The review describes the science es

The review describes the science establishing that marijuana can be addictive and that this risk for addiction increases for daily or young users. It also offers insights into research on the gateway theory indicating that marijuana use, similar to nicotine and alcohol use, may be associated with an increased vulnerability to other drugs.
The authors review literature showing that marijuana impairs driving, increasing the risk of being involved in a car accident and that these risks are further enhanced when combining marijuana with alcohol. The authors also discuss the implications of rising marijuana potencies and note that, because older studies are based on the effects of marijuana containing lower THC -- the main psychoactive chemical found in marijuana -- stronger adverse health effects may occur with today's more potent marijuana.
The reviewers consider areas in which little research has been conducted. This includes possible health consequences of secondhand marijuana smoke; the long-term impact of prenatal marijuana exposure; the therapeutic potential of the individual chemicals found in the marijuana plant; and effects of marijuana legalization policies on public health.
The scientists focus on marijuana's harmful effects on teens, an age group in which the brain rapidly develops, which is one factor that could help explain increased risks from marijuana use in this population. Research suggests that marijuana impairs critical thinking and memory functions during use and that these deficits persist for days after using. In addition, a long-term study showed that regular marijuana use in the early teen years lowers IQ into adulthood, even if users stopped smoking marijuana as adults.
The NIDA-supported 2013 Monitoring the Future Survey says that 6.5 percent of 12th graders report daily or near-daily marijuana use, with 60 percent not perceiving that regular marijuana use can be harmful. "It is important to alert the public that using marijuana in the teen years brings health, social, and academic risk," said lead author and NIDA Director Dr. Nora D. Volkow. "Physicians in particular can play a role in conveying to families that early marijuana use can interfere with crucial social and developmental milestones and can impair cognitive development."
This review emphasizes that marijuana use is likely to increase as state and local policies move toward legalizing marijuana for medical or recreational purposes. As use increases, so might the number of people likely to suffer negative health consequences, the review says

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตรวจทานอธิบายวิทยาศาสตร์กำหนดว่า กัญชาสามารถเสพติด และที่นี้เสี่ยงติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้บริการ หรือหนุ่ม มันยังมีลึกวิจัยทฤษฎีเกตเวย์แสดงกัญชาที่ ใช้ เหมือนกับใช้นิโคตินและแอลกอฮอล์ อาจเกี่ยวข้องกับช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นกับยาอื่น ๆผู้เขียนทบทวนวรรณกรรมแสดงว่า กัญชาแตกขับรถ การเพิ่มความเสี่ยงของการมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุรถยนต์ และว่า ความเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มเติมขั้นสูงเมื่อรวมกัญชากับแอลกอฮอล์ ผู้เขียนยังอภิปรายผลกระทบของ potencies กัญชาเพิ่มขึ้น และหมายเหตุว่า เนื่องจากศึกษาเก่าขึ้นอยู่กับผลของกัญชาที่ประกอบด้วย THC ต่ำ - เคมีออกหลักพบในกัญชา - ผลร้ายสุขภาพแข็งแรงอาจเกิดขึ้นกับกัญชามีศักยภาพมากขึ้นในปัจจุบันทานพิจารณาพื้นที่ที่มีการดำเนินการวิจัยน้อย รวมถึงสุขภาพที่ได้ผลของกัญชา ควันมือสอง ผลกระทบระยะยาวของกัญชาก่อนคลอดแสง รักษาศักยภาพของสารเคมีแต่ละตัวที่พบในพืชกัญชา และผลของกัญชาดำเนินนโยบายสาธารณสุขนักวิทยาศาสตร์ที่เน้นผลอันตรายของกัญชาวัยรุ่น เป็นวัยที่สมองอย่างรวดเร็วพัฒนา ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยอธิบายความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการใช้กัญชาในประชากรนี้ งานวิจัยแนะนำว่า กัญชาแตกฟังก์ชันคิดและหน่วยความจำที่สำคัญในระหว่างการใช้งาน และที่ ขาดดุลการคลังเหล่านี้คงอยู่วันหลังการใช้ นอกจากนี้ การศึกษาระยะยาวพบว่า กัญชาที่ปกติใช้ในวัยรุ่นช่วงปีแรก ๆ ออก IQ เป็นวุฒิ แม้ว่าผู้หยุดสูบบุหรี่กัญชาเป็นผู้ใหญ่การสนับสนุนนิ 2013 ตรวจสอบสำรวจในอนาคตกล่าวว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนชั้นที่ 12 รายงานที่ใช้ทุกวัน หรือทุก วันใกล้กัญชา กับร้อยละ 60 ไม่ perceiving ที่ใช้กัญชาเป็นประจำอาจเป็นอันตรายต่อ "จำเป็นต้องแจ้งเตือนประชาชนว่า การใช้กัญชาในปีวัยรุ่นนำสุขภาพ สังคม และศึกษาความเสี่ยง กล่าวนำผู้เขียนและดร.กรรมการนิโนราห์ D. Volkow "แพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถเล่นบทบาทในการส่งครอบครัวต้นกัญชาใช้อาจรบกวนเหตุการณ์สำคัญทางสังคม และการพัฒนาที่สำคัญ และสามารถทำการพัฒนารับรู้"บทความนี้เน้นให้ ใช้กัญชามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นรัฐ และนโยบายท้องถิ่นย้ายไป legalizing กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือพักผ่อน ใช้เพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจจำนวนคนน่าจะประสบผลกระทบสุขภาพลบ ตรวจทานว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทบทวนอธิบายวิทยาศาสตร์สร้างกัญชาที่สามารถเสพติดและความเสี่ยงในการติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นนี้สำหรับทุกวันหรือผู้ใช้เด็ก นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเชิงลึกในการวิจัยเกี่ยวกับทฤษฎีประตูแสดงให้เห็นว่าการใช้กัญชาคล้ายกับการใช้สารนิโคตินและแอลกอฮอล์อาจจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นถึงยาเสพติดอื่น ๆ .
ทบทวนวรรณกรรมผู้เขียนแสดงกัญชาที่บั่นทอนการขับรถเพิ่มความเสี่ยงของการมีส่วนร่วมใน อุบัติเหตุทางรถยนต์และว่ามีความเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มอีกเมื่อรวมกัญชากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้เขียนยังหารือเกี่ยวกับผลกระทบของการเพิ่มขึ้น potencies กัญชาและทราบว่าเพราะการศึกษาที่มีอายุมากกว่าจะขึ้นอยู่กับผลกระทบของการมีกัญชา THC ต่ำ - สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหลักที่พบในกัญชา - ผลกระทบต่อสุขภาพแข็งแรงอาจเกิดขึ้นกับวันนี้กัญชามีศักยภาพมากขึ้น
แสดงความคิดเห็นที่พิจารณาพื้นที่ที่การวิจัยน้อยได้รับการดำเนินการ ซึ่งรวมถึงผลกระทบด้านสุขภาพที่เป็นไปได้ของควันกัญชาสอง; ผลกระทบระยะยาวของการเปิดรับกัญชาก่อนคลอด; ศักยภาพในการรักษาของสารเคมีแต่ละที่พบในพืชกัญชา; และผลกระทบของนโยบายการถูกต้องตามกฎหมายกัญชาต่อสุขภาพของประชาชน.
นักวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นกัญชาของผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อวัยรุ่นกลุ่มอายุที่สมองพัฒนาอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยอธิบายความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้กัญชาในประชากรกลุ่มนี้ การวิจัยแสดงให้เห็นว่ากัญชาบั่นทอนความคิดที่สำคัญและฟังก์ชั่นหน่วยความจำในระหว่างการใช้และการขาดดุลเหล่านี้ยังคงมีอยู่วันหลังการใช้ นอกจากนี้การศึกษาระยะยาวพบว่าใช้กัญชาเป็นประจำในช่วงต้นปีวัยรุ่นช่วยลดไอคิวในวัยแม้ว่าผู้ใช้หยุดการสูบกัญชาเป็นผู้ใหญ่.
นิด้าสนับสนุน 2013 ตรวจสอบการสำรวจในอนาคตกล่าวว่าร้อยละ 6.5 ของนักเรียน 12 รายงานประจำวัน หรือการใช้กัญชาซึ่งอยู่ใกล้กับวันที่มีร้อยละ 60 ไม่เห็นว่าการใช้กัญชาเป็นประจำอาจเป็นอันตราย "มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแจ้งเตือนประชาชนว่าการใช้กัญชาในปีวัยรุ่นนำสุขภาพสังคมและความเสี่ยงทางวิชาการ" ผู้เขียนนำกล่าวว่าและผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ดร. นอร่า D. Volkow "แพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถมีบทบาทในการถ่ายทอดให้กับครอบครัวที่ใช้กัญชาต้นสามารถยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญทางสังคมและการพัฒนาที่สำคัญและสามารถทำให้เสียการพัฒนาองค์ความรู้."
ทบทวนนี้เน้นว่าการใช้กัญชามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐและท้องถิ่นย้ายไปยังกฎหมายกัญชา เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือการพักผ่อนหย่อนใจ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของการใช้งานนั้นอาจจำนวนของคนที่มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ, การตรวจสอบว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความคิดเห็นที่อธิบายถึงวิทยาศาสตร์สร้างว่ากัญชาสามารถเสพติดและความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน หรือ เด็กติดยาเสพติดสำหรับผู้ใช้ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเชิงลึกในทางทฤษฎี เกทเวย์ ระบุว่า การใช้กัญชาคล้ายกับนิโคตินและแอลกอฮอล์ใช้ อาจจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของยาอื่น ๆ .
ผู้เขียนทบทวนวรรณกรรมแสดงให้เห็นว่ากัญชาทำลายขับรถเพิ่มความเสี่ยงของการมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุรถยนต์และความเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อรวมกัญชากับแอลกอฮอล์ ผู้เขียนยังกล่าวถึงผลกระทบของกัญชา potencies เพิ่มขึ้น และทราบว่าเพราะแก่การศึกษาจะขึ้นอยู่กับผลของกัญชาที่มีอาหารเสริมลด . . หลัก psychoactive เคมีที่พบในกัญชา -- แข็งแกร่งต่อสุขภาพผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับกัญชามีศักยภาพมากขึ้นวันนี้ .
ทานพิจารณาพื้นที่ที่มีการวิจัยน้อยได้โดยง่าย รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่เป็นไปได้ของควันกัญชามือสอง ;ผลกระทบระยะยาวของการรักษากัญชาก่อนคลอด ; ศักยภาพของสารเคมีแต่ละตัวที่พบในกัญชาพืช และผลกระทบของนโยบายที่ถูกต้องตามกฎหมายกัญชาสาธารณสุข .
นักวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นกัญชาเป็นอันตรายต่อวัยรุ่น เป็นวัยที่สมองอย่างรวดเร็ว กลุ่มพัฒนาซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยอธิบายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้กัญชาในกลุ่มนี้ด้วย งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ากัญชา impairs การคิดอย่างมีวิจารณญาณและหน่วยความจำฟังก์ชันในการใช้งานและการขาดดุลเหล่านี้คงอยู่หลายวันหลังจากการใช้ นอกจากนี้ การศึกษาในระยะยาวพบว่า การใช้กัญชาปกติในช่วงต้นวัยรุ่นปีลดไอคิวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แม้ว่าผู้ใช้หยุดสูบบุหรี่กัญชาเป็นผู้ใหญ่
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์สนับสนุน 2013 ติดตามการสำรวจในอนาคตว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์ 12 นักเรียนรายงานรายวันหรือใกล้ใช้กัญชาทุกวัน , ร้อยละ 60 ไม่รับรู้ว่ากัญชาใช้ปกติสามารถเป็นอันตราย . มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแจ้งเตือนประชาชนว่า การใช้กัญชาในปีวัยรุ่นนำสุขภาพ สังคม และวิชาการ ความเสี่ยงกล่าวว่า ผู้เขียนนำนิด้า ผอ. ดร. โนรา D และโวลโคว์” แพทย์โดยเฉพาะ สามารถมีบทบาทในการสื่อเพื่อครอบครัวที่ใช้กัญชาก่อนสามารถแทรกแซงกับเหตุการณ์สำคัญทางสังคมและการพัฒนาและสามารถส่งผลต่อพัฒนาการทางความคิด "
.รีวิวนี้เน้นที่การใช้กัญชามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐและท้องถิ่นย้ายต่อ Legalizing กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือนันทนาการ . ใช้เพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจจำนวนผู้คนมีแนวโน้มที่จะประสบผลสุขภาพเชิงลบความคิดเห็นกล่าวว่า