gave this example:‘‘when determinin

gave this example:
‘‘when determining how confident you are at
correctly recalling the items at the grocery store,
you may decide that you are 40% confident you
will recall ketchup, eggs, and milk; but 80%
confident you will recall bananas and bread.
Averaged across items, you are 56% confident
you will recall these; however at the grocery
store, you recall only 40% of the items. Thus,
you were over-confident by 16%’’ (p. 143).
These two outcome measures vary independently;
that is, individuals can be accurate at
monitoring their recall but over-confident.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ให้ตัวอย่างนี้:'' เมื่อกำหนดมั่นใจได้ว่าคุณอยู่ที่ถูกเรียกคืนสินค้าที่ร้านค้าร้านขายของชำคุณอาจตัดสินใจว่า คุณมี 40% มั่นใจคุณจะเรียกคืนซอสมะเขือเทศ ไข่ และ นม แต่ 80%มั่นคุณจะเรียกคืนกล้วยและขนมปังเฉลี่ยระหว่างรายการ คุณมี 56% มั่นใจคุณจะเรียกคืนนี้ อย่างไรก็ตามที่ร้านขายของชำที่ร้านค้า คุณจำเพียง 40% ของสินค้า ดังนั้นคุณมีความเกิน 16% '' (p. 143)มาตรการเหล่านี้สองผลแตกต่างกันไปอิสระนั่นคือ บุคคลได้อย่างถูกต้องที่ตรวจสอบการเรียกคืนแต่เกินความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ให้ตัวอย่างนี้
''
เมื่อพิจารณาวิธีการที่คุณจะมีความมั่นใจที่ถูกต้องนึกถึงรายการที่ร้านขายของชำ,
คุณอาจตัดสินใจว่าคุณเป็น 40%
มั่นใจว่าคุณจะเรียกซอสมะเขือเทศไข่และนม แต่ 80%
มั่นใจคุณจะจำและขนมปังกล้วย.
เฉลี่ยทั่วรายการที่คุณมีความมั่นใจ 56%
คุณจะจำเหล่านี้ แต่ที่ร้านขายของชำร้านคุณจำได้เพียง 40% ของรายการ
ดังนั้น. คุณมากกว่าความมั่นใจ 16% '' (p. 143) ทั้งสองวัดที่แตกต่างกันอย่างอิสระ; ที่เป็นบุคคลที่สามารถจะมีความแม่นยำในการตรวจสอบการเรียกคืนของพวกเขา แต่ในช่วงมั่นใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้ตัวอย่างนี้ :
''when กำหนดวิธีการที่คุณเชื่อมั่นใน
ถูกต้องเรียกคืนรายการที่ร้านขายของชำ
คุณอาจตัดสินใจว่าคุณเป็น 40% มั่นใจคุณ
จะเรียกซอสมะเขือเทศ ไข่ และนม แต่ 80 %
มั่นใจคุณจะนึกถึงกล้วยและขนมปัง .
เฉลี่ยในรายการคุณ 56 คุณจะเรียกคืนเหล่านี้มั่นใจ

; แต่ที่ร้านขายของชำร้าน คุณจำได้เพียง 40% ของรายการ ดังนั้น
คุณมั่นใจกว่า 16% ' ' ( หน้า 143 )
2 ผลมาตรการที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระ ;
นั่นคือ บุคคลจะถูกต้องในการเรียกคืนของพวกเขา แต่มั่นใจกว่า
.