The results are much weaker if we u

The results are much weaker if we use a measure of belief in God, rather than the
more concrete beliefs in hell, heaven, or an after-life.
In a specification comparable to those in columns 1 and 3 of Table 4, the estimated coefficients are -0.0092 (0.0030) on the monthly attendance variable and 0.0018 (0.0030) on the belief-in-God variable.
Thus, given church attendance, variations in professed belief in God have no explanatory
power for economic growth.
One possible reason is that most people in most countries reflexively answer yes to the question of whether they believe in God in some sense—the mean of the fraction of persons who expressed a belief in God in the full sample is 80%(see Table 3), much higher than the other beliefs (averages of 38% for hell, 55% for heaven, and 58% for an after-life).

Hence, the professed belief in God may signify little about the religious convictions that matter for economic performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์จะแกร่งมากถ้าเราใช้การวัดความเชื่อในพระเจ้า ดีกว่าเพิ่มเติมคอนกรีตความเชื่อในนรก สวรรค์ หรือมีชีวิตหลัง ในสเปคเปรียบเทียบได้กับในคอลัมน์ 1 และ 3 ของตาราง 4 สัมประสิทธิ์ประเมินเป็น-0.0092 (0.0030) ตัวแปรเข้าร่วมประชุมประจำเดือนและ 0.0018 (0.0030) ตัวแปรความเชื่อในพระเจ้าดังนั้น ให้เข้าโบสถ์ รูปใน professed ความเชื่อในพระเจ้าได้ไม่อธิบายพลังงานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ หนึ่งเป็นเหตุผลที่เป็นไปได้ว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศส่วนใหญ่ reflexively ตอบ"ใช่"คำถามที่ว่าพวกเขาเชื่อในพระเจ้าในบาง – ค่าเฉลี่ยของสัดส่วนของคนที่แสดงความเชื่อในพระเจ้าในตัวอย่างเต็มรูปแบบ เป็น 80% (ดูตาราง 3) , สูงกว่าที่อื่นความเชื่อ (ค่าเฉลี่ยของ 38% สำหรับนรก 55% สำหรับสวรรค์และ 58% สำหรับการมีชีวิตหลัง)ดังนั้น ความเชื่อในพระเจ้า professed อาจมีความหมายน้อยเกี่ยวกับเรียนศาสนาที่สำคัญสำหรับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลลัพธ์ที่ได้จะปรับตัวลดลงมากถ้าเราใช้ตัวชี้วัดของความเชื่อในพระเจ้ามากกว่า
ความเชื่อเป็นรูปธรรมมากขึ้นในนรกสวรรค์หรือชีวิตหลัง.
ในข้อกำหนดเปรียบได้กับผู้ที่อยู่ในคอลัมน์ 1 และ 3 ของตารางที่ 4, ค่าสัมประสิทธิ์ประมาณ จะ -0.0092 (0.0030) ในตัวแปรเข้าร่วมประชุมรายเดือนและ 0.0018 (0.0030) ในตัวแปรความเชื่อในพระเจ้า.
จึงได้รับการเข้าร่วมประชุมคริสตจักร, รูปแบบที่ยอมรับในความเชื่อในพระเจ้าไม่มีอธิบาย
อำนาจในการเติบโตทางเศรษฐกิจ.
เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือ คนส่วนใหญ่ในประเทศส่วนใหญ่ตอบกลับตอบว่าใช่กับคำถามว่าพวกเขาเชื่อในพระเจ้าในบางความรู้สึกเฉลี่ยของส่วนของผู้ที่แสดงความเชื่อในพระเจ้าในตัวอย่างเต็มรูปแบบเป็น 80% (ดูตารางที่ 3) สูงกว่า ความเชื่ออื่น ๆ (ค่าเฉลี่ย 38% สำหรับนรก 55% สำหรับสวรรค์และ 58% สำหรับชีวิตหลัง). ดังนั้นความเชื่อที่ยอมรับในพระเจ้าอาจหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาที่สำคัญสำหรับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ที่ได้จะลดลงมาก ถ้าเราใช้วัดของความเชื่อในพระเจ้า มากกว่า
คอนกรีตมากขึ้นเชื่อในนรกสวรรค์หรือชีวิตหลังความตาย .
ในสเปคใกล้เคียงกับผู้ที่อยู่ในคอลัมน์ที่ 1 และ 3 ของตารางที่ 4 , โดยประมาณ ) -0.0092 ( 0.0030 ) ในการเข้าร่วมประชุมรายเดือนและ 0.0018 ( ตัวแปร 0.0030 ) บนความเชื่อในพระเจ้าแปร .
ซึ่งได้รับการเข้าร่วมประชุมคริสตจักรการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อในพระเจ้า ไม่มีการยอมรับอำนาจการเติบโตทางเศรษฐกิจ
.
เหตุผลหนึ่งที่เป็นไปได้คือคนส่วนใหญ่ในประเทศส่วนใหญ่ reflexively ตอบ yes กับคำถามว่า พวกเขาเชื่อในพระเจ้าในความรู้สึกบางอย่างว่า สัดส่วนของผู้ที่แสดงความเชื่อในพระเจ้าในตัวอย่างเต็ม 80% ( ดู ตาราง 3 ) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของความเชื่ออื่น ๆ ( ร้อยละ 38 สำหรับนรก55 % สำหรับสวรรค์ และ 58% สำหรับชีวิตหลังความตาย )

ดังนั้น ความเชื่อในพระเจ้าอาจบ่งบอกแสดงเล็ก ๆน้อย ๆเกี่ยวกับศาสนาความเชื่อเรื่องของประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ