One of the graetest experiences I'v

One of the graetest experiences I've ever had was in Morocco.
It was a trip to the desert. A group of us set off from Marrakesh at 7 a.m. in a minibus and headed southeast.
The countryside on the way was very unusual, with dry gray cliffs, and below them in the canyons there were lots of green palm trees. When we got to the Atlas Mountains, we ran into a snowstorm, and it got very cold in the bus. It's incredible to think that the hot desert was so near.

After traveling for two days, we finally got to Merzuga, a tiny town on the edge of the Sahara Desert.
We left our stuff in a hostel and drove to the place from which the caravans departed.
Before sunset, we boarded our camels and rode into the desert over the dunes.
The dunes were amazing they changed color depending on the angle of the sun.
The ride lasted about two hours. When we reached the camp, it was dark, cold, and I was starving.
We sat in the camp and waited for dinner. Several hours later they brought a lamb dish, which five of us shared from a plate, eating with our hands.

After dinner, everyone went to sleep in tents, except me. I've always wanted to have the experience of sleeping in the desert, under the stars. But I didn't realize it could get so cold at night.
So I took the same blanket that I used to ride the camel and wrapped myself in it to keep warm.
During the day, the temperatures can reach 50 Celsius, but at night, they fall to 4 Celsius.
The dunes looked like snow, and the clear sky covered with stars was an amazing sight.
No wonder the Moors were such great astronomers. They had a planetarium above them to observe every night. From time to time, I saw a shooting star, and I made a wish: I wanted to come back and spend a night in the desert, but next time, in a nice, warm sleeping bag.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งในประสบการณ์ graetest ฉันเคยอยู่ในประเทศโมร็อกโกก็เดินทางไปทะเลทราย กลุ่มของเราตั้งออกจากมาราเกชหัวหินเวลา 7.00 น.ในรถเป็น และทิศตะวันออกเฉียงใต้ชนบทในทางถูกมากผิดปกติ มีหน้าผาสีเทาแห้ง และด้านล่างในหุบเขามีต้นปาล์มเขียวมากมาย เมื่อเราได้ไปภูเขา Atlas เราประสบกับพายุหิมะ และมีอากาศหนาวมากในรถ มันไม่น่าเชื่อคิดว่า ทะเลทรายร้อนใกล้ดังนั้นหลังจากเดินทางสองวัน เราก็ได้ไป Merzuga เมืองเล็ก ๆ บนขอบของทะเลทรายซาฮาราเราทิ้งสิ่งของในพัก และขับรถไปยังสถานที่ที่เน้นการออกเดินทางอาทิตย์ เราโดยสารอูฐของเรา และขี่ไปเที่ยวในทะเลทรายเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจจะเปลี่ยนแปลงสีตามมุมของดวงอาทิตย์นั่งกินเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อเรามาถึงค่าย มันเป็นสีเข้ม เย็น และฉันไม่อดอยากเรานั่งอยู่ในค่าย และรอให้เย็น หลายชั่วโมงหลังจากนั้นนำจานแกะ ที่ห้าของเราที่ใช้ร่วมกันจากจาน รับประทานอาหาร ด้วยมือของเราหลังอาหารค่ำ ทุกคนไปนอนในเต็นท์ ยกเว้นฉัน ฉันได้เสมอต้องมีประสบการณ์นอนในทะเลทราย ใต้แสงดาว แต่ไม่รู้มันได้รับเย็นดังนั้นในเวลากลางคืนดังนั้น ฉันเอาครอบคลุมเหมือนที่ผมใช้ขี่อูฐ และห่อตัวเองมันทำให้อบอุ่นในระหว่างวัน อุณหภูมิสามารถเข้าถึง 50 เซลเซียส แต่ในเวลากลางคืน พวกเขาตกไป 4 เซลเซียสเที่ยวเหมือนหิมะ และท้องฟ้ามีดาวเป็นภาพตื่นตาตื่นใจพบชาวมัวร์ได้ดาราดังกล่าวดีขึ้น มีท้องฟ้าจำลองด้านสังเกตทุกคืน เวลา ฉันเห็นดาวยิง และทำความปรารถนา: อยากจะกลับมา และใช้คืนในทะเลทราย แต่ครั้งต่อไป ในถุงนอนหลับดี อบอุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในประสบการณ์ที่ graetest ที่ฉันเคยมีอยู่ในโมร็อกโก.
มันคือการเดินทางไปยังทะเลทราย กลุ่มของเราออกเดินทางจาก Marrakesh ที่ 07:00 ในรถมินิบัสและมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้.
ชนบทในทางที่เป็นเรื่องผิดปกติมากกับหน้าผาสีเทาแห้งและด้านล่างของพวกเขาในหุบเขามีจำนวนมากของต้นปาล์มสีเขียว เมื่อเราได้เทือกเขา Atlas เราวิ่งเข้าไปในพายุหิมะและมันก็หนาวมากในรถบัส มันเหลือเชื่อที่จะคิดว่าทะเลทรายร้อนเป็นอย่างใกล้. หลังจากเดินทางเป็นเวลาสองวันในที่สุดเราก็มีการ Merzuga เป็นเมืองเล็ก ๆ บนขอบของทะเลทรายซาฮารา. เราออกจากสิ่งที่เราในโฮสเทลและขับรถไปยังสถานที่ที่ คาราวานออก. ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเราขึ้นอูฐของเราและขี่ม้าเข้าไปในทะเลทรายข้ามเนิน. เนินทรายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่พวกเขาได้รับการเปลี่ยนสีขึ้นอยู่กับมุมของดวงอาทิตย์. นั่งกินเวลาประมาณสองชั่วโมง เมื่อเราไปถึงค่ายมันมืดเย็นและฉันถูกหิวโหย. เรานั่งอยู่ในค่ายและรอสำหรับอาหารค่ำ หลายชั่วโมงต่อมาพวกเขานำจานเนื้อแกะที่ห้าของเราใช้ร่วมกันจากแผ่นกินด้วยมือของเรา. หลังอาหารค่ำทุกคนไปนอนในเต็นท์ยกเว้นฉัน ฉันอยากจะมีประสบการณ์ในการนอนหลับอยู่ในทะเลทรายใต้แสงดาว แต่ผมไม่ทราบว่ามันจะได้รับความเย็นดังนั้นในเวลากลางคืน. ดังนั้นผมจึงเอาผ้าห่มเดียวกับที่ผมใช้ในการขี่อูฐและห่อตัวเองในนั้นเพื่อให้อบอุ่น. ระหว่างวันที่อุณหภูมิสามารถเข้าถึง 50 องศาเซลเซียส แต่ในเวลากลางคืน พวกเขาตกอยู่ถึง 4 องศาเซลเซียส. เนินดูเหมือนหิมะและฟ้าใสที่ปกคลุมไปด้วยดาวเป็นสายตาที่น่าตื่นตาตื่นใจ. ไม่น่าแปลกใจทุ่งเป็นนักดาราศาสตร์ที่ดีดังกล่าว พวกเขามีท้องฟ้าเหนือกว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นทุกคืน จากเวลาที่ผมเห็นดาวยิงและฉันทำปรารถนา: ผมอยากที่จะกลับมาและการใช้จ่ายคืนในทะเลทราย แต่ครั้งต่อไปในที่ดี, ถุงนอนที่อบอุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในประสบการณ์ที่เคย graetest ในโมร็อกโก .
ก็เดินทางไปยังทะเลทราย กลุ่มของพวกเราออกเดินทางจาก Marrakesh ที่ 7 น. ในรถและมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ชนบทระหว่างทางมากผิดปกติ ด้วยบริการหน้าผาสีเทาและด้านล่างไว้ในหุบเขา มีต้นไม้เยอะแยะ ปาล์มสีเขียว เมื่อเราได้เทือกเขาแอตลาส เราเจอพายุหิมะมันหนาวมากในรถบัส มันเหลือเชื่อที่จะคิดว่าทะเลทรายร้อนใกล้เข้ามาแล้ว

หลังจากเดินทาง 2 วัน เราก็ต้อง merzuga , เป็นเมืองเล็ก ๆบนขอบของทะเลทรายซาฮารา .
เราทิ้งของในหอพัก และขับรถไปยังสถานที่ซึ่งคาราวานออกเดินทาง
ก่อนพระอาทิตย์ตก เรา boarded อูฐ ของเราและขี่ม้าในทะเลทรายบนเนินทราย
เนินทรายมหัศจรรย์มาก พวกเขาเปลี่ยนสีขึ้นอยู่กับมุมของดวงอาทิตย์ .
นั่งกินเวลาประมาณสองชั่วโมง เมื่อถึงค่าย มันมืด เย็น และผมก็หิว
เรานั่งอยู่ในค่ายรออาหารเย็น หลายชั่วโมงต่อมา เขานำลูกแกะตัวหนึ่งจาน ซึ่ง 5 คนร่วมกันจากจาน กินกับมือของเรา

หลังอาหารเย็น ทุกคนก็ไปนอนในเต็นท์ ยกเว้นฉันฉันได้เสมอต้องการที่จะมีประสบการณ์นอนในทะเลทรายใต้แสงดาว แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะหนาวตอนกลางคืน
ดังนั้นฉันเอาผ้าห่มเดียวกันที่ผมเคยขี่อูฐและห่อเอง เพื่อให้ความอบอุ่น
ในช่วงกลางวัน อุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส แต่ในเวลากลางคืนพวกเขาตกถึง 4 องศาเซลเซียส
เนินทรายเหมือนหิมะ ,และท้องฟ้าใสที่ปกคลุมด้วยดาวเป็นสายตาที่น่าตื่นตาตื่นใจ
มิน่าชาวมัวร์เป็นนักดาราศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เช่น พวกเขามีหอดูดาวด้านบนให้สังเกตทุกคืน เวลาเห็นดาวตก และผมก็ต้องการ : ฉันต้องการที่จะกลับมาและการใช้จ่ายคืนในทะเลทราย แต่ครั้งหน้า ในดี อบอุ่น ถุงนอน