In just 12 years, the Facebook foun

In just 12 years, the Facebook founder built an empire of 1.71 billion followers. His next goal: to friend the rest of humanity.
Down the hall from Mark Zuckerberg’s desk sits a virtual reality studio. Foreign heads of state and other dignitaries have been known to lose themselves here in games of zero-gravity Ping-Pong and the real-seeming experience of firing virtual fireworks at each other. Such are their number, and frequency, that on an early summer morning Zuckerberg is at a loss to remember—or perhaps too diplomatic to divulge—one of their names. He does, however, recall the anecdotal nugget of the man’s visit.
“He wouldn’t leave,” says Zuckerberg, sitting in a glass-walled conference room in Facebook’s cavernous and almost factorylike headquarters in Menlo Park, California. “His aide was like, ‘Mr. Prime Minister, you have to take off…you’re two hours late for your flight.’”
That is exactly the reaction that Zuckerberg—the 32-year-old, still jeans-and-tee-clad creator and CEO of Facebook—wants to elicit from millions of people he hopes will strap on his Oculus Rift headset. But there’s way more to it than a feeling of presence with Ping-Pong opponents. Zuckerberg wants Oculus, or some future iteration of it, to replace our laptops, our smartphones, our televisions, the art on our walls, and, in some cases, seeing our friends in the flesh. So instead of owning a bunch of devices, you will swipe your emails and favorite shows into virtual view and go at it. The point isn’t living in solitary work or game mode, but rather connecting even more frequently with people through a technology that tricks your mind into thinking it’s somewhere else, without actually having to be there. Or letting you hold and flip through digital files at your desk as if they were physical, with augmented reality. Having brought together 1.71 billion people on a social-media network that began just 12 years ago in his dorm room—a network that now comprises the largest global audience in human 
history—Zuckerberg wants all of us to start connecting in his new realities.
As he sees it, in just 10 years’ time, “VR will be a mainstream-computing platform.” And just as we saw an explosion of apps for our smartphones, an entire ecosystem of activities will be built up around it.
“You can bring these objects into any space,” he says. “I’ll be able to say, ‘OK, we’re here together, let’s play chess.’ Now here’s a chessboard, and we can be in any space. We can play chess on Mars.”
Zuckerberg’s long game isn’t the chessboard, or even building out a virtual Mars—though he plans on being a part of that too. His driving vision is to connect our entire planet. For that reason, he pushed Facebook to buy Oculus for $2 billion in 2014—when everyone else thought it was just another screen for gamers—seeing it as a means to socialize in immersive technicolor from across the world. For that reason too he’s working to beam the Internet, via DIY transmitters, or drones and lasers, to the billions on the planet who do not yet have online access. And in this larger pursuit of connecting people and technologies, he has pledged nearly the entirety of his fortune (99 percent of his Facebook shares, valued at some $45 billion) to his Chan Zuckerberg Initiative, named for him and his wife, Priscilla. Its stated goals are “advancing human potential and promoting equality.” And he plans to do that, in part, by improving 
education and trying to cure the world’s most intractable diseases—by giving scientists access to engineers, whose work could include artificial intelligence.
It’s safe to say that no one is doing more, in so many fields, to bring about this singular vision of connectivity. “I certainly would not underestimate him,” says Ben Horowitz, whose venture-capital firm, Andreessen Horowitz, is a Facebook investor. “He is totally determined, willing to fail and try again, has the resources, and he’s a genius. If he can’t lead the way, then I’m not sure who can.”
That was hardly Silicon Valley wisdom two years ago when Zuckerberg urged Facebook to purchase Oculus. “Everyone really scratched their heads and said: ‘VR, is that really a thing? And, Facebook? Why is Facebook doing it?’” says Mike Schroepfer, the company’s chief technology officer, referring to the idea of Facebook getting into the hardware business. At the time, Oculus didn’t have the necessary hand- and head-positional tracking that would make it feel immersive, or real to life. “It was sort of a one-demo thing,” says Schroepfer.
In the past two years, a number of important advances have occurred: higher-quality, pixel-dense LED screens; faster processors; and improved sensors. And during that same time, others have followed Zuckerberg’s lead. Google backed Magic Leap, an augmented-reality platform that overlays objects onto the real world. (It also rolled out the $15 Google Cardboard, which offers a VR experience via your smartphone.) Microsoft unveiled its HoloLens (also AR).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเพียงแค่ 12 ปี ผู้ก่อตั้ง Facebook สร้างอาณาจักร 1.71 พันล้านผู้ติดตาม เป้าหมายต่อไปของเขา: เพื่อนของมนุษยชาติอยู่ห้องโถงจากมาร์กซักเคอร์เบิร์กโต๊ะตั้งสตูดิโอเสมือนจริง หัวต่างประเทศของรัฐและบุคคลอื่น ๆ ได้รับทราบการสูญเสียที่นี่ในเกมปิงปองศูนย์แรงโน้มถ่วงและประสบการณ์จริงด้วยการยิงพลุเสมือนที่แต่ละอื่น ๆ ดังกล่าวมีจำนวน ความถี่ ว่า ในช่วงเช้าเป็นช่วงต้นฤดูร้อน ซักเคอร์เบิร์กเป็นที่สูญเสียการจำและ — หรือบางทีเกินไปทูตแย้ม — ชื่อของพวกเขาอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เขา เรียกคืน nugget ประวัติของมนุษย์ไป"เขาจะไม่ปล่อยให้ นั่งอยู่ในห้องประชุมที่ผนังกระจกใน Facebook ของลับ และเกือบ factorylike สำนักงานใหญ่ในเมนโลพาร์ก แคลิฟอร์เนีย Zuckerberg กล่าว "เขาช่วยเป็นเหมือน, ' นายนายกรัฐมนตรี คุณต้องใช้ประโยชน์... สองชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินของคุณ ' "ที่เป็นปฏิกิริยาตรงนั้นซักเคอร์เบิร์ก — สร้าง ปี 32 ยังคงกางเกงยีนส์ และ-tee-ห่มและซีอีโอของ Facebook — อยากล้วงเอาจากคนหลายล้านคนที่เขาหวังจะสายบนหูฟัง Oculus Rift ของเขา แต่มีวิธีมากกว่าความรู้สึกของการแสดงตนกับฝ่ายตรงข้ามของปิงปอง ซักเคอร์เบิร์กต้อง Oculus หรือบางเกิดซ้ำในอนาคตของมัน การแทนที่โทรทัศน์ของเรา เราแล็ปท็อป สมาร์ทโฟนของเรา ศิลปะ บนฝาผนัง และ ในบาง กรณี เห็นเพื่อนของเราในเนื้อ ดังนั้น แทนที่จะเป็นเจ้าของอุปกรณ์ คุณจะปัดอีเมลและรายการโปรดลงในมุมมองเสมือนจริง และไปที่มัน จุดไม่ได้อาศัยอยู่ที่ทำงานโดดเดี่ยวหรือโหมดเกม แต่การ เชื่อมต่อบ่อยยิ่งกับคนผ่านเทคโนโลยีที่เทคนิคใจในการคิดมันเป็นอื่น โดยไม่ต้องมีจริง หรือให้คุณถือ และพลิกผ่านไฟล์ดิจิตอลที่โต๊ะก็กายภาพ พร้อมเติมความเป็นจริง มีนำโดด 1.71 พันล้านคนบนเครือข่ายสื่อสังคมที่เริ่มเพียง 12 ปีในห้องพักหอพักของเขา — เครือข่ายประกอบไปด้วยผู้ชมทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ — Zuckerberg ต้องทั้งหมดของเราเพื่อเริ่มต้นการเชื่อมต่อในความเป็นจริงของเขาใหม่ตามที่เขาเห็นมัน ในเวลาเพียง 10 ปี "VR จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานหลัก" และเช่นเดียวกับที่เราเห็นการระเบิดของปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟนของเรา ระบบนิเวศมีทั้งระบบกิจกรรมจะสร้างขึ้นรอบ ๆ"คุณสามารถนำวัตถุเหล่านี้ลงในช่องว่างใด ๆ เขากล่าว "ฉันจะสามารถบอกว่า, ' OK เราอยู่ที่นี่ด้วยกัน มาเล่นหมากรุก ' นี่คือกระดานหมากรุกในการ และเราสามารถเข้ากับทุกพื้นที่ เราสามารถเล่นหมากรุกบนดาวอังคาร"เกมยาวของ Zuckerberg ไม่กระดานหมากรุกใน หรือแม้กระทั่งอาคารออก Mars เป็นเสมือน — แม้ว่าเขามีแผนการเป็นส่วนหนึ่งของที่เกินไป วิสัยทัศน์การขับขี่ของเขาคือการ เชื่อมต่อโลกของเราทั้งหมด สำหรับเหตุผลที่ เขาผลัก Facebook ซื้อ Oculus สำหรับ 2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2557 — เมื่อทุกคนคิดว่า มันเป็นเพียงหนึ่งหน้าจอสำหรับการเล่นเกม — เห็นวิธีการเข้าสังคมใน technicolor ดื่มด่ำจากทั่วโลก สำหรับเหตุผลที่ เกินไปเขาทำงานเพื่อคานอินเทอร์เน็ต ผ่านเครื่องส่ง สัญญาณ DIY หรือโดรน และ เลเซอร์ พันล้านในโลกที่ยังไม่มีเข้าถึงออนไลน์ และในการแสวงหานี้มีขนาดใหญ่การเชื่อมต่อผู้คนและเทคโนโลยี เขามีประกันเกือบทั้งหมดของดวงชะตาของเขา (ร้อยละ 99 ของหุ้น Facebook ของเขา มูลค่าบาง $45 ล้าน) ให้เขาริเริ่มซักเคอร์เบิร์กจันทร์ ตั้งชื่อตามเขาและภรรยา หย่า เป้าหมายระบุจะ "ก้าวหน้ามนุษย์มีศักยภาพ และส่งเสริมความเสมอภาคกัน" และเขาวางแผนที่จะทำได้ ในส่วน โดยการปรับปรุงการศึกษา และพยายามรักษาโรคยากที่สุดในโลก — โดยให้นักวิทยาศาสตร์วิศวกร งานซึ่งอาจรวมถึงปัญญาประดิษฐ์พูดได้ว่า ไม่มีใครจะทำเพิ่มเติม ในหลายฟิลด์ นำเกี่ยวกับวิสัยทัศน์นี้เอกพจน์การเชื่อมต่อได้ "ฉันอย่างแน่นอนจะไม่ประมาทเขา เบนฮอไม่ บริษัทที่มีบริษัท Andreessen ฮอไม่ เป็นผู้ลงทุนของ Facebook กล่าว "เขาจะกำหนดทั้งหมด ยินดีที่จะล้มเหลว และลองอีกครั้ง มีทรัพยากร และเขาเป็นอัจฉริยะ ถ้าเขาไม่สามารถรอจะ แล้วไม่แน่ใจที่สามารถ"นั่นคือแทบไม่หุบเขาซิลิคอนภูมิปัญญามาเมื่อซักเคอร์เบิร์กเข้า Facebook ซื้อ Oculus "ทุกคนขูดหัวของพวกเขา และกล่าวว่า: ' VR สิ่งที่จริง ๆ และ Facebook หรือไม่ ทำไมเป็น Facebook ทำมัน?'"กล่าวว่า ไมค์ Schroepfer บริษัทหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี หมายถึงความคิดของ Facebook ที่ได้รับในธุรกิจฮาร์ดแวร์ ในเวลา Oculus ไม่มีการจำมือ - และหัวตำแหน่งติดตามซึ่งจะทำให้รู้สึกดื่มด่ำ หรือจริงชีวิต "มันเป็นจัดเรียงของสิ่งหนึ่งสาธิต Schroepfer กล่าวเกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ ของสำคัญ: คุณภาพสูง ความหนา แน่นพิกเซลหน้าจอ LED ประมวลผลเร็วขึ้น และเซนเซอร์ที่ดีขึ้น และในช่วงเวลาเดียวกัน คนอื่น ๆ ได้ปฏิบัติตามเป้าหมายของซักเคอร์เบิร์ก Google รับการสนับสนุน Magic Leap มีแพลตฟอร์มเสมือนจริงที่วัตถุซ้อนทับลงบนโลกแห่งความจริง (มันยัง รีดออก $15 กระดาษแข็ง Google ซึ่งมีประสบการณ์ VR ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ) Microsoft เปิดตัว HoloLens (AR ยัง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเวลาเพียง 12 ปีผู้ก่อตั้ง Facebook สร้างอาณาจักรของ 1710000000 ติดตาม เป้าหมายของเขาถัดไป: ไปให้เพื่อนที่เหลือของมนุษยชาติ.
ลงฮอลล์จากโต๊ะทำงานของ Mark Zuckerberg นั่งสตูดิโอเสมือนจริง หัวของรัฐต่างประเทศและอื่น ๆ ที่แขกผู้มีเกียรติได้รับการรู้จักที่จะสูญเสียตัวเองที่นี่ในเกมของศูนย์แรงโน้มถ่วงปิงปองและประสบการณ์จริงที่เห็นการยิงดอกไม้ไฟเสมือนที่แต่ละอื่น ๆ ดังกล่าวเป็นจำนวนของพวกเขาและความถี่ที่ในตอนเช้าช่วงต้นฤดูร้อน Zuckerberg เป็นที่สูญเสียที่จะจำหรือบางทีอาจจะเป็นทูตเกินไปที่จะเปิดเผย-หนึ่งในรายชื่อของพวกเขา เขาไม่ แต่จำ Nugget ประวัติของการเยี่ยมชมของชายคนนั้น.
"เขาจะไม่ปล่อยให้" กล่าวว่า Zuckerberg นั่งอยู่ในห้องประชุมที่ผนังกระจกใน Facebook ของสำนักงานใหญ่และโพรง factorylike เกือบจะอยู่ใน Menlo Park, California "ผู้ช่วยของเขาก็เหมือนนาย นายกรัฐมนตรีที่คุณต้องใช้เวลาปิด ... คุณช้าสองชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินของคุณ. ' "
นั่นคือสิ่งที่เกิดปฏิกิริยา Zuckerberg-32 ปีผู้สร้างยังคงกางเกงยีนส์และเสื้อเกราะและซีอีโอของ Facebook ให้ ต้องการที่จะล้วงเอาจากผู้คนนับล้านเขาหวังที่จะสายบนหูฟัง Oculus Rift ของเขา แต่มีวิธีที่มากไปกว่าความรู้สึกของการแสดงตนกับฝ่ายตรงข้ามปิงปอง Zuckerberg ต้องการ Oculus หรือบางย้ำอนาคตของมันจะเข้ามาแทนที่แล็ปท็อปของเรามาร์ทโฟนของเราของเราโทรทัศน์ศิลปะบนผนังของเราและในบางกรณีที่เห็นเพื่อนของเราในเนื้อ ดังนั้นแทนที่จะเป็นเจ้าของพวงของอุปกรณ์ที่คุณจะรูดอีเมลและการแสดงที่คุณชื่นชอบในมุมมองเสมือนและไปที่มัน ประเด็นไม่ได้อยู่ในการทำงานหรือเกมโหมดโดดเดี่ยว แต่การเชื่อมต่อมากยิ่งขึ้นบ่อยกับผู้คนผ่านเทคโนโลยีที่เทคนิคความคิดของคุณในความคิดมันเป็นที่อื่นไม่จริงต้องที่จะมี หรือจะปล่อยให้คุณถือและพลิกผ่านไฟล์ดิจิตอลที่โต๊ะทำงานของคุณราวกับว่าพวกเขาทางกายภาพกับความเป็นจริง Augmented ต้องนำมารวมกัน 1710000000 คนที่อยู่บนเครือข่ายสังคมสื่อที่เริ่มต้นเพียง 12 ปีที่ผ่านมาอยู่ในหอพักห้องเครือข่ายของเขาที่ตอนนี้ประกอบด้วยผู้ชมทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุดในมนุษย์ประวัติศาสตร์ Zuckerberg ต้องการทั้งหมดของเราที่จะเริ่มต้นการเชื่อมต่อในความเป็นจริงใหม่ของเขา.
ในฐานะที่เป็น ที่เขาเห็นมันในเวลาเพียง 10 ปี "VR จะเป็นแพลตฟอร์มหลักคอมพิวเตอร์." และเช่นเดียวกับที่เราเห็นการระเบิดของแอพพลิเคมาร์ทโฟนของเราเป็นระบบนิเวศทั้งหมดของกิจกรรมจะได้รับการสร้างขึ้นรอบ ๆ มัน.
"คุณสามารถ นำวัตถุเหล่านี้เข้าไปในพื้นที่ใด ๆ "เขากล่าว "ผมจะสามารถที่จะพูดว่า 'ตกลงเราอยู่ที่นี่ด้วยกันให้เล่นหมากรุก. ตอนนี้ที่นี่เป็นกระดานหมากรุกและเราสามารถที่จะอยู่ในพื้นที่ใด เราสามารถเล่นหมากรุกบนดาวอังคาร. "
เกมยาว Zuckerberg ไม่ได้เป็นกระดานหมากรุกหรือแม้กระทั่งการสร้างออกมาเป็นเสมือนดาวอังคารแม้ว่าเขาจะมีแผนในการเป็นส่วนหนึ่งของที่มากเกินไป วิสัยทัศน์ขับรถของเขาคือการเชื่อมต่อทั้งโลกของเรา สำหรับเหตุผลที่เขาผลัก Facebook เพื่อซื้อ Oculus สำหรับ $ 2 พันล้านในปี 2014 เมื่อคนอื่น ๆ คิดว่ามันเป็นเพียงแค่หน้าจอสำหรับคอเกมที่เห็นมันเป็นวิธีการเข้าสังคมใน Technicolor ดื่มด่ำจากทั่วโลกอื่น สำหรับเหตุผลที่มากเกินไปเขาทำงานเพื่อคานอินเทอร์เน็ตผ่านเครื่องส่งของ DIY หรือเจ้าหน้าที่และเลเซอร์, พันล้านบนโลกที่ยังไม่ได้มีการเข้าถึงออนไลน์ และขนาดใหญ่ในการแสวงหานี้เชื่อมต่อผู้คนและเทคโนโลยีที่เขาได้ให้คำมั่นสัญญาเกือบทั้งหมดของดวงชะตาของเขา (ร้อยละ 99 ของหุ้น Facebook ของเขามีมูลค่า 45 $ พันล้าน) เพื่อเขา Chan Zuckerberg ริเริ่มชื่อของเขาและภรรยาของเขา Priscilla เป้าหมายที่ระบุไว้เป็น "ความก้าวหน้าศักยภาพของมนุษย์และการส่งเสริมความเสมอภาค." และเขาวางแผนที่จะทำเช่นนั้นในบางส่วนโดยการปรับปรุงการศึกษาและการพยายามที่จะรักษาโลกโรคโดยว่ายากที่สุดให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าถึงวิศวกรที่มีผลงานอาจรวมถึงปัญญาประดิษฐ์
มันปลอดภัยที่จะบอกว่าไม่มีใครจะทำมากขึ้นในหลายสาขาเช่นนั้นเพื่อนำมาเกี่ยวกับวิสัยทัศน์เอกพจน์นี้ของการเชื่อมต่อ "แน่นอนฉันจะไม่ประมาทเขา" เบนฮซึ่ง บริษัท ร่วมทุนทุน Andreessen Horowitz, เป็นนักลงทุนที่ Facebook กล่าวว่า "เขามีความมุ่งมั่นทั้งหมดเต็มใจที่จะล้มเหลวและลองอีกครั้งมีทรัพยากรและเขาเป็นอัจฉริยะ ถ้าเขาไม่สามารถนำวิธีการแล้วผมไม่แน่ใจว่าคนที่สามารถ. "
นั่นคือแทบจะไม่ภูมิปัญญา Silicon Valley สองปีที่ผ่านมาเมื่อ Zuckerberg กระตุ้น Facebook เพื่อซื้อ Oculus "ทุกคนมีรอยขีดข่วนจริงๆหัวของพวกเขาและพูดว่า: 'VR คือว่าจริงๆเรื่องแบบนี้? และ Facebook? ทำไม Facebook ทำมันได้หรือไม่ "" ไมค์กล่าวว่า Schroepfer, เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ บริษัท เป็นหัวหน้าหมายถึงความคิดของ Facebook ได้รับในธุรกิจฮาร์ดแวร์ ในขณะที่ Oculus ไม่ได้มีด้วยมือที่จำเป็นและหัวตำแหน่งติดตามที่จะทำให้มันรู้สึกดื่มด่ำหรือการดำรงชีวิตจริง "มันคือการจัดเรียงของสิ่งหนึ่งสาธิต" Schroepfer กล่าว.
ในอดีตสองปีที่ผ่านมาจำนวนของความก้าวหน้าที่สำคัญได้เกิดขึ้น: มีคุณภาพสูงขึ้นพิกเซลหนาแน่นหน้าจอ LED; ประมวลผลได้เร็วขึ้น และปรับปรุงเซ็นเซอร์ และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่คนอื่น ๆ ได้ตามที่นำ Zuckerberg ของ Google ได้รับการสนับสนุนเมจิกกระโดดแพลตฟอร์มเติมความเป็นจริงที่ซ้อนทับวัตถุบนโลกแห่งความจริง (นอกจากนี้ยังรีดออก $ 15 Google กระดาษแข็งซึ่งมีประสบการณ์ VR ผ่านทางมาร์ทโฟนของคุณ.) ไมโครซอฟท์เปิดตัว HoloLens (หรือ AR)