Apart from these static and dynamic

Apart from these static and dynamic general theories, there exists a
considerable number of case studies which apply public choice analysis to
specific policy areas and key events of European integration. Most of them
concern the common agricultural policy, external trade protection, the
Internal Market Programme, monetary cooperation, fiscal policy, taxation
and transfers. Owing to shortage of space, no more than a brief overview can
be provided.
The public choice aspects of the common agricultural policy have recently
been surveyed by Josling and Moyer (1991). Koester (1978) and Schmitt
(1984) emphasized the fact that the Council of Ministers of Agriculture is not
financially accountable. Moreover, the Council of Ministers is more accessible
for the agricultural lobby than a (large) parliament (Schmitt, 1984;
Senior Nello, 1984). Haase (1983), Beusmann and Hagedorn (1984) and
Senior Nello (1984) applied Olson’s (1965) theory of interest groups to
explain why the farm lobby is well organized, why it is dominated by large
farmers and why it dominates over consumer and taxpayer interests.
Hirschman (1981b, p. 272) suggested that the trade-diverting characteristics
of the common agricultural policy played a crucial role in gaining support
for it in some member countries. Von Witzke (1986) showed that the level of
EC agricultural price support depends on agricultural income and budgetary
expenditures.
In the literature on the political economy of protection, there are numerous
references to the common commercial policy of the EC. Weiss (1987) tests
the hypothesis that the change of an industry’s effective protection depends
on its factor intensities, its regional and firm concentration and its initial
level of protection. The most important public choice study of EC commercial
policy (‘anti-dumping’, ‘voluntary export restraints’ and the authorization
of national protection) is provided by Schuknecht (1992a); see also
Schuknecht (1991). He compares the various instruments with respect to the
degree of political discretion, transparency, precision and the required degree

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากสิ่งเหล่านี้สถิตและพลวัตทฤษฎีทั่วไปมีอยู่
จำนวนมากของกรณีศึกษาที่ใช้วิเคราะห์ทางเลือกสาธารณะ
พื้นที่นโยบายที่เฉพาะเจาะจงและเหตุการณ์สำคัญของการบูรณาการยุโรป ส่วนใหญ่ของพวกเขา
เกี่ยวกับนโยบายเกษตรร่วม ป้องกันการค้าภายนอก
ภายในตลาดโครงการ ความร่วมมือ การเงินการคลัง และภาษีอากร
ส่งเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนพื้นที่ไม่เกินอธิบายภาพรวมสามารถ

มีให้ ทางเลือกสาธารณะด้านของนโยบายเกษตรร่วมเพิ่ง
ถูกสํารวจโดย josling และมอยเออร์ ( 1991 ) โคสเตอร์ ( 1978 ) และ ชมิตต์
( 1984 ) เน้นความจริงที่ว่าสภารัฐมนตรีเกษตรไม่ได้
ทางการเงินที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีจะสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
สำหรับล็อบบี้การเกษตรกว่า ( ขนาดใหญ่ ) รัฐสภา ( Schmitt , 1984 ;
รุ่นพี่เนลโล , 1984 ) ฮาส ( 1983 ) และ beusmann ฮาเกดอร์ ( 1984 ) และ
เนลโลอาวุโส ( 1984 ) ใช้ของโอลเซ่น ( 1965 ) ทฤษฎีกลุ่มผลประโยชน์

อธิบายทำไมล็อบบี้ฟาร์มเป็นอย่างดี ทำไมมันถูกครอบงำโดยเกษตรกรขนาดใหญ่
ทำไมมันครอบงำเหนือผู้บริโภคและผู้เสียภาษีหัก .
( 1981b พีเฮชเมิ่น272 ) ชี้ให้เห็นว่า การค้า การโยกย้ายลักษณะ
ของนโยบายเกษตรร่วมมีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการสนับสนุน
สำหรับในบางประเทศ สมาชิก ฟอน Witzke ( 1986 ) พบว่าระดับของ
สนับสนุนราคาสินค้าเกษตร EC ขึ้นอยู่กับรายได้และการใช้จ่ายงบประมาณ

ในการเกษตร วรรณกรรมการเมืองเศรษฐกิจของการป้องกัน มีมากมาย
อ้างอิงจากนโยบายการค้าร่วมกันของประชาคมยุโรป ไวส์ ( 1987 ) การทดสอบสมมติฐาน
ว่าการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการป้องกันที่มีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับ
ของปัจจัยความเข้มข้นของภูมิภาค และของ บริษัท และระดับเริ่มต้น
ของการป้องกัน ที่สำคัญที่สุดทางเลือกสาธารณะการศึกษานโยบายการค้า
EC ( 'anti-dumping ' , ' สมัครใจ ' และการอนุญาตส่งออก ทุกข์ใจ
การป้องกันแห่งชาติ ) โดย schuknecht ( 1992a ) ; ดูยัง
schuknecht ( 1991 ) เขาเปรียบเทียบเครื่องมือต่าง ๆด้วยความเคารพ
ระดับการเมือง ดุลพินิจ ความโปร่งใส ความแม่นยํา และต้องขึ้นไป