Fisheries[edit]Capture of Atlantic

Fisheries[edit]

Capture of Atlantic bluefin tuna in tonnes from 1950 to 2009
Commercial capture[edit]
Aquaculture[edit]
Tuna farming began as early as the 1970s. Canadian fishermen in St Mary's Bay captured young fish and raised them in pens. In captivity, they grow to reach hundreds of kilos, eventually fetching premium prices in Japan. Farming enables farmers to exploit the unpredictable supply of wild-caught fish. Ranches across the Mediterranean and off South Australia grow bluefin offshore. Annual revenues are $220 million. A large proportion of juvenile and young Mediterranean fish are taken to be grown on tuna farms. Because the tuna are taken from the wild to the pens before they are old enough to reproduce, farming is one of the most serious threats to the species.[citation needed] The bluefin's slow growth and late sexual maturity compound its problems. The Atlantic population has declined by nearly 90 percent since the 1970s.[19]

In Europe and Australia, scientists have used light-manipulation technology and time-release hormone implants to bring about the first large-scale captive spawning of Atlantic and southern bluefin.[9] The technology involves implanting gonadotropin-releasing hormone in the fish to stimulate fertile egg production and may push the fish to reach sexual maturity at younger ages.[20]

However since bluefin require so much food per pound of weight gained-up to 10 times that of salmon-, if bluefin were to be farmed at the same scale as twenty-first century salmon-farming many of their prey species may become depleted if farmed bluefin were fed the same diet as their wild counterparts. As of 2010, 30 million tons of small forage fish were removed from the oceans yearly, the majority feed for farmed fish.[9]

Market entry by many North African Mediterranean countries, such as Tunisia and Libya in the 1990s, along with the increasingly widespread practice of tuna farming in the Mediterranean and other areas such as southern Australia (for southern bluefin tuna) depressed prices. One result is that fishermen must now catch up to twice as many fish to maintain their revenues.[citation needed]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมง [แก้ไข]จับของทูน่าครีบน้ำเงินเหนือแอตแลนติกในตันจากปี 1950 ถึง 2552จับค้า [แก้ไข]เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ [แก้ไข]เลี้ยงปลาทูน่าเริ่มเป็นช่วงต้นทศวรรษ 1970 ประมงแคนาดาในอ่าวเซนต์มารีย์จับปลาเล็ก และเติบโตขึ้นในปากกา กุม พวกเขาเติบโตถึงร้อยกิโลกรัม พรีเมี่ยมราคาในญี่ปุ่นที่นำมาใช้ในที่สุด ทำการเกษตรทำให้เกษตรกรเพื่อใช้จ่ายไม่แน่นอนของป่าจับปลา Ranches เมดิเตอร์เรเนียน และ ปิดใต้ออสเตรเลียเติบโตมงครีบฟ้าทะเล รายได้ต่อปี $220 ล้านบาทได้ สัดส่วนขนาดใหญ่ของปลาเมดิเตอร์เรเนียนเยาวชน และหนุ่มสาวถูกนำไปถูกปลูกในฟาร์มปลาทูน่า เนื่องจากทูน่าถูกนำจากป่าที่ไปปากกาก่อนเก่าพอที่จะทำซ้ำ ทำฟาร์มเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง[ต้องการอ้างอิง] ของมงครีบฟ้าเจริญเติบโตช้าและครบกำหนดทางเพศสายผสมปัญหา ประชากรแอตแลนติกปฏิเสธเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ทศวรรษ 1970[19]ในยุโรปและออสเตรเลีย นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีการจัดการแสง และฮอร์โมน time-release implants ก่อตัวแรกขนาดใหญ่ภายในกิจการและวางไข่ของครีบน้ำเงินเหนือแอตแลนติก และภาคใต้[9] เทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับ implanting gonadotropin – releasing ฮอร์โมนในปลาเพื่อกระตุ้นการผลิตไข่ และอาจผลักดันปลาถึงครบกำหนดทางเพศในวัยอายุ[20]อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมงครีบฟ้าต้องใช้อาหารมากต่อปอนด์ของน้ำหนักได้ตั้ง 10 ครั้งที่ปลาแซลมอน- ถ้าเป็น farmed ในสเกลเดียวกันเป็นศตวรรษที่ยี่สิบการเลี้ยงปลาแซลมอนหลายชนิดของเหยื่อมงครีบฟ้า อาจพร่องถ้ามงครีบฟ้า farmed ได้เลี้ยงอาหารกันเป็นคู่ป่าของพวกเขา 2553, 30 ล้านตันปลาอาหารสัตว์ขนาดเล็กถูกเอาออกจากในมหาสมุทรประจำปี ส่วนใหญ่เลี้ยงปลา farmed[9]รายการตลาด โดยเมดิเตอร์เรเนียนแอฟริกาเหนือประเทศ ตูนิเซียและลิเบียในปี 1990 พร้อมด้วยการปฏิบัติอย่างแพร่หลายมากขึ้นของปลาทูน่าที่ทำฟาร์มในพื้นที่อื่น ๆ เช่นออสเตรเลียใต้ (สำหรับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือใต้) และเมดิเตอร์เรเนียนราคาตกต่ำ ผลหนึ่งมีว่า ชาวประมงต้องตอนนี้ทันปลาสองเป็นจำนวนมากเพื่อรักษารายได้ของพวกเขา[ต้องการอ้างอิง]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประมง [แก้ไข] จับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัน 1950-2009 จับพาณิชย์ [แก้ไข] เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ [แก้ไข] การเลี้ยงปลาทูน่าเริ่มเป็นช่วงต้นปี 1970 ชาวประมงแคนาดาในอ่าวเซนต์แมรี่จับปลาเด็กและการเลี้ยงดูพวกเขาในปากกา คุมขังพวกเขาเติบโตไปถึงหลายร้อยกิโลกรัมในที่สุดก็เรียกราคาพรีเมี่ยมในประเทศญี่ปุ่น งานเกษตรกรรมช่วยให้เกษตรกรที่จะใช้ประโยชน์อุปทานคาดเดาไม่ได้ของปลาป่าที่จับ ทุ่งข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและปิดใต้ของประเทศออสเตรเลียเติบโตครีบน้ำเงินในต่างประเทศ รายได้ประจำปีเป็น $ 220,000,000 ส่วนใหญ่ของเด็กและเยาวชนและปลาทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหนุ่มสาวจะถูกนำไปปลูกในฟาร์มปลาทูน่า เพราะปลาทูน่าที่นำมาจากป่าเพื่อปากกาก่อนที่พวกเขาจะโตพอที่จะทำซ้ำการเกษตรเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดชนิด. [อ้างจำเป็น] การเจริญเติบโตช้าของครีบและปลายสารประกอบวุฒิภาวะทางเพศปัญหา ประชากรแอตแลนติกได้ลดลงเกือบร้อยละ 90 ตั้งแต่ปี 1970. [19] ในยุโรปและออสเตรเลียนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีแสงการจัดการและใช้เวลาการปลูกถ่ายปล่อยฮอร์โมนที่จะนำเรื่องแรกขนาดใหญ่วางไข่เชลยของมหาสมุทรแอตแลนติกและภาคใต้ครีบ [9] เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังฮอร์โมน gonadotropin ปล่อยปลาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตไข่ที่อุดมสมบูรณ์และอาจผลักดันปลาที่จะไปถึงวุฒิภาวะทางเพศในวัยที่มีอายุน้อยกว่า. [20] อย่างไรก็ตามตั้งแต่ครีบต้องการอาหารมากต่อปอนด์ของน้ำหนักได้รับขึ้นไป 10 เท่าของแซลมอนถ้าครีบจะได้รับการเพาะปลูกในระดับเดียวกับศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดปลาแซลมอนเลี้ยงหลายสายพันธุ์เหยื่อของพวกเขาอาจหมดถ้าครีบทำไร่ไถนาได้รับอาหารเช่นเดียวกับคู่ของพวกเขาป่า ขณะที่ 2010, 30 ล้านตันของอาหารปลาขนาดเล็กที่ถูกถอดออกจากมหาสมุทรประจำปีอาหารส่วนใหญ่สำหรับปลาทำไร่ไถนา. [9] การเข้าสู่ตลาดของประเทศเมดิเตอร์เรเนียนหลายแอฟริกาเหนือเช่นตูนิเซียและลิเบียในปี 1990 พร้อมกับเพิ่มมากขึ้น การปฏิบัติงานอย่างแพร่หลายของการเลี้ยงปลาทูน่าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและพื้นที่อื่น ๆ เช่นภาคใต้ของออสเตรเลีย (ปลาทูน่าครีบน้ำเงินภาคใต้) ราคาหดหู่ หนึ่งผลที่ได้คือว่าตอนนี้ชาวประมงจะต้องจับปลาได้มากถึงสองเท่าเพื่อรักษารายได้ของพวกเขา. [อ้างจำเป็น]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประมง [ แก้ไข ]

จับแอตแลนติกบลูฟินทูน่าในตันจาก 2493 ถึง 2009

เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์จับ [ แก้ไข ] [ แก้ไข ]
ฟาร์มปลาทูน่าเริ่มเร็ว 1970 แคนาดาชาวประมงในอ่าวเซนต์แมรี่จับหนุ่มปลาและเลี้ยงไว้ในคอก ในการเป็นเชลย พวกเขาเติบโตถึงหลายร้อยกิโล ก็เรียก พรีเมี่ยม ราคาในญี่ปุ่นการช่วยให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากอุปทานที่ไม่แน่นอนของป่าจับปลา ทุ่งเลี้ยงสัตว์ทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและออกจากออสเตรเลียเติบโตครีบ offshore รายได้ต่อปี $ 220 ล้าน สัดส่วนขนาดใหญ่ของเยาวชนและหนุ่มสาวเมดิเตอร์เรเนียนปลาจะถ่ายจะปลูกในฟาร์มปลาทูน่า เพราะทูน่าที่เอามาจากป่าเพื่อปากกาก่อนที่พวกเขาโตพอที่จะใช้สืบพันธุ์เกษตรเป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดของชนิด . [ อ้างอิงที่จำเป็น ] ของครีบช้าการเจริญเติบโตและสายทางเพศแก่สารประกอบปัญหา มหาสมุทรแอตแลนติกมีประชากรลดลงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 1970 . [ 19 ]

ในยุโรปและออสเตรเลียนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีการจัดการแสงและเวลาปล่อยฮอร์โมนเทียมตัวแรกของมหาสมุทรแอตแลนติกและวางไข่ขนาดใหญ่ไว้ใต้ครีบ [ 9 ] เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่าย gonadotropin-releasing ฮอร์โมนในการกระตุ้นการผลิตไข่ปลาอุดมสมบูรณ์และอาจดันปลาถึงวุฒิภาวะทางเพศ ที่เด็กวัย [ 20 ]

อย่างไรก็ตามเนื่องจากครีบต้องการอาหารมาก ต่อปอนด์ของน้ำหนักได้ถึง 10 เท่าของปลาแซลมอน ถ้าครีบเป็น farmed ในระดับเดียวกันเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ยี่สิบ - แซลมอนฟาร์มหลายสายพันธุ์เหยื่ออาจกลายเป็นหมดถ้า farmed ครีบเลี้ยงอาหารเช่นเดียวกับคู่ป่าของพวกเขา ใน 2010 , 30 ล้านตันของปลาพันธุ์เล็กถูกลบออกจากมหาสมุทรรายปีอาหารส่วนใหญ่สำหรับฟาร์มปลา [ 9 ]

ตลาดทวีปแอฟริกาทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยหลายประเทศ เช่น ตูนิเซียและลิเบียในปี 1990 พร้อมกับปฏิบัติอย่างกว้างขวางมากขึ้นจากการเลี้ยงปลาทูน่าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และพื้นที่อื่น ๆเช่น ออสเตรเลียใต้ ( สำหรับปลาทูน่าครีบใต้ ) ราคา คับหนึ่งผลที่ชาวประมงต้องจับสองครั้งปลามาก เพื่อรักษารายได้ของพวกเขา . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]