The purpose of the study was to des

The purpose of the study was to describe the perceptions of twelve school
principals in Manitoba concerning the relationship between their duty to evaluate
teachers and the normative imperative to develop schools as professional learning
communities. This study used Toole and Louis’s (2002) definition of a school as
professional learning community.
Toole and Louis contend that the term professional learning community is
composed of three interdependent concepts: a school culture that emphasizes
professionalism which is client oriented and knowledge-based; one that emphasizes
learning, placing high value on teachers’ inquiry and reflection; and one that is
communitarian, emphasizing personal connections. Furthermore, this definition is built
on the notion that there are preconditions, structural supports, and human and social
resources, necessary for professional learning communities.
Grounded theory served as both the theoretical structure and research design to
gain an understanding of principals’ thinking (Strauss & Corbin, 1998). Principals
participated in this study in two focus groups (six principals in each focus group), and
twelve interviews. Each focus group and interview was transcribed, and content analysis
was employed to identify commonalities and differences in the data (Gall, Gall & Borg,
2003). Using open, axial, and selective coding eight themes were identified based on the
responses to the research questions (Johnson & Christensen, 2004; Strauss & Corbin,
1990).
This study revealed some consistency between the information cited in the
literature, with specific focus on Toole and Louis’ (2002) definition, and principals’
Reproduced with permission of the copyright owner. Further reproduction prohibited without permission.
Holding the reins of the professional learning community ii
perceptions of their schools as professional learning communities. The participants
perceived a professional learning community as being comprised of the three
interdependent domains theorized by Toole and Louis and as requiring necessary
structural supports and human and social resources as preconditions. They identified
time, teacher empowerment, interconnected teacher roles, school plans and institutional
identity as structural supports. They also viewed trust and respect, and supportive
principal leadership as human and social resource preconditions for schools striving to
become professional learning communities.
The study also revealed some conflict between the beliefs of the principals and
conceptions of professional learning communities as theoretically constructed in the
literature. The participants perceived that while a professional learning community is
multidimensional, its effectiveness is not necessarily tied to measures of student
achievement. There appeared to be few differences among the participants’ perceptions
when separated by gender, school type (public or private) and school size (small, medium
or large). The participants appeared to have limited notions of a professional learning
community and as a result it is hard to make a case that professional learning
communities exist in these schools. Additionally, they saw the duty to evaluate teachers
as fostering the development of a professional learning community. Finally, while
professional learning communities may hold the best promise for sustaining school
improvement efforts (Hord, 2004), the efforts associated with nurturing one will lack
results if principals do not possess the clarity of what is required for a school to become a
professional learning community

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการ อธิบายภาพลักษณ์ของโรงเรียน 12 แบบในมานิโทบาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่การประเมิน เรียนครูและจำ normative พัฒนาโรงเรียนอย่างมืออาชีพ ชุมชน การศึกษานี้ใช้ของ Louis และ Toole (2002) คำจำกัดความของโรงเรียนเป็น วิชาชีพเรียนรู้กันToole และ Louis แข่งระยะมืออาชีพเรียนรู้การเป็น ประกอบด้วยแนวคิดจัดสาม: วัฒนธรรมโรงเรียนที่เน้น ความเป็นมืออาชีพซึ่งเป็นลูกค้าแนว และรู้ ตาม ที่เน้น เรียนรู้ วางค่าสูงสอบถามครูและสะท้อน และที่ communitarian เน้นการเชื่อมต่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ สร้างคำจำกัดความนี้ บนแนวคิด ที่มีเงื่อนไขเบื้องต้น สนับสนุนโครงสร้าง และมนุษย์ และสังคม ทรัพยากร สิ่งจำเป็นสำหรับมืออาชีพเรียนรู้ชุมชนเป็นทฤษฎีโครงสร้างและออกแบบงานวิจัยทฤษฎีป่นเล็กน้อย กำไรที่เข้าใจหลักการคิด (สโทรสและ Corbin, 1998) หลัก ส่วนร่วมในการศึกษานี้ในกลุ่มโฟกัสสอง (หกหลักในแต่ละกลุ่มโฟกัส), และ สัมภาษณ์ 12 แต่ละกลุ่มโฟกัสและสัมภาษณ์ถูกทับ และเนื้อหาวิเคราะห์ ถูกจ้างระบุ commonalities และความแตกต่างในข้อมูล (ปากปราศรัยน้ำใจเชือด ปากปราศรัยน้ำใจเชือด และ Borg2003) ใช้เปิด แกน และใช้รหัสแปดรูปแบบระบุตามแบบ ตอบคำถามวิจัย (Johnson และคริสเตนเซ่น 2004 สโทรสและ Corbin 1990)การศึกษานี้เปิดเผยบางอย่างสอดคล้องกันระหว่างข้อมูลที่อ้างถึงในการ วรรณกรรม กับเฉพาะเน้นของ Louis และ Toole (2002) นิยาม และหลักของทำซ้ำกับสิทธิ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ ห้ามไม่ มีสิทธิ์สืบพันธุ์ต่อไปถือบังเหียนมืออาชีพเรียนรู้ชุมชน iiภาพลักษณ์ของโรงเรียนเป็นชุมชนเรียนรู้อาชีพ ผู้เข้าร่วม มองเห็นชุมชนเรียนรู้อาชีพกำลังประกอบด้วยสาม จัดโด theorized Toole และ Louis และจำเป็นต้อง โครงสร้างสนับสนุนและทรัพยากรมนุษย์ และสังคมเป็นปัจจัยหลัก พวกเขาระบุ เวลา ครูอำนาจ บทบาทครูอิน แผนโรงเรียน และสถาบัน รหัสประจำตัวเป็นโครงสร้างสนับสนุน พวกเขายังดูน่าเชื่อถือและเคารพ และสนับสนุน ทรัพยากรมนุษย์ และสังคมล่วงสำหรับโรงเรียนที่มุ่งมั่นที่จะเป็นหลัก กลายเป็น ชุมชนเรียนรู้อาชีพการศึกษายังเปิดเผยความขัดแย้งบางอย่างระหว่างความเชื่อแบบ และ conceptions ชุมชนเรียนรู้อาชีพที่สร้างตามหลักวิชาเป็นการ วรรณกรรม ผู้เข้าร่วมรับรู้ในขณะที่มืออาชีพเรียนรู้ชุมชนว่า หลาย มันไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับมาตรการของนักเรียน ความสำเร็จ มีปรากฏ ว่าไม่แตกต่างระหว่างการรับรู้ของผู้เรียน เมื่อแยกตามเพศ ชนิดของโรงเรียน (รัฐ หรือเอกชน) และขนาดโรงเรียน (เล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่) ผู้เรียนที่ปรากฏให้ ได้รับการจำกัดความเข้าใจเรียนรู้อาชีพ ชุมชน และดังนั้น จึงยากที่จะทำให้กรณีที่เรียนอาชีพ ชุมชนที่มีอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ นอกจากนี้ พวกเขาเห็นจะทำหน้าที่ประเมินครู เป็นการทำนุบำรุงพัฒนาชุมชนเรียนรู้อาชีพ ในที่สุด ในขณะที่ ชุมชนเรียนรู้อาชีพอาจระงับสัญญาที่ดีที่สุดสำหรับเสริมการเรียน ความพยายามปรับปรุง (คิดฮอด 2004), ความพยายามที่จะเชื่อมโยงกับ nurturing หนึ่งจะขาด ผลหลักยังไม่มีความชัดเจนของสิ่งจำเป็นสำหรับโรงเรียนเพื่อเป็นการ ชุมชนเรียนรู้อาชีพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการอธิบายถึงการรับรู้ของสิบสองโรงเรียนครูใหญ่ในแมนิโทบาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่ของตนในการประเมินครูและกฎเกณฑ์ความจำเป็นในการพัฒนาโรงเรียนเป็นมืออาชีพในการเรียนรู้ชุมชน การศึกษาครั้งนี้ใช้โอทูลและหลุยส์ (2002) ความหมายของโรงเรียนเป็นชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพ. โอทูลและหลุยส์ยืนยันว่าระยะชุมชนการเรียนรู้มืออาชีพประกอบด้วยสามแนวคิดการพึ่งพาซึ่งกันและกัน: วัฒนธรรมโรงเรียนที่เน้นความเป็นมืออาชีพซึ่งเป็นลูกค้าที่มุ่งเน้นและความรู้ตาม; หนึ่งที่เน้นการเรียนรู้การวางที่มีมูลค่าสูงในการสอบถามครูและสะท้อน; และคนที่เป็นcommunitarian เน้นการเชื่อมต่อส่วนบุคคล นอกจากนี้คำจำกัดความนี้ถูกสร้างขึ้นบนความคิดที่ว่ามีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนโครงสร้างและมนุษย์และสังคมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ชุมชนมืออาชีพ. ทฤษฎี Grounded ทำหน้าที่เป็นทั้งโครงสร้างทางทฤษฎีและการออกแบบการวิจัยที่จะได้รับความเข้าใจของความคิดหลัก'(ที่สเตราส์ และคอร์ 1998) ผู้บริหารมีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้ในสองกลุ่ม (หกหลักในแต่ละกลุ่ม) และสิบสองสัมภาษณ์ แต่ละกลุ่มโฟกัสและการสัมภาษณ์ถูกคัดลอกและการวิเคราะห์เนื้อหาถูกจ้างมาเพื่อระบุความธรรมดาเหมือนและความแตกต่างในข้อมูล (น้ำดี, น้ำดีและแอนเดอ, 2003) ใช้เปิดแกนและการเข้ารหัสเลือกแปดรูปแบบที่ถูกระบุขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อคำถามการวิจัย (จอห์นสันและคริสปี 2004 สเตราส์และคอร์ 1990). การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นความสอดคล้องระหว่างข้อมูลที่อ้างถึงในวรรณกรรมที่มีความสำคัญที่เฉพาะเจาะจงในโอทูลและหลุยส์ '(2002) ความหมายและหลักการ' ทำซ้ำได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ การสืบพันธุ์ต่อไปห้ามไม่ได้รับอนุญาต. โฮลดิ้งบังเหียนของชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพที่สองการรับรู้ในโรงเรียนของพวกเขาเป็นมืออาชีพในการเรียนรู้ชุมชน ผู้เข้าร่วมการรับรู้ชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพที่ถูกประกอบด้วยสามโดเมนพึ่งพามหาเศรษฐีโดยโอทูลและหลุยส์และเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนโครงสร้างและทรัพยากรมนุษย์และสังคมเป็นปัจจัยพื้นฐาน พวกเขาระบุว่าเวลาที่เสริมสร้างพลังอำนาจครูบทบาทครูเชื่อมโยงแผนโรงเรียนและสถาบันตัวตนเป็นสนับสนุนโครงสร้าง พวกเขายังมองความไว้วางใจและความเคารพและให้การสนับสนุนการเป็นผู้นำที่สำคัญเป็นมนุษย์และปัจจัยพื้นฐานของทรัพยากรทางสังคมสำหรับโรงเรียนที่มุ่งมั่นที่จะกลายเป็นชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพ. การศึกษายังเผยให้เห็นความขัดแย้งระหว่างความเชื่อของผู้บริหารและแนวความคิดของชุมชนการเรียนรู้มืออาชีพสร้างทฤษฎีในวรรณคดี. ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นว่าในขณะที่ชุมชนการเรียนรู้มืออาชีพหลายมิติประสิทธิภาพจะไม่จำเป็นต้องผูกติดกับมาตรการของนักเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีที่ดูเหมือนจะเป็นความแตกต่างในหมู่การรับรู้ของผู้เข้าร่วมเมื่อแยกตามเพศประเภทโรงเรียน (รัฐหรือเอกชน) และขนาดโรงเรียน (ขนาดเล็กขนาดกลางหรือขนาดใหญ่) ผู้เข้าร่วมดูเหมือนจะมีความคิดที่ จำกัด ของการเรียนรู้ระดับมืออาชีพของชุมชนและผลที่ตามมาก็ยากที่จะทำให้เป็นกรณีว่าการเรียนรู้ระดับมืออาชีพของชุมชนที่มีอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ นอกจากนี้พวกเขาได้เห็นการปฏิบัติหน้าที่ในการประเมินครูกับการอุปถัมภ์ของการพัฒนาของชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพ ท้ายที่สุดขณะที่ชุมชนการเรียนรู้ระดับมืออาชีพอาจจะมีสัญญาที่ดีที่สุดสำหรับการค้ำจุนโรงเรียนพยายามในการพัฒนา(Hord, 2004) ความพยายามที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่มีผลถ้าผู้บริหารไม่ได้มีความชัดเจนของสิ่งที่จำเป็นสำหรับโรงเรียนที่จะกลายเป็นการเรียนรู้ระดับมืออาชีพชุมชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายการรับรู้ของผู้บริหารโรงเรียนในโรงเรียน 12
แมนิโทบาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหน้าที่ประเมิน
ครูและ normative ขวางเพื่อพัฒนาโรงเรียนให้เป็นมืออาชีพ
การเรียนรู้ชุมชน ในการศึกษาครั้งนี้ได้ใช้ทูลส์และหลุยส์ ( 2002 ) นิยามของโรงเรียนเป็นชุมชนการเรียนรู้

มืออาชีพทูลส์ และหลุยส์ ยืนยันว่า คำว่ามืออาชีพ การเรียนรู้ชุมชน
ประกอบด้วยสามแนวคิดกัน : วัฒนธรรมโรงเรียนที่เน้นความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นลูกค้าที่มุ่งเน้นและ

ฐานความรู้ ; หนึ่งที่เน้นการเรียนรู้ การวางค่าสูงในการสะท้อนการสอบถามและ ; และหนึ่งที่
กลยุทธ์เน้นการเชื่อมต่อส่วนบุคคล นอกจากนี้คำนิยามนี้สร้างขึ้น
บนแนวคิดว่ามี preconditions โครงสร้างรองรับ และมนุษย์และสังคม
ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ชุมชนระดับมืออาชีพ .
ทฤษฎีหน้าที่เป็นทั้งเชิงโครงสร้างและการออกแบบการวิจัย

ได้ความเข้าใจแบบคิด ( สเตราส์&คอร์บิน , 1998 ) ผู้บริหาร
มีส่วนร่วมในการศึกษา 2 กลุ่มโฟกัส ( 6 คน ในแต่ละกลุ่ม ) และ
สัมภาษณ์ 12 แต่ละกลุ่มและการสัมภาษณ์คือการทับศัพท์และ
วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อระบุสิ่งที่เหมือนกันและแตกต่างกันข้อมูล ( น้ำดี , ถุงน้ำดี& Borg ,
2003 ) ใช้เปิด แกนและเลือกการเข้ารหัสแปดธีมถูกระบุตาม
การตอบสนองกับคำถามการวิจัย ( จอห์นสัน& คริสเตนเซ่น , 2004 ; สเตราส์&คอร์บิน

, 1990 ) พบมีความสอดคล้องระหว่างข้อมูลที่อ้างถึงใน
วรรณกรรมที่มีมุ่งเน้นเฉพาะเกี่ยวกับทูลส์และหลุยส์ ( 2002 ) ความหมาย และผู้บริหาร '
ผลิตโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ การสืบพันธุ์ต่อไป
ต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตรั้งบังเหียนของการเรียนรู้ชุมชนมืออาชีพ 2
ที่มีต่อโรงเรียนของพวกเขาเป็นชุมชนการเรียนรู้แบบมืออาชีพ ผู้เข้าร่วมการชุมชนการเรียนรู้
มืออาชีพที่ประกอบด้วยสาม
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน โดย ทูล และ หลุยส์ และ โดเมน theorized ที่ต้องรองรับโครงสร้างจำเป็น
และทรัพยากรมนุษย์และสังคมเป็นเงื่อนไขล่วงหน้า . พวกเขาระบุ
ครั้งการเสริมพลังอำนาจครูเชื่อมโยงบทบาทของครู , แผน , โรงเรียนและสถาบัน
ตัวตนที่สนับสนุนโครงสร้าง พวกเขายังดูไว้ใจและเคารพ และผู้นำหลักสนับสนุน
เป็น preconditions ทรัพยากรมนุษย์และสังคมโรงเรียนมุ่งมั่นที่จะเป็นชุมชนการเรียนรู้แบบมืออาชีพ
.
พบมีความขัดแย้งระหว่างความเชื่อของผู้บริหารและ
แนวคิดของการเรียนรู้วิชาชีพชุมชนทฤษฎีที่สร้างขึ้นใน
วรรณกรรม ผู้เข้าร่วมรับรู้ว่าในขณะที่การเรียนรู้ชุมชนมืออาชีพเป็น
แบบพหุมิติ ประสิทธิภาพไม่จําเป็นต้องเชื่อมโยงกับมาตรการของนักศึกษาพยาบาลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปรากฏว่ามีความแตกต่างบางอย่างระหว่างผู้เข้าร่วมรับรู้
เมื่อแยกตามเพศประเภทโรงเรียนรัฐหรือเอกชน ) และโรงเรียน (
ขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ ) ผู้เข้าร่วม ปรากฏว่ามีจำกัดมุมมองการเรียนรู้ชุมชน
มืออาชีพและผล เป็นเรื่องยากที่จะทำให้กรณีที่ชุมชนการเรียนรู้
มืออาชีพอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ นอกจากนี้ พวกเขาเห็นหน้าที่ประเมินครู
เป็นเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ . ในที่สุดในขณะที่
มืออาชีพการเรียนรู้ชุมชนอาจถือสัญญาที่ดีที่สุดจากความพยายามในการพัฒนาโรงเรียน
( ฮอร์ด , 2004 ) , ความพยายามที่เกี่ยวข้องกับ nurturing หนึ่งจะขาด
ผลลัพธ์ถ้าผู้บริหารไม่มีความชัดเจนของสิ่งที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงเรียนเป็นชุมชนการเรียนรู้มืออาชีพ