Education in Thailand is free and c

Education in Thailand is free and compulsory for all Thai citizens between the ages of six and fifteen. Children between three and five also have the option of attending nursery and preschool.
Previously, education in Thailand was provided by Buddhist monks and was only available to boys. Nowadays however, the Thai government provides education in Thailand.

There are two types of education in Thailand – formal and informal education. Formal education is the education that children receive in a classroom. Informal education however, is provided outside the classroom (in libraries, museums, through educational TV programmes and special radio programs etc.). However in Thailand today, most students have access to a formal education system.

Formal education in Thailand is divided into early year education, basic education, vocational education and higher education.

Basic education in Thailand is divided into:

Nursery school KG1 to KG3 for 3 to 6 year olds
Primary school P1 to P6 (Prathorn) for 6 to11 year olds
Secondary school M1 – M6 (Mattayorn) for 12 to18 year olds
Compulsory education in Thailand consists of 6 years of primary schooling called Prathorn (level P1 to P6) and 3 years of secondary schooling (level M1-M3).

Optional secondary education and university

Students who want to continue their studies after the obligatory M3 level will have to pass the O-NET test (Ordinary National Educational Test). They then have to choose one or two elective courses. The elective courses consist of science programmes, mathematics programmes, foreign language programmes, or social science programmes.

In order to graduate after M6, students must pass the A-NET test (Advanced National Educational Test). The M6 diploma is equivalent to British A levels, the International Baccalaureate or the US- high school diploma.

In order to attend a university after graduating from M6, students must pass the CUAS test (Central University Admission System). This system is based on the scores of the O-NET and the A-NET. In addition they have to pass an extra admission test at their respective universities. Almost 40% of students attend university after M6 (Mattayorn).

Schooling hours and school holidays in Thailand

Public schools usually sing the National Anthem at 08:30, which indicates the start of the school day. Classes usually end around 15:30. International schools may have different schedules; this depends on the school.

Public schools usually have one month of holiday in October and two months of holiday in March and April.

Private international schools tend to have different holiday schedules. They are more likely to follow the Western schedule and have long holidays in July and August and a two week holiday for both Christmas and Easter.

The Grading System in Thailand

In Thailand, primary and secondary school students will be graded using a number-system (1 = very bad to 4 = very good). Some English teaching programmes and individual English teachers use the American grading system with A (being excellent), B, C, D and F (failed).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาในประเทศไทยเป็นฟรี และบังคับสำหรับคนไทยทั้งหมดอายุระหว่างหกและปริศนาสิบห้าช่อง เด็กสามถึงห้ายังมีตัวเลือกในการเข้าร่วมเรือนเพาะชำและก่อนวัยเรียนก่อนหน้านี้ การศึกษาในประเทศไทยได้รับจากพระสงฆ์ และมีเฉพาะเด็กชาย ในปัจจุบันอย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยให้การศึกษาในประเทศไทยมีสองประเภทของการศึกษาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการศึกษา ศึกษาเป็นการศึกษาที่เด็กได้รับในห้องเรียน การศึกษาเป็นอย่างไรก็ตาม ที่ตั้งนอกห้องเรียน (ในไลบรารี พิพิธภัณฑ์ โทรทัศน์การศึกษาและโปรแกรมพิเศษวิทยุฯลฯ) อย่างไรก็ ตามในประเทศไทย วันนี้ นักเรียนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาศึกษาในประเทศไทยแบ่งออกเป็นช่วงต้นปีการศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศไทยแบ่งออกเป็น:โรงเรียน KG1 การ KG3 สำหรับ 3 ถึง 6 ปีมีโรงเรียน P1 การ P6 (Prathorn) สำหรับอายุระหว่างปี to11 6โรงเรียนมัธยม M1 – M6 (Mattayorn) สำหรับอายุระหว่างปี to18 12การศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยประกอบด้วยศึกษาหลักที่เรียกว่า Prathorn (ระดับ P1 การ P6) 6 ปีและ 3 ปีการศึกษามัธยมศึกษา (ระดับ M1 M3)เลือกระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยนักเรียนต้องการเรียนต่อหลังจากระดับ M3 บังคับจะต้องผ่านการทดสอบ O-NET (สามัญแห่งชาติการศึกษาทดสอบ) นอกจากนี้พวกเขาจากนั้นให้เลือกวิชาเลือกหนึ่ง หรือสอง วิชาประกอบด้วยโปรแกรมวิทยาศาสตร์ โปรแกรมคณิตศาสตร์ โปรแกรมภาษา หรือโครงการสังคมศาสตร์เพื่อสำเร็จศึกษาหลัง M6 นักเรียนต้องผ่านการทดสอบแบบ (ขั้นสูงแห่งชาติการศึกษาทดสอบ) ประกาศนียบัตร M6 จะเท่ากับอังกฤษระดับ International Baccalaureate หรือระดับมัธยมสหรัฐ-เพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยหลังจากจบจาก M6 นักเรียนต้องผ่านการทดสอบ CUAS (เซ็นทรัลมหาวิทยาลัยเข้าระบบ) ระบบนี้เป็นไปตามคะแนน O-NET และ A-NET นอกจากนี้ พวกเขาต้องผ่านการทดสอบเข้าเรียนพิเศษที่ทางมหาวิทยาลัยตามลำดับ เกือบ 40% ของนักเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหลัง M6 (Mattayorn)การศึกษาเวลาและวันหยุดโรงเรียนในประเทศไทยโรงเรียนสาธารณะมักจะร้องเพลงชาติเวลา 08:30 ซึ่งบ่งชี้เริ่มต้นของวันที่โรงเรียน เรียนจะจบประมาณ 15:30 โรงเรียนนานาชาติอาจมีกำหนดการต่าง ๆ นี้ขึ้นอยู่กับโรงเรียนโรงเรียนสาธารณะมักจะมีหนึ่งเดือนของวันหยุด ในเดือนตุลาคม และ เดือนที่สองของวันหยุดในเดือนมีนาคมและเมษายนโรงเรียนนานาชาติส่วนตัวมักจะ มีตารางวันหยุดที่แตกต่างกัน พวกเขามีแนวโน้มทำตามตารางเวลาตะวันตก และมีวันหยุดยาวในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมและเป็นวันหยุดสองสัปดาห์ทั้งคริสต์มาสและอีสเตอร์ระบบการวัดผลในประเทศไทยในประเทศไทย หลักและนักเรียนโรงเรียนมัธยมจะเป็นอย่างช้า ๆ โดยใช้ระบบเลข (1 =ดีมาก 4 =ดีมาก) อังกฤษบางสอนโปรแกรมและบุคคลครูสอนภาษาอังกฤษใช้อเมริกันคัดเกรดระบบ (ถูกดี), B, C, D และ F (เหลว)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาในประเทศไทยเป็นอิสระและได้รับคำสั่งให้ประชาชนไทยทุกคนทุกเพศทุกวัยหกสิบห้าระหว่าง เด็กอายุระหว่างสามและห้ายังมีตัวเลือกของการเข้าร่วมและสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน.
ก่อนหน้านี้การศึกษาในประเทศไทยถูกจัดให้โดยพระสงฆ์และใช้ได้เฉพาะกับเด็กผู้ชาย ปัจจุบันอย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยให้การศึกษาในประเทศไทย. มีสองประเภทของการศึกษาอยู่ในประเทศไทย - การศึกษาอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การศึกษาอย่างเป็นทางการการศึกษาที่เด็กได้รับในห้องเรียน การศึกษานอกระบบ แต่ให้บริการนอกห้องเรียน (ในห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ผ่านรายการโทรทัศน์การศึกษาและรายการวิทยุพิเศษอื่น ๆ ) อย่างไรก็ตามในประเทศไทยในวันนี้นักเรียนส่วนใหญ่มีการเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเป็นทางการ. ศึกษาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแบ่งออกเป็นการศึกษาในช่วงต้นปีการศึกษาขั้นพื้นฐานอาชีวศึกษาและการศึกษาที่สูงขึ้น. การศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศไทยแบ่งเป็น: โรงเรียนอนุบาล KG1 เพื่อ KG3 3 6 ปี olds ประถม P1 เพื่อ P6 (Prathorn) 6 to11 ปี olds มัธยมศึกษา M1 - M6 (Mattayorn) 12 to18 ปีการศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยประกอบด้วย 6 ปีของการศึกษาประถมศึกษาที่เรียกว่า Prathorn (ระดับ P1 เพื่อ P6) และ 3 ปีของการศึกษามัธยมศึกษา (ระดับ M1-M3). การศึกษาและมหาวิทยาลัยรองตัวเลือกนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อของพวกเขาหลังจากระดับ M3 บังคับจะต้องผ่านการทดสอบ O-NET (Ordinary การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ) จากนั้นพวกเขาต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองวิชาเลือก หลักสูตรวิชาประกอบด้วยโปรแกรมวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์โปรแกรมโปรแกรมภาษาต่างประเทศหรือโปรแกรมสังคมศาสตร์. เพื่อที่จะจบการศึกษาหลังจาก M6 นักเรียนจะต้องผ่านการทดสอบ A-NET (ขั้นสูงการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ) ประกาศนียบัตร M6 เทียบเท่ากับระดับของอังกฤษที่ International Baccalaureate หรือประกาศนียบัตรมัธยมปลายจากสหรัฐ. เพื่อเข้าร่วมมหาวิทยาลัยหลังจากจบการศึกษาจาก M6 นักเรียนจะต้องผ่านการทดสอบ CUAS (มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลระบบค่าเข้าชม) ระบบนี้จะขึ้นอยู่กับคะแนนของ O-NET และ A-สุทธิ นอกจากนี้พวกเขาต้องผ่านการทดสอบการรับเข้าเรียนพิเศษที่มหาวิทยาลัยของตน เกือบ 40% ของนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยหลังจาก M6 (Mattayorn). การเรียนในโรงเรียนชั่วโมงและวันหยุดของโรงเรียนในประเทศไทยโรงเรียนของรัฐมักจะร้องเพลงชาติที่ 08:30 ซึ่งบ่งชี้เริ่มต้นของวันโรงเรียน ชั้นเรียนมักจะจบรอบ 15:30 โรงเรียนนานาชาติอาจมีตารางเวลาที่แตกต่างกัน นี้ขึ้นอยู่กับโรงเรียน. โรงเรียนของรัฐมักจะมีหนึ่งเดือนของวันหยุดในเดือนตุลาคมและสองเดือนของวันหยุดในเดือนมีนาคมและเมษายน. โรงเรียนนานาชาติเอกชนมีแนวโน้มที่จะมีตารางเวลาวันหยุดที่แตกต่างกัน พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามกำหนดการตะวันตกและมีวันหยุดยาวในเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคมและวันหยุดสัปดาห์ที่สองสำหรับทั้งคริสมาสต์และวันอีสเตอร์. วัดผลระบบของไทยในประเทศไทยนักเรียนชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาจะให้คะแนนโดยใช้หมายเลขระบบ ( 1 = เลวร้ายมากถึง 4 = ดีมาก) บางโปรแกรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษและครูสอนภาษาอังกฤษของแต่ละบุคคลใช้ระบบการให้คะแนนอเมริกันที่มี (เป็นที่ยอดเยี่ยม), B, C, D และ F (ล้มเหลว)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาไทยที่เป็นอิสระและบังคับสำหรับประชาชนไทย อายุระหว่าง 6 และ 15 เด็กระหว่างสามและห้ายังมีตัวเลือกของการเข้าร่วมสถานเลี้ยงเด็กและอนุบาลก่อนหน้านี้ การศึกษาในประเทศไทยโดยพระสงฆ์และใช้ได้เฉพาะกับพวกผู้ชาย ทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยมีการศึกษาในประเทศไทยมีสองประเภทของการศึกษาไทยทั้งระบบและการศึกษานอกระบบ การศึกษาคือการศึกษาที่เด็กได้รับในชั้นเรียน การศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดนอกห้องเรียน ( ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ผ่านรายการโทรทัศน์ และรายการวิทยุการศึกษาพิเศษ ฯลฯ ) อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยวันนี้ นักเรียนส่วนใหญ่มีการเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเป็นทางการการศึกษาในประเทศไทยแบ่งออกเป็นช่วงต้นปี การศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศไทย แบ่งเป็น :สถานเลี้ยงเด็กโรงเรียน kg1 เพื่อ kg3 สำหรับเด็ก 3 - 6 ปีโรงเรียนประถม P1 กับ P6 ( prathorn ) 6 to11 ปีโรงเรียนมัธยม ( M1 M6 ( mattayorn ) สำหรับ 12 ปี olds to18การศึกษาภาคบังคับในประเทศไทยประกอบด้วย 6 ปีของตนหลักที่เรียกว่า prathorn ( P1 ระดับ P6 ) และ 3 ปีของโรงเรียนมัธยม ( m1-m3 ระดับ )การศึกษาและมหาวิทยาลัยเป็นตัวเลือกรองนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อหลังจากระดับ M3 บังคับ จะต้องผ่านการสอบระดับชาติการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ) พวกเขาก็ต้องเลือกหนึ่งหรือสองหลักสูตรวิชาเลือก หลักสูตรวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประกอบด้วยโปรแกรม , โปรแกรม , โปรแกรมภาษาต่างประเทศ หรือสังคมศาสตร์โปรแกรมเพื่อจบหลัง M6 นักศึกษาต้องผ่านการสอบเอเน็ต ( ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง ) ส่วน M6 ประกาศนียบัตรเทียบเท่ากับอังกฤษเป็นระดับ นานาชาติบัณฑิตหรือสหรัฐ - ม.ปลายเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบจาก M6 นักศึกษาต้องผ่าน cuas ทดสอบระบบการรับเข้ามหาวิทยาลัยภาคกลาง ) ระบบนี้เป็นระบบที่อยู่บนพื้นฐานของคะแนนโอเน็ตและเอเน็ต . นอกจากนี้พวกเขาจะต้องผ่านการสอบเข้าเรียนพิเศษในแต่ละมหาวิทยาลัย เกือบ 40% ของนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยหลังจาก M6 ( mattayorn )ชั่วโมงเรียน และวันหยุด ใน ไทยโรงเรียนมักจะร้องเพลงชาติ เวลา 08.30 น. ซึ่งบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของวันโรงเรียน ชั้นมักจะจบประมาณ 15 : 30 . โรงเรียนนานาชาติอาจมีตารางเวลาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโรงเรียนโรงเรียนมักจะมีหนึ่งเดือนของวันหยุดในเดือนตุลาคมและเดือนของวันหยุดในเดือนมีนาคมและเมษายนโรงเรียนนานาชาติเอกชนมักจะมีตารางเวลาวันหยุดที่แตกต่างกัน พวกเขามีแนวโน้มที่จะทำตามตารางตะวันตก และมีวันหยุดยาว ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมและวันหยุดในสัปดาห์ที่สองทั้งคริสต์มาสและอีสเตอร์ระดับระบบในประเทศไทยในไทย ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จะให้คะแนนโดยใช้ระบบหมายเลข ( 1 = มาก 4 = ดีมาก ) มีโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษและครูภาษาอังกฤษแต่ละใช้ระบบให้คะแนนกับอเมริกัน ( เป็นเลิศ ) , B , C , D และ F ( ล้มเหลว )