A company needs assets to run its o

A company needs assets to run its operations. To buy them, it has to raise money. This comes from two sources- debt (borrowings) and equity. Debt brings about an obligation on the company, which it has to settle in the future. It is therefore recorded as a liability. Equity on the other hand is contributed by shareholders. It too is money that the company has to repay, but it is not a liability in the traditional sense because it also confers rights of ownership on the shareholders. It is therefore recorded separately. Since assets are completely financed by these two sources, the value of assets must be equal to the combined value of debt and equity. The balance sheet is nothing but a detailed representation of this simple relationship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทต้องการสินทรัพย์เพื่อเรียกใช้การดำเนินงาน ซื้อ พวกเขาได้ยกเงิน นี้มาจากสองแหล่งหนี้สิน (เงินกู้ยืม) และส่วนของ ตราสารหนี้นำเกี่ยวกับภาระผูกพันบริษัท ที่ต้องชำระในอนาคต ดังนั้นจึงบันทึกเป็นหนี้สิน หุ้นคงมีส่วนผู้ถือหุ้น มันเป็นเงินที่ชำระเกินไป แต่ไม่รับผิดในความรู้สึกดั้งเดิมเนื่องจากมันยังตอบสิทธิของกรรมสิทธิ์ในหุ้น มันจึงบันทึกแยกต่างหาก เนื่องจากสินทรัพย์มีทุนทั้งหมด โดยแหล่งเหล่านี้สอง มูลค่าของสินทรัพย์ต้องเท่ากับมูลค่ารวมของหนี้สินและส่วนของ งบดุลคืออะไรแต่การแสดงรายละเอียดของความสัมพันธ์นี้อย่างง่าย ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท ต้องการสินทรัพย์ที่จะเรียกใช้การดำเนินงานของ จะซื้อพวกเขาก็มีการเพิ่มเงิน นี้มาจากหนี้สอง sources- (เงินกู้ยืม) และตราสารทุน หนี้นำเกี่ยวกับภาระหน้าที่ใน บริษัท ที่จะมีการตั้งถิ่นฐานในอนาคต มันจึงจะบันทึกเป็นหนี้สิน ส่วนผู้ถือหุ้นในมืออื่น ๆ เป็นผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น มันก็เป็นเงินที่ บริษัท ฯ ได้มีการชำระคืน แต่มันไม่ได้เป็นความรับผิดในความหมายดั้งเดิมเพราะมันยังฟาโรห์สิทธิในการเป็นเจ้าของต่อผู้ถือหุ้น ดังนั้นจึงเป็นบันทึกแยก เนื่องจากสินทรัพย์เป็นทุนอย่างสมบูรณ์โดยแหล่งที่มาของทั้งสองมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะต้องเท่ากับมูลค่ารวมของหนี้และตราสารทุน งบดุลคืออะไร แต่การแสดงรายละเอียดของความสัมพันธ์แบบนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัทต้องการทรัพย์สินดำเนินการปฏิบัติการของ ซื้อพวกเขา มันต้องเพิ่มเงิน นี้มาจากสองแหล่งที่มา - หนี้ ( ต่อ ) และหุ้น ทำให้ภาระหนี้ที่ บริษัท ซึ่งต้องจ่ายในอนาคต จึงบันทึกไว้เป็นความรับผิด หุ้นในมืออื่น ๆที่เป็นส่วนร่วม โดยผู้ถือหุ้น มันเป็นเงินที่บริษัทจะตอบแทน แต่จะไม่รับผิดชอบในความรู้สึกแบบดั้งเดิมเนื่องจากนอกจากนี้ยังพระราชทานสิทธิ์ความเป็นเจ้าของในผู้ถือหุ้น จึงบันทึกไว้แยกต่างหาก เนื่องจากสินทรัพย์สมบูรณ์กู้เงินจากสองแหล่ง มูลค่าทรัพย์สินต้องเท่ากับมูลค่ารวมของตราสารหนี้และตราสารทุน งบดุลคืออะไร แต่การแสดงรายละเอียดของความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายนี้