุณภาพโดยรวม นี้เป็นกรณีที่ไม่ phenomenologists ขอคำแนะนำจากนักปรัชญาอัตถิภาวนิยมในการตีความหมายของข้อมูลของพวกเขา ผ่านการศึกษาอย่างรอบคอบของบุคคลที่พวกเขาหวังที่จะค้นพบความหมายที่ลึกซึ้งของ "อาศัย" ประสบการณ์ในแง่ของความสัมพันธ์ของแต่ละคนที่มีเวลาพื้นที่และประวัติส่วนตัว(สเติร์น 1994) คอลเลกชันและการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการนี้ยังเป็นที่ที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ ปรากฏการณ์เรียกร้องให้สะท้อนที่รุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการแต่เหนือสิ่งอื่นใดเป็นอันดับหนึ่งของประสบการณ์ส่วนตัวเป็นความรู้สึกที่จะมีความสำคัญ การวิเคราะห์จะดำเนินการโดยการวิเคราะห์ข้อความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงสร้างเหล่านี้ให้ผู้วิจัยมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกที่
มีส่วนช่วยต่อการพัฒนาของทฤษฎี ในเรื่องของทฤษฎี มอร์ส ( 1994 )
เห็นว่า phenomenologists ไม่ป้ายตัวเองเป็นนักทฤษฎีในความรู้สึกเข้มงวด
มากกว่าการเชื่อมโยงจากข้อมูลทฤษฎีจะขึ้นอยู่กับการสะท้อนของวรรณกรรมทฤษฎี

recontextualisation มาจากการเขียนและการเขียนใหม่ ซึ่งเป็นการฝึก
sensitises ผู้วิจัยและให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ นี้จะเพิ่มระดับของ
นามธรรมโดยย้ายจากทรงกลม " เฉพาะ " กับ " สากล " ทรงกลมที่
ธีมจะพร้อมเข้าใจมนุษย์ที่พวกเขาแสวงหาเพื่ออธิบาย
อย่างไรก็ตาม มีตัวเลขที่คลาดเคลื่อนและเฉพาะกิจการตีความ
ปรากฏการณ์ที่พบอยู่ในวรรณคดี แรกปรัชญาที่สนับสนุน
ดำเนินการมักจะ misused อ้างถึงกระบวนทัศน์เชิงคุณภาพโดยรวม นี้
ไม่ใช่กรณี phenomenologists ขอคำแนะนำจากนักปรัชญาอัตถิภาวนิยมใน
การแปลความหมายของข้อมูลของพวกเขา ผ่านการศึกษาอย่างรอบคอบของบุคคลที่พวกเขาหวังว่าจะค้นพบ
ความหมายที่ลึกซึ้งของ " อาศัย " ประสบการณ์ในแง่ของความสัมพันธ์ของแต่ละคน
เวลาพื้นที่และประวัติส่วนบุคคล ( Stern , 1994 ) เก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการนี้โดยเฉพาะ
ยังเป็นนักเรียน ปรากฏการณ์ที่สะท้อนความต้องการ
รุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ แต่ข้างต้นทั้งหมด , ความเป็นอันดับหนึ่งของประสบการณ์
เป็นอัตนัยรู้สึกเป็นสําคัญการวิเคราะห์และตรวจสอบข้อความ
โดย