Carbon is the real co-benefitDespit

Carbon is the real co-benefit
Despite differing in region, payment scheme and contract
timeline, several project experiences to date share a
striking theme: carbon payments appear to be insignificant
to farmers compared with the non-carbon benefits
derived from participation. Model simulations of carbon
projects in the Sahel show that farmer Net Present Value
(NPV), or the perceived sum of revenue over 25 years,
would be between US$36 and US$71 for smallholder
farmers at a carbon price of US$20 per tonne (t) CO2e,
assuming a discount rate of 12% [19], which is hardly an
incentive. Similarly, Foster et al. [16] show farmers’
expected carbon revenue to be only US$77 over 25 years
in western Kenya, based on a carbon price of $8/tCO2e.
Even under the most liberal contract conditions, in which
carbon revenue is paid in the first seven years assuming aproject lifespan of 100 years, carbon has only a minor
impact on cash incomes [11,15
].
On their own, carbon
payments are often far below farmers’ opportunity costs
[10] and are unlikely to motivate farmers to engage in
projects [19].
Meanwhile, agroforestry can offer a suite of non-carbon
benefits to farmers, including increased agricultural productivity
per unit land; income diversification from marketable
tree products; improved family health and
nutrition from medicinal tree products and essential
vitamins in fruits; availability of fuel, firewood and building
materials; reduced women’s labour in collecting firewood;
and erosion control, soil fertility, and increased
water and nutrient availability. Many of these non-carbon
benefits can reduce farmers’ food insecurity and therefore
their vulnerability to climate variability, change and
shocks [20

The income-generating potential that non-carbon
benefits offer in many cases greatly exceeds that from
carbon revenue. The total carbon payments over 100
years for the N’hambita Community Carbon Project
range from US$209 to US$1,047 per hectare at
US$6.72/tCO2, while total revenues from the sale of tree
cash crops over the same period are estimated to bebetween US$31,728 and US$97,125 per hectare [11].
Moreover, cash crop systems can continue to provide
significant income benefits to farmers after carbon payments
cease (Figure 1) [11]. Within the Sustainable
Agriculture in a Changing Climate (SACC) project, farmers’
income from fuel wood, poles and timber is estimated
to reach US$3,850 over the project’s 25 year lifespan,
compared to an estimated US$77 in carbon revenue over
the same period [16]. In the highlands of Ethiopia,
Duguma [14] estimated that households could obtain
net discounted revenues between US$532 and $2,342
in 15 years from agroforestry practices using minimal land
and without any carbon payment. In the Maradi and
Zinder Regions of Niger, non-carbon benefits are motivating
the large-scale establishment of parklands [21],
agroforestry systems in which crops are planted among
scattered trees, boosting gross annual income by approximately
18–24%[22].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยชน์ร่วมจริงคือคาร์บอนแม้จะแตกต่างกันในภูมิภาค แผนการชำระเงิน และสัญญาไทม์ไลน์ หลายโครงการเพื่อแบ่งปันวันรูปแบบที่โดดเด่น: คาร์บอนเงินปรากฏว่า ไม่มีนัยสำคัญกับเกษตรกรเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ไม่ใช่คาร์บอนได้มาจากการเข้าร่วม แบบจำลองของคาร์บอนโครงการยึดถือแสดงว่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิของเกษตรกร(NPV), หรือผลรวมการรับรู้รายได้กว่า 25 ปีจะเป็นระหว่าง 36 US$ สหรัฐอเมริกา $71 สำหรับรายย่อยเกษตรกรที่ราคา US$ 20 ต่อตัน (t) CO2e คาร์บอนสมมติว่าอัตราส่วนลด 12% [19], ซึ่งแทบไม่มีแรงจูงใจ ในทำนองเดียวกัน ฟอสเตอร์ et al. [16] แสดงเกษตรกรคาร์บอนที่คาดว่ารายได้จะ เพียง 77 US$ 25 ปีในเคนยาตะวันตก อิงคาร์บอนราคา $8/tCO2eแม้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาเสรีนิยมมากที่สุด ในที่จ่ายรายได้คาร์บอนในเจ็ดปีแรกสมมติว่า aproject อายุ 100 ปี คาร์บอนได้เฉพาะผู้เยาว์ส่งผลกระทบต่อเงินสดรายได้ [11,15]. ในตนเอง คาร์บอนการชำระเงินมักอยู่ล่างต้นทุนโอกาสเกษตรกร[10] และไม่น่าจะกระตุ้นให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในโครงการ [19]ในขณะเดียวกัน ทำวนเกษตรสามารถนำเสนอชุดไม่ใช่คาร์บอนประโยชน์กับเกษตรกร รวมทั้งเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรต่อหน่วยที่ดิน กระจายรายได้จากองการของตลาดต้นไม้ผลิตภัณฑ์ สุขภาพที่ดีขึ้น และโภชนาการจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้นไม้และจำเป็นวิตามินในผลไม้ น้ำมันเชื้อเพลิง ฟืน และอาคารวัสดุ แรงงานสตรีลดรวบรวมฟืนและควบคุมการพังทลาย ความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มขึ้นน้ำและสารอาหารความพร้อม ของเหล่านี้ไม่ใช่คาร์บอนประโยชน์สามารถลดความไม่มั่นคงอาหารของเกษตรกรและช่องโหว่ของพวกเขาเพื่อความแปรปรวนสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลง และแรงกระแทก [20โอกาสเกิดรายได้ที่ไม่ใช่คาร์บอนมีประโยชน์ในหลายกรณีมากเกินที่มาจากรายรับของคาร์บอน การชำระเงินคาร์บอนรวมกว่า 100ปีสำหรับโครงการคาร์บอนชุมชน N'hambitaช่วงจากสหรัฐอเมริกา $209 ไปสหรัฐฯ $1,047 ต่อตารางเมตรที่สหรัฐอเมริกา $6.72/tCO2 ในขณะที่รายได้จากการขายต้นไม้พืชเงินสดมากกว่าเป็นระยะเวลาเดียวกันที่ประมาณ$ bebetween สหรัฐอเมริกา 31,728 และสหรัฐอเมริกา $97,125 ต่อตารางเมตร [11]นอกจากนี้ ระบบพืชสามารถต่อไปผลประโยชน์รายได้สำคัญแก่เกษตรกรหลังจากชำระเงินคาร์บอนหยุด (รูปที่ 1) [11] ภายในที่ยั่งยืนเกษตรในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SACC) โครงการ เกษตรกร'ประมาณการรายได้จากไม้เชื้อเพลิง เสา และไม้สหรัฐอเมริกา $3,850 กระโจมอายุของโครงการ 25 ปีเมื่อเทียบกับการประมาณ 77 US$ ในรายได้คาร์บอนมากกว่าช่วงเดียวกัน [16] ของเอธิโอเปียDuguma [14] ประมาณว่า ครัวเรือนสามารถรับรายได้สุทธิคิดลดระหว่างสหรัฐอเมริกา $532 และ $2,342ใน 15 ปีจากปฏิบัติการทำวนเกษตรใช้ที่ดินน้อยที่สุดและไม่ ต้องชำระเงินใด ๆ คาร์บอน ในการ Maradi และZinder ภูมิภาคไนเจอร์ ประโยชน์ปลอดคาร์บอนจะสร้างแรงจูงใจสถานประกอบการขนาดใหญ่ของพาร์คแลนด์ [21],ระบบทำวนเกษตรพืชที่ปลูกในหมู่ต้นไม้กระจาย การส่งเสริมรายได้รวมประจำปีโดยประมาณ18 – 24% [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คาร์บอนเป็นจริงร่วมผลประโยชน์
แม้จะมีความแตกต่างกันในภูมิภาครูปแบบการจ่ายและการทำสัญญา
ระยะเวลาประสบการณ์หลายโครงการที่จะแบ่งปันวันที่
ธีมที่โดดเด่น: การชำระเงินคาร์บอนดูเหมือนจะไม่มีนัยสำคัญ
ให้กับเกษตรกรเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ไม่ใช่คาร์บอน
ที่ได้มาจากการมีส่วนร่วม รุ่นจำลองของคาร์บอน
โครงการในยึดถือแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรมูลค่าปัจจุบันสุทธิ
(NPV) หรือผลรวมการรับรู้รายได้ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
จะอยู่ระหว่าง US $ 36 US $ 71 รายย่อย
เกษตรกรในราคาคาร์บอน $ 20 ต่อตันของสหรัฐ (T ) CO2e,
สมมติอัตราคิดลดที่ 12% [19] ซึ่งแทบจะไม่
แรงจูงใจ ในทำนองเดียวกันฟอสเตอร์, et al [16] การแสดงของเกษตรกร
รายได้คาร์บอนคาดว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาเท่านั้น $ 77 กว่า 25 ปี
ในภาคตะวันตกของเคนยาขึ้นอยู่กับราคาของคาร์บอนราคา $ 8 / tCO2e.
แม้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาเสรีนิยมมากที่สุดซึ่งใน
รายได้คาร์บอนเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเจ็ดปีแรก สมมติว่าอายุการใช้งาน 100 ปี aproject คาร์บอนมีเพียงเล็กน้อย
ส่งผลกระทบต่อรายได้เงินสด [11,15
].
ของตัวเองคาร์บอน
ชำระเงินมักจะต่ำกว่าเกษตรกรต้นทุนค่าเสียโอกาส
[10] และไม่น่าจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรที่จะมีส่วนร่วมใน
โครงการ [ . 19]
ในขณะเดียวกันระบบวนเกษตรที่สามารถนำเสนอชุดของที่ไม่ใช่คาร์บอน
ผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรรวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น
ต่อหน่วยที่ดิน รายได้กระจายความเสี่ยงจากความต้องการของตลาด
ผลิตภัณฑ์ต้นไม้; สุขภาพของครอบครัวที่ดีขึ้นและ
โภชนาการจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรต้นไม้และที่สำคัญ
วิตามินในผลไม้; ความพร้อมใช้งานของน้ำมันเชื้อเพลิงฟืนและอาคาร
วัสดุ แรงงานที่ลดลงของผู้หญิงในการเรียกเก็บฟืน;
และการควบคุมการพังทลายของดินและเพิ่ม
น้ำและสารอาหาร หลายเหล่านี้ไม่ใช่คาร์บอน
ประโยชน์สามารถลดความไม่มั่นคงด้านอาหารของเกษตรกรและดังนั้นจึง
ช่องโหว่ของพวกเขาเพื่อความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและ
แรงกระแทก [20

รายได้สร้างศักยภาพที่ไม่ใช่คาร์บอน
ให้ประโยชน์ในหลายกรณีมากเกินกว่าที่มาจาก
รายได้จากคาร์บอน การชำระเงินคาร์บอนรวมกว่า 100
ปีสำหรับ N'hambita ชุมชนโครงการคาร์บอน
ช่วงเริ่มต้นที่ US $ 209 US $ 1,047 ต่อเฮกตาร์ที่
สหรัฐอเมริกา $ 6.72 / tCO2 ในขณะที่รายได้รวมจากการขายของต้นไม้
พืชเศรษฐกิจในช่วงเวลาเดียวกันคาดว่าจะ bebetween สหรัฐ $ 31,728 และสหรัฐอเมริกา $ 97,125 ต่อเฮกตาร์ [11].
นอกจากนี้ยังมีระบบการปลูกพืชเงินสดยังคงสามารถที่จะให้
ผลประโยชน์รายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการชำระเงินคาร์บอน
หยุด (รูปที่ 1) [11] ภายในยั่งยืน
เกษตรในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SACC) โครงการเกษตรกร
มีรายได้จากไม้เชื้อเพลิง, เสาไม้และเป็นที่คาดกัน
ในการเข้าถึงสหรัฐ $ 3,850 โครงการของอายุการใช้งาน 25 ปี
เมื่อเทียบกับประมาณ US $ 77 รายได้คาร์บอนมากกว่า
ช่วงเวลาเดียวกัน [ 16] ในที่ราบสูงของเอธิโอเปีย
Duguma [14] ที่คาดว่าผู้ประกอบการจะได้รับ
สุทธิลดรายได้ระหว่างสหรัฐอเมริกา $ 532 และ $ 2,342
ในรอบ 15 ปีจากการปฏิบัติวนเกษตรโดยใช้ที่ดินน้อยที่สุด
และโดยไม่ต้องชำระคาร์บอนใด ๆ ในฐีและ
Zinder ภูมิภาคของประเทศไนเจอร์ประโยชน์ไม่ใช่คาร์บอนสร้างแรงจูงใจให้
สถานประกอบการขนาดใหญ่ของสวนสาธารณะ [21],
ระบบวนเกษตรที่มีการปลูกพืชในหมู่
ต้นไม้กระจัดกระจาย, การส่งเสริมรายได้ต่อปีขั้นต้นประมาณ
18-24% [22] .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คาร์บอนเป็นประโยชน์ร่วมจริงแม้จะแตกต่างกันในภูมิภาค , โครงการชำระเงินและสัญญาระยะเวลาหลายโครงการประสบการณ์เดทแบ่งปันหัวข้อ : เงินที่โดดเด่นปรากฏเป็นขาคาร์บอนเกษตรกรเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ไม่ใช่คาร์บอนที่ได้มาจากการมีส่วนร่วม โมเดลจำลองของคาร์บอนโครงการในซาเฮล พบว่ากลุ่มเกษตรกรมูลค่าปัจจุบันสุทธิมูลค่าปัจจุบันสุทธิ ( NPV ) หรือการรับรู้ของผลรวมของรายได้มากกว่า 25 ปีจะอยู่ระหว่าง US $ 36 US $ 71 สำหรับโครงสร้างเกษตรกรที่เป็นคาร์บอน ราคา US $ 20 ต่อตัน co2e ( T ) ,สมมติว่า อัตราคิดลดร้อยละ 12 [ 19 ] ซึ่งแทบจะเป็นแรงจูงใจ ในทำนองเดียวกัน ฟอสเตอร์ et al . [ 16 ] แสดงของเกษตรกรคาดว่าบริษัทจะมีคาร์บอนเฉพาะสหรัฐ $ 77 กว่า 25 ปีในเคนยา โดยอาศัยคาร์บอนราคา $ 8 / tco2e .แม้ภายใต้เงื่อนไขสัญญาที่เสรีนิยมมากที่สุด ซึ่งคาร์บอน รายได้จะจ่ายให้ในโครงการแรกเจ็ดปีสมมติว่าอายุ 100 ปี คาร์บอนมีเพียงเล็กน้อยผลกระทบต่อเงินรายได้ [ 11,15]ด้วยตนเอง , คาร์บอนเงินมักต่ำกว่าต้นทุนโอกาสของเกษตรกร[ 10 ] และไม่น่าจะกระตุ้นเกษตรกรให้มีส่วนร่วมในโครงการ [ 19 ]ขณะเดียวกัน เกษตรกรสามารถเสนอชุดปลอดคาร์บอนประโยชน์ให้กับเกษตรกร รวมทั้งการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรต่อหน่วยที่ดิน รายได้กระจายความเสี่ยงจากตลาดผลิตภัณฑ์ต้นไม้ ปรับปรุงสุขภาพ ครอบครัว และผลิตภัณฑ์โภชนาการจากต้นไม้และสมุนไพรที่จำเป็นวิตามินในผลไม้ ปริมาณของเชื้อเพลิง , ฟืน และอาคารวัสดุ ลดแรงงานหญิงในการเก็บรวบรวมฟืน ;และการควบคุม , ความอุดมสมบูรณ์ของการพังทลายของดิน และเพิ่มน้ำมีสารอาหาร หลายเหล่านี้ไม่ใช่คาร์บอนประโยชน์ของเกษตรกร สามารถลดอาหารความไม่มั่นคง และดังนั้นจึงความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงคลื่นกระแทก [ 20รายได้สร้างศักยภาพที่ปลอดคาร์บอนประโยชน์ข้อเสนอในหลายกรณีมากเกินจากคาร์บอน รายได้ รวมเงิน 100 กว่าคาร์บอนปีสำหรับ n"hambita โครงการชุมชนคาร์บอนช่วงจาก $ 209 ถึง US $ 823 ต่อเฮกตาร์ที่6.72/tco2 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่รายได้รวมจากการขายต้นไม้พืชเศรษฐกิจในช่วงเวลาเดียวกัน ประมาณ bebetween US $ 31728 และ US $ 97125 ต่อเฮกตาร์ [ 11 ]นอกจากนี้ ระบบยังคงสามารถให้พืชเศรษฐกิจที่สำคัญรายได้ผลประโยชน์เกษตรกรหลังจากชําระเงิน คาร์บอนหยุด ( รูปที่ 1 ) [ 11 ] ภายในที่ยั่งยืนการเกษตรในภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ( sacc ) โครงการของเกษตรกรรายได้จากไม้เชื้อเพลิง , เสาและไม้จำกัดถึง US $ 3451 ผ่านโครงการ 25 ปีอายุการใช้งาน ,เมื่อเทียบกับประมาณ US $ 77 ล้านกว่าคาร์บอนระยะเวลาเดียวกัน [ 16 ] ในที่ราบสูงของเอธิโอเปียduguma [ 14 ] ประมาณว่า ครัวเรือนสามารถขอรับสุทธิลดรายได้ระหว่าง $ และ $ )ใน 15 ปีจากวนเกษตรการปฏิบัติการใช้ที่ดินน้อยและปราศจากคาร์บอนเงิน ใน Maradi และzinder ภูมิภาคของประเทศไนเจอร์ , องค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์มีการสร้างแรงจูงใจ คาร์บอนสถานประกอบการขนาดใหญ่ของแทสเมเนีย [ 21 ]ระบบวนเกษตรที่มีการปลูกพืชในที่ระหว่างกระจัดกระจายต้นไม้ , การส่งเสริมรายได้รวมประมาณ18 – 24 % [ 22 ]