ออนโทโลยีเป็นเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการอธิบายความหมายของสิ่งที่มีอยู่ การให้คำจำกัดความแก่คำ และแสดงความสัมพันธ์กับคำอื่นๆ ที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน ทำให้ระบบ คนและองค์การ สามารถสื่อสารกันได้ (Gómez-Pérez, 1999) เมื่อนำมาใช้กับเทคโนโลยีเว็บจะทำให้เว็บไซต์ในยุค Web 2.0 ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ แต่มิได้คำนึงถึงความหมายของคำ มีความสามารถมากขึ้นจากการรู้ความหมายของคำและความสัมพันธ์กับคำอื่นๆ ซึ่งเราเรียกว่าเป็นเว็บไซต์ในยุค Web 3.0 หรือ Semantic Web (Singh, 2008) ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งเสริมการจัดการความรู้ ทำให้เกิดการแบ่งปันความรู้ (knowledge sharing) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) อีกด้วย สามารถใช้ในการบูรณาการฐานข้อมูลกับฐานความรู้เพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงความหมาย อันได้แก่ โปรแกรมด้านการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management) ระบบแนะนำ (Recommendation System) โปรแกรมทางภาษาธรรมชาติ (Natural Language Generation) โปรแกรมที่เกี่ยวกับโมเดลทางธุรกิจ (Enterprise Modeling) (Gómez-Pérez, 1999) โดยที่การพัฒนาออนโทโลยีนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อน โดยเริ่มต้นด้วยการระบุความต้องการหรือปัญหาของระบบ การระบุคำจำกัดความให้กับขอบเขตงาน การระบุคำถามและสภาพแวดล้อมของงาน การระบุความละเอียดและประเภทของออนโทโลยี กำหนดแนวคิดให้กับงาน กำหนด Classes, Relations and Attributes กำหนดคำจำกัดความของ Instance และการลงมือพัฒนาออนโทโลยี (Brusa, Caliusco, & Chiotti, 2006; Rao, Reichgelt, & Osei-Bryson, 2009)