Although there are currently no har

Although there are currently no harmonized maximum
levels for EC, some countries have established their own
criteria (Table 3). Canada firstly introduced maximum limits
for EC in alcoholic beverages in 1985 after high levels of
EC were found in alcoholic beverages. The maximum levels
were 30 μg/L for wine and 400 μg/L for fruit brandies.
The United States has voluntary limits for domestic alcoholic
beverages. Canadian guidelines were adopted by other
countries such as Czech Republic, Brazil, France, Germany,
and Switzerland. South Korea also set the maximum
limit of 30 μg/L only for table wine. There are currently no
guidelines governing the presence of EC in fermented
foods

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้ว่าขณะนี้มีสูงสุดไม่มีปณิธานระดับสำหรับ EC บางประเทศได้สร้างตนเองเกณฑ์ (ตาราง 3) แคนาดานำขีดจำกัดสูงสุดประการแรกสำหรับ EC ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 1985 หลังจากระดับสูงEC ที่พบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับสูงสุดมี 30 ไมโครกรัม/ลิตรไวน์และ 400 ไมโครกรัม/L สำหรับสุราผลไม้สหรัฐอเมริกาได้จำกัดความสมัครใจสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในประเทศเครื่องดื่ม แนวทางที่แคนาดามา ด้วยกันประเทศ สาธารณรัฐเช็ก ประเทศบราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ยังตั้งค่าสูงสุดจำนวน 30 ไมโครกรัม/ลิตรสำหรับไวน์เท่านั้น มีอยู่ไม่แนวทางการควบคุมของ EC ในหมักอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าขณะนี้ไม่มีความกลมกลืนสูงสุด
ระดับ EC บางประเทศมีการจัดตั้งตัวเอง
เกณฑ์ (ตารางที่ 3) แคนาดาแรกแนะนำวงเงินสูงสุด
สำหรับ EC ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี 1985 หลังจากที่ระดับสูงของ
EC ถูกพบในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับสูงสุด
จำนวน 30 ไมโครกรัม / ลิตรสำหรับไวน์และ 400 ไมโครกรัม / ลิตรสำหรับบรั่นดีผลไม้.
สหรัฐอเมริกามีข้อ จำกัด สมัครใจสำหรับแอลกอฮอล์ในประเทศ
เครื่องดื่ม แนวทางแคนาดาเป็นลูกบุญธรรมอื่น ๆ
ประเทศเช่นสาธารณรัฐเช็ก, บราซิล, ฝรั่งเศส, เยอรมนี,
และวิตเซอร์แลนด์ เกาหลีใต้ยังตั้งสูงสุด
จำกัด เพียง 30 ไมโครกรัม / ลิตรเท่านั้นสำหรับไวน์ตาราง ขณะนี้ไม่มี
แนวทางการกำกับดูแลการปรากฏตัวของ EC ในการหมัก
อาหาร