Studies show that urban schools, pr

Studies show that urban schools, primarily attended by low-income African
American and Latino students, continue to lag behind middle and high income
predominantly white schools in student attainment (Dittman, 2004). According to
Mickelson (1990) and Smith-Maddox (1999) African American and Latino students are
not advancing in the educational system in America, and their academic performance is
lower than that of their White counterparts when it comes to standardized tests (Jencks &
Phillips, 1998; Miller, 1995). Brown and Evans (2002) argued that academic achievement
is imperative because students devote an inordinate amount of time in school and, thus,
school and school-related activities provide crucial, significant attributes in the
socialization of students and serve as the main social venue for them. Numerous
researchers have argued that academic results are fundamentally influenced by the school
environment (Brooks- Gunn, Klebanov, and Duncan, 1996).
The underlying problems contributing to the urban-suburban achievement gap
―are typically manifestations of larger societal problems related to: (1) social inequality,
(2) racism and (3) the deterioration of urban areas‖ (Noguera, 1999, p.1). It is essential
that the complexity of this triple threat facing urban schools is addressed. According to
Bronfenbrenner (1979) there are several justifications for students' academic achievement
and failure which includes the environment and cultural variances that students bring
with them. Crane (1991) and Wilson (1987) stated that research studies have shown

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาแสดงที่โรงเรียนเมือง หลักจากแอฟริกาแนซ์
นักเรียนอเมริกันและลาติน ยังช้ากลาง และสูงรายได้
ขาวโรงเรียนในนักเรียนโดย (Dittman, 2004) ส่วนใหญ่ ตาม
Mickelson (1990) และนักเรียนอเมริกันแอฟริกันสมิธแมดด็อกซ์ (1999) และลาติน
ความก้าวหน้าในระบบการศึกษาในอเมริกา และผลการศึกษาของพวกเขาไม่ได้
ต่ำกว่าของคู่สีขาวของพวกเขาเมื่อมันมาถึงการทดสอบตามมาตรฐาน (Jencks &
ไขควง 1998 มิลเลอร์ 1995) น้ำตาลและอีแวนส์ (2002) ที่สำเร็จวิชาการโต้เถียง
เป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากนักเรียนอุทิศนานกว่าปกติเวลาเรียน และ จึง,
โรงเรียนและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนให้แอตทริบิวต์ที่สำคัญ สิ่งสำคัญในการ
การขัดเกลาทางสังคมของนักเรียนและให้บริการเป็นสถานสังคมหลักสำหรับพวกเขา มากมาย
นักวิจัยได้โต้เถียงว่า ผลการศึกษามีอิทธิพลพื้นฐาน โดยโรงเรียน
สิ่งแวดล้อม (บรู๊คส์ - Gunn, Klebanov และ ดันแคน 1996) .
ปัญหาพื้นฐานให้เกิดช่องว่างของความสำเร็จที่เมืองชานเมือง
―are โดยทั่วไปลักษณะของปัญหาใหญ่นิยมเกี่ยวข้องกับ: ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม (1),
(2) เหยียดและ (3) การเสื่อมสภาพของเมือง areas‖ (Noguera, 1999, p.1) มันเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ต่างความซับซ้อนของการคุกคามนี้สามหันหน้าโรงเรียนเมือง ตาม
Bronfenbrenner (1979) มีอยู่หลายเหตุผลสำหรับความสำเร็จทางวิชาการนักเรียน
และล้มเหลวซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมและต่างวัฒนธรรมที่นักเรียนนำ
กับพวกเขา นกกระเรียน (1991) และวิลสัน (1987) กล่าวว่า การศึกษาวิจัยได้แสดงให้เห็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนในเมืองเข้าร่วมโดยส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำแอฟริกัน
อเมริกันและนักเรียนที่ลาตินยังคงล้าหลังรายได้ระดับกลางและสูง
โรงเรียนสีขาวส่วนใหญ่ในความสำเร็จของนักเรียน (Dittman, 2004) ตามที่
มิคเคลสัน (1990) และสมิ ธ แมดดอกซ์ (1999) นักเรียนชาวอเมริกันแอฟริกันและลาตินจะ
ไม่ก้าวหน้าในระบบการศึกษาในอเมริกาและผลการเรียนของพวกเขาคือ
ต่ำกว่าของคู่สีขาวของพวกเขาเมื่อมันมาถึงการทดสอบมาตรฐาน (Jencks และ
ฟิลลิป , 1998; มิลเลอร์, 1995) บราวน์และอีแวนส์ (2002) แย้งว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
มีความจำเป็นเพราะนักเรียนอุทิศจำนวนมากมายของเวลาที่อยู่ในโรงเรียนและทำให้
โรงเรียนและกิจกรรมของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความสำคัญคุณลักษณะที่สำคัญในการ
ขัดเกลาทางสังคมที่นักศึกษาและทำหน้าที่เป็นสถานที่หลักสำหรับสังคม พวกเขา มากมาย
นักวิจัยได้ระบุว่าผลการศึกษาได้รับอิทธิพลพื้นฐานโรงเรียน
สิ่งแวดล้อม (บรูคส์-น์, Klebanov และดันแคน, 1996)
ปัญหาพื้นฐานที่เอื้อต่อความสำเร็จที่เมืองชานเมืองช่องว่าง
-โดยทั่วไปจะมีอาการของปัญหาสังคมขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ: ( 1) ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม
(2) การเหยียดสีผิวและ (3) การเสื่อมสภาพของพื้นที่ในเมือง‖ (Noguera, 1999, p.1) มันเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ซับซ้อนของภัยคุกคามที่สามนี้หันหน้าไปทางโรงเรียนในเมืองที่มีการแก้ไข ตามที่
Bronfenbrenner (1979) มีหลายเหตุผลสำหรับความสำเร็จทางวิชาการของนักเรียนเป็น
และความล้มเหลวซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมและความแปรปรวนทางวัฒนธรรมที่นักเรียนนำมา
กับพวกเขา เครน (1991) และวิลสัน (1987) ระบุว่าการศึกษาวิจัยได้แสดงให้เห็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนในเมืองเป็นหลัก โดยนักเรียนผู้เข้าร่วมแอฟริกา
ชาวอเมริกันและลาติน , ยังคงล้าหลังรายได้สูงและกลางโรงเรียนสีขาวเด่น
มีส่วนร่วมของนักศึกษา ( แบบฟอร์ม , 2004 ) ตาม
หัวไม้ ( 1990 ) และ สมิธ แมดด็อกซ์ ( 1999 ) นักเรียนชาวอเมริกันและลาตินเป็น
ไม่ก้าวหน้าในระบบการศึกษาของอเมริกาและผลการเรียนของพวกเขา
กว่าของคู่สีขาวของพวกเขาเมื่อมันมาถึงการทดสอบมาตรฐาน ( เจงก์ส&
Phillips , 1998 ; มิลเลอร์ , 1995 ) สีน้ำตาลและอีแวนส์ ( 2002 ) แย้งว่า
ผลสัมฤทธิ์ขวาง เพราะนักเรียนอุทิศมีจํานวนมาก เวลาในโรงเรียนและทำให้โรงเรียนและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องให้

ที่สำคัญคุณสมบัติในสำคัญการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นหลัก สังคม สถานที่สำหรับพวกเขา นักวิจัยมากมาย
ได้เสนอว่าผลการศึกษาจะได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมพื้นฐานโรงเรียน
( บรูคส์ - กันน์ klebanov และดันแคน , 1996 ) .
ปัญหาพื้นฐานที่เอื้อต่อชุมชนชานเมืองช่องว่าง
ผมอยากเรียนมักจะสำแดงใหญ่ขึ้น สังคม ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ ( 1 ) ความไม่เสมอภาคทางสังคม
( 2 ) การเหยียดเชื้อชาติ และ ( 3 ) การเสื่อมสภาพของเขตเมือง‖ ( โนกูร่า , 1999 , ป. ) มันเป็นสิ่งจำเป็น
ที่ความซับซ้อนของภัยคุกคามนี้สามโรงเรียนในเมืองซึ่งระบุ ตาม
บร เฟนเบรนเนอร์ ( 1979 ) มีหลายเหตุผลสำหรับนักเรียน '
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความล้มเหลวซึ่งรวมถึงสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมทางวัฒนธรรมที่นักศึกษานำ
กับพวกเขาเครน ( 1991 ) และ วิลสัน ( 1987 ) กล่าวว่า การศึกษาวิจัยได้แสดง