There are five different forms of e

There are five different forms of execution in the United States: hanging, electrocution, lethal injection, lethal gas, and firing squad. All of these should be illegal. It does not deter crime, it is a crime, and it encourages violence. It is also very expensive. With the United States struggling with the economy, people are now asking, “Is this the way to spend money?” A California state commission reported that its death penalty system costs more than $100 million a year to administer.
First of all, the death penalty is not a deterrent to crime. There are still criminals who continue breaking the law. In fact, only twenty percent of United States states show evidence that executions do deter crime. The murder rate in non-death penalty states has actually remained consistently lower than in death penalty states and the gap has grown since 1990. Supreme Court Justice William Brennan says, “It is not denied that many, and probably most capital crimes cannot be deterred by the threat of punishment.” On average, states where capital punishment does seem to deter crime tend to execute many more people than in states where there seems to be no deterrent effect. So, only if a state executes many people does deterrence grow.


Also, the death penalty itself is a crime. The death penalty is murder, and two wrongs don’t make a right. There is no point in murdering people who have committed murder because then no one has been taught a lesson. The U.S. has successfully executed about 700 since 1976 when the death penalty was reinstated, and unfortunately, Kansas has been a death penalty state since 1994. There are currently thirty-six states, including Kansas, which allow capital punishment. Others, like Illinois, have slowed or temporarily discontinued the use of capital punishment because of innocent defendants.


Lastly, the death penalty encourages violence. In eighty percent of the United States, murder rates actually increase after executions take place. California has the largest death row in the United States with approximately 650 inmates. Executions lead to a brutalization effect, a climate of violence and killing to avenge grievances. Representative Jack Minor remarks, “The death penalty’s not a deterrent. In fact, the figures would suggest it’s just the opposite.”


At a murder victim’s support group, a large group of approximately 40 people say their names, and the member of their family who was murdered. And last, when they are finished, they announce, “And I oppose the death penalty.” These are the people who have come to realize that by killing a murderer, no lives are being saved, no lives will be returned, and no one is learning a lesson from the execution. It is only revenge, which does no good for anyone. The death penalty is expensive, it is not a deterrent, it is actually a crime because it is murder, and it encourages violence. Therefore, the death penalty should be illegal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีห้ารูปแบบที่แตกต่างกันของการดำเนินการในประเทศสหรัฐอเมริกาคือแขวนไฟฟ้า, ตายฉีดก๊าซพิษและยิงทีม ทั้งหมดเหล่านี้ควรจะผิดกฎหมาย มันไม่ได้ยับยั้งอาชญากรรมมันเป็นความผิดทางอาญาและมันกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง นอกจากนี้ยังมีราคาแพงมาก กับสหรัฐอเมริกาดิ้นรนกับเศรษฐกิจคนกำลังถามว่า "นี่คือวิธีการที่จะใช้จ่ายเงินได้หรือไม่" คณะกรรมการของรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่าระบบของโทษประหารชีวิตค่าใช้จ่ายมากกว่า 100 $ ล้านปีในการจัดการ.
แรกของทุกตาย โทษไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเกิดอาชญากรรม ยังมีอาชญากรที่ยังคงทำผิดกฎหมาย ในความเป็นจริงเพียงร้อยละยี่สิบของสหรัฐอเมริกาแสดงหลักฐานที่แสดงว่าการประหารชีวิตไม่ยับยั้งอาชญากรรม อัตราการฆาตกรรมในรัฐโทษไม่ตายยังคงจริงอย่างต่อเนื่องต่ำกว่าในสหรัฐฯโทษประหารชีวิตและช่องว่างได้เติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 1990 ศาลฎีกาพิพากษาวิลเลียมเบรนแนนกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ปฏิเสธว่าจำนวนมากและอาจจะมากที่สุดอาชญากรรมทุนไม่สามารถขัดขวาง โดยภัยคุกคามของการลงโทษ. "โดยเฉลี่ยที่ระบุโทษประหารดูเหมือนจะยับยั้งอาชญากรรมมีแนวโน้มที่จะดำเนินการคนอื่น ๆ อีกมากมายกว่าในรัฐที่มีดูเหมือนว่าจะไม่มีผลยับยั้ง ดังนั้นเฉพาะในกรณีที่รัฐดำเนินการหลาย ๆ คนไม่ยับยั้งการเจริญเติบโต. นอกจากนี้โทษประหารชีวิตตัวเองเป็นความผิดทางอาญา โทษประหารชีวิตคือการฆาตกรรมและสองความผิดไม่ได้ทำขวา มีจุดในการฆ่าคนที่มีความมุ่งมั่นฆาตกรรมแล้วเพราะไม่มีใครได้รับการสอนบทเรียนคือ สหรัฐได้ดำเนินการประสบความสำเร็จประมาณ 700 ตั้งแต่ 1976 เมื่อโทษประหารชีวิตถูกเรียกตัวกลับและขออภัยแคนซัสได้รับโทษประหารชีวิตรัฐตั้งแต่ปี 1994 ขณะนี้มีสามสิบหกรัฐรวมทั้งรัฐแคนซัสซึ่งอนุญาตให้ลงโทษประหารชีวิต อื่น ๆ เช่นอิลลินอยส์ได้ชะลอหรือหยุดชั่วคราวการใช้โทษประหารเพราะจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์. สุดท้ายโทษประหารชีวิตกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ในร้อยละแปดสิบของสหรัฐอเมริกาอัตราการฆาตกรรมจริงเพิ่มขึ้นหลังจากการประหารชีวิตเกิดขึ้น แคลิฟอร์เนียมีนักโทษประหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีประมาณ 650 ผู้ต้องขัง การประหารชีวิตนำไปสู่ผลกระทบเหมือนสัตว์ร้ายของสภาพภูมิอากาศของความรุนแรงและฆ่าเพื่อล้างแค้นให้กับความคับข้องใจ หมายเหตุผู้แทนแจ็คไมเนอร์ "โทษประหารชีวิตไม่ยับยั้ง ในความเป็นจริงตัวเลขที่จะบอกว่ามันเป็นเพียงตรงข้าม. " ที่กลุ่มสนับสนุนเหยื่อฆาตกรรม, กลุ่มใหญ่ประมาณ 40 คนบอกว่าชื่อของพวกเขาและเป็นสมาชิกของครอบครัวของพวกเขาที่ถูกฆ่าตาย และสุดท้ายเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นพวกเขาประกาศว่า "และฉันต่อต้านโทษประหารชีวิต." เหล่านี้เป็นคนที่ได้มาทราบว่าด้วยการฆ่าฆาตกรชีวิตไม่ได้ถูกบันทึกไว้ชีวิตจะไม่มีการคืนและไม่มีใคร คือการเรียนรู้บทเรียนจากการดำเนินการ มันคือการแก้แค้นเท่านั้นซึ่งไม่ดีสำหรับทุกคนไม่มี โทษประหารชีวิตมีราคาแพงก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมันเป็นจริงอาชญากรรมเพราะมันเป็นคดีฆาตกรรมและมันกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ดังนั้นโทษประหารชีวิตควรจะผิดกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีห้ารูปแบบการประหารชีวิตในสหรัฐอเมริกา : แขวน , ไฟดูด , ฉีด อันตรายถึงตาย แก๊ส และยิงเป้า ทั้งหมดเหล่านี้ควรจะผิดกฎหมาย มันไม่ได้ยับยั้งอาชญากรรมก็คืออาชญากรรม และสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ยังมีราคาแพงมาก กับสหรัฐฯ ต่อสู้กับเศรษฐกิจที่ผู้คนกำลังถาม , " นี้เป็นวิธีที่จะใช้จ่ายเงิน" คณะกรรมการ รัฐแคลิฟอร์เนีย รายงานว่า โทษประหารระบบต้นทุนมากขึ้นกว่า $ 100 ล้านบาทเพื่อดูแล
ก่อนอื่น โทษประหารชีวิตไม่ได้ยับยั้งการก่ออาชญากรรมได้ ยังคงมีอาชญากรที่ยังคงฝ่าฝืนกฎหมาย ในความเป็นจริง , เพียงร้อยละยี่สิบของสหรัฐอเมริกาสหรัฐอเมริกาแสดงหลักฐานว่า การประหารชีวิตจะยับยั้งอาชญากรรมฆาตกรรมในอัตราไม่ประหารรัฐก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลายต่ำกว่าในประหารรัฐและช่องว่างได้เติบโตขึ้นตั้งแต่ปี 1990 ศาลฎีกาพิพากษาวิลเลียม เบรนแนน กล่าวว่า " มันไม่ปฏิเสธว่า มากมาย และอาจจะใหญ่ที่สุดอาชญากรรมไม่ deterred จากการคุกคามของการลงโทษ . " เฉลี่ยสหรัฐอเมริกาที่โทษประหารดูเหมือนจะปรามอาชญากรรมมีแนวโน้มที่จะรันหลายๆคนมากกว่าในสหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนจะไม่มีผลยับยั้ง ดังนั้น ถ้ารัฐดำเนินการป้องปรามหลายคนไม่เติบโต


ยังโทษตายนั้นเป็นอาชญากรรม โทษประหารคือ การฆาตกรรม และสองผิดอย่าให้ถูกมีจุดในการฆ่าประชาชนที่ก่อคดีฆาตกรรมแล้วเพราะไม่มีใครสั่งสอน สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการประมาณ 700 ตั้งแต่ 1976 เมื่อโทษประหารกลับมา และน่าเสียดายที่ แคนซัสได้รับโทษประหารรัฐตั้งแต่ปี 1994 ขณะนี้มี 36 รัฐ ได้แก่ แคนซัส ซึ่งอนุญาตให้โทษประหารชีวิต ผู้อื่น เช่นอิลลินอยส์มีการชะลอตัวชั่วคราว หรือยกเลิกการใช้โทษประหาร เพราะไม่รู้เรื่องเลย


ท้ายนี้ โทษประหารกระตุ้นความรุนแรง ร้อยละ 80 ของสหรัฐอเมริกา อัตราการฆาตกรรมจริงเพิ่มขึ้นหลังจากการใช้สถานที่ แคลิฟอร์เนียที่ใหญ่ที่สุดแถวตายในสหรัฐอเมริกามีประมาณ 650 นักโทษ การทำให้ brutalization ผลบรรยากาศของความรุนแรง และการฆ่าเพื่อล้างแค้นความคับข้องใจ ตัวแทนกล่าวแจ็คเล็กน้อย " โทษประหารไม่ยับยั้ง ในความเป็นจริง ตัวเลขก็จะแนะนำให้มันตรงข้ามกันเลย "


ที่เป็นเหยื่อของกลุ่มสนับสนุน กลุ่มใหญ่ ประมาณ 40 คน พูดชื่อของตนเอง และสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาที่ถูกฆ่า และสุดท้าย เมื่อพวกเขาเสร็จสิ้น พวกเขาประกาศ" ผมต่อต้านการลงโทษประหารชีวิต . " เหล่านี้เป็นคนที่มาตระหนักว่า การฆ่าฆาตกร ไม่มีชีวิตถูกบันทึกไว้ ไม่มีชีวิตจะกลับคืนมา และไม่มีใครเรียนรู้บทเรียนจากการประหาร มันเป็นเพียงการแก้แค้น ซึ่งไม่ดีสำหรับทุกคน โทษประหารจะแพง ไม่ยับยั้ง มันจริง ๆเพราะมันคืออาชญากรรม ฆาตกรรม และสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงดังนั้นโทษประหารชีวิตควรจะผิดกฎหมาย