It was also presented by Leppinen (

It was also presented by Leppinen (1990) using surface analyses that dixanthogen as multilayers covered on monolayer ferric ethyl xanthate (Fe(EX)3), depending on the collector concentration. The conclusion drawn by Miller et al. (2002) and Du Plessis (2004) indicated that dixanthogen formation was found above a certain potential, while ferric xanthate species was responsible for creating the hydrophobic pyrite surface state at a low potential in the absence of oxygen. Therefore, the surface xanthate adsorption layer indicated in the present study might also be attributed to the formation of ferric xanthate compounds. The adsorption of xanthate species is in line with its high recoveries of pyrite in the flotation test work.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มันถูกยังนำเสนอ โดย Leppinen (1990) ใช้วิเคราะห์พื้นผิว dixanthogen ที่เป็น monolayer multilayers ครอบคลุมในเอทิลเฟอร์ xanthate (Fe(EX)3) ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของตัวเก็บรวบรวม บทสรุปที่วาด โดยมิลเลอร์ et al. (2002) และ Du Plessis (2004) ระบุว่า ผู้แต่ง dixanthogen พบข้างต้นเป็นไปบาง ในขณะที่พันธุ์ xanthate เฟอร์รับผิดชอบสำหรับการสร้างรัฐผิว hydrophobic pyrite ที่ศักยภาพต่ำของออกซิเจน ดังนั้น ชั้นดูดซับผิว xanthate ที่ระบุไว้ในการศึกษาปัจจุบันอาจยังเกิดจากการก่อตัวของสารประกอบ xanthate เฟอร์ ของสายพันธุ์ xanthate กับ recoveries ความสูงของ pyrite flotation ทดสอบงานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้ยังได้นำเสนอโดย Leppinen (1990) โดยใช้การวิเคราะห์พื้นผิว dixanthogen ที่เป็นไปได้ทางปกคลุมบน xanthate เอทิล ferric monolayer (Fe (EX) 3) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสะสม ข้อสรุปที่วาดโดยมิลเลอร์และคณะ (2002) และ Du Plessis (2004) ชี้ให้เห็นว่าการก่อ dixanthogen ถูกพบข้างต้นที่มีศักยภาพบางอย่างในขณะที่สายพันธุ์ xanthate ferric เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการสร้างรัฐพื้นผิวหนาแน่นไม่ชอบน้ำที่มีศักยภาพต่ำในกรณีที่ไม่มีออกซิเจน ดังนั้นชั้นดูดซับผิว xanthate ที่ระบุไว้ในการศึกษาครั้งนี้ยังอาจจะนำมาประกอบกับการก่อตัวของสาร xanthate ferric การดูดซับของสายพันธุ์ xanthate สอดคล้องกับการฟื้นตัวสูงของหนาแน่นในการทำงานการทดสอบลอย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากนี้ยังนำเสนอโดย leppinen ( 2533 ) โดยใช้การวิเคราะห์พื้นผิวที่ปกคลุม dixanthogen เป็น multilayers อย่างเฟอร์ - ภูเก็ต ( Fe ( อดีต ) 3 ) ขึ้นอยู่กับการสะสมความเข้มข้น รุปที่วาดโดยมิลเลอร์ et al . ( 2002 ) และดูเพล ิส ( 2004 ) พบว่า dixanthogen ก่อตัวพบข้างต้นที่มีศักยภาพบางอย่างในขณะที่ภูเก็ตชนิดเฟอร์ริกเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการสร้างพื้นผิวที่อาจเกิดขึ้น ) ค่าสถานะต่ำในการขาดออกซิเจน ดังนั้น การดูดซับพื้นผิวภูเก็ตชั้น พบในการศึกษาครั้งนี้อาจจะเกิดจากการก่อตัวของเฟอริคแซนสารประกอบการดูดซับของแซนชนิดสอดคล้องกับสูงต่ำสุดของไพไรต์ในการลอยตัว ทดสอบการทำงาน