Robots probably won’t look human wh

Robots probably won’t look human when they first begin appearing on the streets in the next several years. But some robot cars such as Google’s self-driving vehicles will have recognizable faces designed to win human hearts and minds. Google hopes to begin testing its custom-made robot cars on the roads of Northern California starting in 2015.

Google’s self-driving car prototype represents a cuddly vision of the robot future that is almost the complete opposite of what most dystopian science fiction films have imagined. The vehicle’s headlights combine with a pert “nose” to give the impression of a wide-eyed baby confronting the world for the first time. Wired has described the car as “an egg with the face of a koala.” Cartoonist Matthew Inman, creator of the popular website The Oatmeal, dubbed the Google cars “adorable Skynet Marshmallow Bumper Bots.” In other words, Google’s car has a face that wordlessly asks people to trust it when they see the driverless vehicle ambling down the road.

Trust is important because the idea of self-driving cars can inspire both excitement and fear. One the one hand, many experts have hailed the future of self-driving cars as delivering human drivers from their own distracted, sleepy, drunk driving habits and possibly reducing the number of road accidents — the cause of 32,719 deaths in the U.S. alone in 2013. A report by the Eno Center for Transportation, a nonprofit think tank in Washington, D.C., suggested that a future filled with self-driving cars could also ease traffic congestion and save people time during their commutes. On the other hand, more than 75 percent of people surveyed by insurance.com said they would not trust a self-driving car to take their child to school. And only 31 percent of survey respondents said they would let the car’s computer drive whenever possible.

Google knows that it has a lot of work to do in getting people to fully trust its vision of self-driving cars that have only a start and stop button. The technology giant has itself become the face of self-driving cars in the public imagination as the company brand most associated with the technology, according to a report by KPMG, an audit, tax and advisory firm. Yet the same report showed that respondents in focus groups ranging from Los Angeles to New Jersey almost all expressed a need to be able to take control of the car at any point — partly because they didn’t fully trust the self-driving technology and partly because some still wanted to enjoy manual driving.

Part of Google’s “hearts and minds” strategy involves dialing down the aggressive driving in the self-driving car’s behavior and restraining its top speed to 25 miles per hour — a pace more suitable for driving in the streets of suburbia rather than tearing down the highway. Inman, creator of The Oatmeal, recounted his driving experience with a prototype of Google’s self-driving car: “The car we rode in did not strike me as dangerous. It struck me as cautious. It drove slowly and deliberately, and I got the impression that it’s more likely to annoy other drivers than to harm them.”

But Google has also clearly put plenty of thought and care into the face its self-driving car presents to the world. That’s a wise move, given how the fusiform face area of the human brain seems quite willing to interpret the fronts of cars as faces, according to several studies. One 2012 study published in the journal PNAS used fMRI brain scans to see how car “experts” interpreted the car faces. A recent study published on Dec. 17 in the journal PLOS ONE also used such brain scans to examine connections between a person’s tendency to see human attributes in the fronts of cars and the activation of the fusiform face area of the brain. A 2010 study in the journal Evolution & Human Actors has even examined how people of different cultures — specifically Austrian and Ethiopian — interpret the shapes of car fronts as having certain human qualities.

The automobile industry has also recognized the face factor in how it presents its cars to customers. A Wall Street Journal article from 2006 explored the various faces of car models and brands, noting the changing tactics among automakers to either make cars look appealingly cute or menacingly angry. Angry car faces held sway among car buyers at the time, but certain automakers stuck with the kindlier car faces in accordance with their brands.

Google’s idea of going with the cuddly face makes sense for a introducing a potentially terrifying new technology that would come face to face with pedestrians and cyclists on a daily basis. It’s not a new tactic for selling cars, but it does represent a new push to make robots a part of people’s lives in a way that has never been done before.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หุ่นยนต์อาจจะไม่ดูมนุษย์เมื่อแรกเริ่มปรากฏบนท้องถนนในหลายปีถัดไป แต่บางรถหุ่นยนต์เช่นรถยนต์ขับเองของ Google จะได้รู้จักหน้ามาลุ้นหัวใจมนุษย์และจิตใจ Google หวังว่าจะเริ่มทดสอบรถยนต์บนท้องถนนของแคลิฟอร์เนียภาคเหนือหุ่นยนต์ภาพการเริ่มต้นใน 2015ของ Google เองขับรถต้นแบบแสดงวิสัยทัศน์ที่น่ารักของหุ่นยนต์ในอนาคตที่เกือบตรงข้ามสมบูรณ์ของสิ่งที่สุด dystopian นิยายวิทยาศาสตร์ภาพยนตร์มีจินตนาการ ไฟหน้าของรถรวมกับ pert "จมูก" เพื่อช่วยให้ทารก wide-eyed เผชิญโลกครั้งแรก สายมีรถอธิบายว่า "ไข่กับใบหน้าของโคอาลาเป็น" นักเขียนการ์ตูน Matthew ใต้ ผู้สร้างเว็บไซต์ยอดนิยมข้าวโอ๊ต พากย์รถ Google "น่ารักมาร์ชแมลโลว์ Skynet กันชนบอ" ในคำอื่น ๆ รถของ Google มีหน้าที่ wordlessly ขอคนไว้วางใจเมื่อพวกเขาเห็นรถ driverless ambling ลงถนนความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความคิดของตนเองขับขี่รถยนต์สามารถสร้างแรงบันดาลใจความตื่นเต้นและความกลัว หนึ่งมือหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมีคำยกย่องในอนาคตของรถขับเองเป็นจัดส่งโปรแกรมควบคุมมนุษย์จากตนนิสัยการขับขี่ที่ต้องคอยกังวล ง่วงนอน เมา และอาจลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิต 32,719 ในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวในปี 2013 รายงาน โดยศูนย์ Eno สำหรับการขนส่ง รถถังคิดว่าผลกำไร ใน Washington, dc แนะนำว่า อนาคตที่เต็มไป ด้วยตนเองขับรถไม่คล่องจราจรที่ติดขัด และ ประหยัดเวลาคนใน commutes ของพวกเขา บนมืออื่น ๆ มากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของคนที่สำรวจ โดย insurance.com กล่าวว่า พวกเขาจะไม่เชื่อถือตนเองขับรถนำลูกไปโรงเรียน และเพียงร้อยละ 31 ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขาจะให้ไดรฟ์คอมพิวเตอร์ของรถยนต์เมื่อใดก็ ตามที่เป็นไปได้Google รู้ว่า มีการทำงานต้องการคนที่จะเชื่อถือเป็นวิสัยทัศน์ของตนเองขับรถที่มีเพียงการเริ่มต้น และหยุดปุ่มมาก ยักษ์เทคโนโลยีได้กลายเป็น หน้าของรถขับเองในจินตนาการสาธารณะเป็นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี บริษัทแบรนด์ตัวเองรายงานโดยเคพีเอ็มจี การตรวจสอบบัญชี ภาษี และบริษัทที่ปรึกษา ยังรายงานเดียวกันพบว่า ผู้ตอบในกลุ่มโฟกัสตั้งแต่ลอสแองเจลิสนิวเจอร์ซี่เกือบทั้งหมดแสดงความจำเป็นเพื่อให้สามารถใช้การควบคุมของรถตลอดเวลา — บางส่วนเนื่อง จากพวกเขาไม่เชื่อเทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเอง และบางส่วน เพราะบางอย่างยังคงต้องการเพลิดเพลินกับการขับรถด้วยตนเองส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "หัวใจและจิตใจ" ของ Google เกี่ยวข้องกับการเรียกลงขับก้าวร้าวในลักษณะการทำงานของรถขับเอง และ restraining ความเร็วสูงสุดถึง 25 ไมล์ต่อชั่วโมง — ก้าวที่เหมาะสำหรับการขับรถในถนนสุเบอเบีย แทนที่ฉีกขาดลงทางหลวง ใต้ ผู้สร้างของข้าวโอ๊ต recounted ประสบการณ์ขับกับต้นแบบของรถขับเองของ Google: "รถที่เราขี่ในก็ไม่ตีผมเป็นอันตราย มันหลงฉันเป็นระมัดระวัง ขับรถช้า และจงใจ และผมประทับใจที่เป็นโอกาสรบกวนโปรแกรมควบคุมอื่นมากกว่าจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา"แต่ Google ยังชัดเจนได้ใส่ความคิดมากมาย และการดูแลลงในหน้าของรถขับเองแสดงให้โลก ก็ย้ายฉลาด กำหนดวิธีตั้งหน้า fusiform ของสมองมนุษย์ดูเหมือนว่าค่อนข้างยินดีตีด้านหน้าของรถยนต์ตามใบหน้า ตามการศึกษาหลาย 2012 หนึ่งศึกษาเผยแพร่ในสมุด PNAS ใช้สแกนสมอง fMRI เพื่อดูว่ารถ "ผู้เชี่ยวชาญ" แปลหน้ารถ การศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ในวันที่ 17 ธันวาคมในสมุดรายวันหนึ่ง PLOS ยังใช้สแกนสมองดังกล่าวเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างแนวโน้มของบุคคลเพื่อดูแอตทริบิวต์ของมนุษย์ในด้านหน้าของรถยนต์และการเปิดใช้งานของพื้นที่ fusiform หน้าของสมอง ศึกษา 2010 ในสมุดวิวัฒนาการมนุษย์นักแสดงมีการตรวจสอบแม้ว่าผู้คนของวัฒนธรรมที่แตกต่าง — เฉพาะออสเตรียและเอธิโอเปีย — แปลรูปทรงของรถด้านหน้าว่ามีขอบเขตเฉพาะบุคคลอุตสาหกรรมยานยนต์มีรู้จักตัวหน้าในวิธีจะนำเสนอรถยนต์ของลูกค้า วอลล์สตรีทเจอร์นัลบทความปี 2006 สำรวจใบหน้าของรถยนต์รุ่นต่าง ๆ และยี่ห้อ สังเกตกลยุทธ์เปลี่ยนระหว่าง automakers ชี้ให้ดูรถ appealingly น่ารัก หรือโกรธ menacingly หน้ารถโกรธจัดกทางระหว่างผู้ซื้อรถยนต์ที่เวลา automakers บางอย่างติดอยู่กับหน้ารถ kindlier ตามแบรนด์ของพวกเขาความคิดของ Google จะมีใบหน้าน่ารักที่เหมาะสมสำหรับการแนะนำเทคโนโลยีใหม่ที่น่ากลัวอาจจะมา face to face with cyclists และโชคดีในชีวิตประจำ ไม่แทใหม่สำหรับขายรถยนต์ แต่มันหมายถึงดันใหม่ให้หุ่นยนต์ให้เป็นส่วนหนึ่งของประชาชนอยู่ในลักษณะที่ไม่เคยได้ทำก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หุ่นยนต์อาจจะไม่ได้มีลักษณะของมนุษย์เมื่อแรกเริ่มปรากฏบนท้องถนนในหลายปีข้างหน้า แต่บางหุ่นยนต์รถยนต์เช่น Google ของรถตัวเองขับรถจะได้ใบหน้าที่จดจำได้ออกแบบมาเพื่อชนะใจของมนุษย์และจิตใจ Google หวังที่จะเริ่มการทดสอบรถหุ่นยนต์ที่กำหนดเองทำบนถนนของเทิร์นแคลิฟอร์เนียเริ่มต้นในปี 2015. ต้นแบบรถตัวเองขับรถของ Google แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่น่ากอดแห่งอนาคตหุ่นยนต์ที่เกือบจะตรงข้ามกับสิ่งที่มากที่สุดภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ dystopian มีจินตนาการ . ไฟหน้าของรถรวมกับฮึกเหิม "จมูก" เพื่อให้การแสดงผลของทารกกว้างตาเผชิญหน้ากับโลกเป็นครั้งแรก สายได้อธิบายรถเป็น "ไข่กับใบหน้าของหมีโคอาล่า." นักเขียนการ์ตูนแมทธิว Inman ผู้สร้างเว็บไซต์ยอดนิยมข้าวโอ๊ตขนานนามคัน Google "น่ารัก Skynet Marshmallow Bots กันชน." ในคำอื่น ๆ รถของ Google มีใบหน้า ที่คอแข็งถามคนที่จะไว้วางใจได้เมื่อพวกเขาเห็นรถ driverless ambling ลงที่ถนน. ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะความคิดของรถตัวเองขับรถสามารถสร้างแรงบันดาลใจทั้งความตื่นเต้นและความกลัว หนึ่งมือข้างหนึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้รับการยกย่องในอนาคตของรถตัวเองขับรถเป็นคนขับรถส่งมอบของมนุษย์จากพวกเขาเองฟุ้งซ่านง่วงนอนนิสัยการเมาแล้วขับและอาจจะลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนน - สาเหตุของการเสียชีวิต 32,719 ในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวในปี 2013 . รายงานโดยศูนย์ Eno สำหรับการขนส่ง, ว่ารถถังไม่แสวงหากำไรในกรุงวอชิงตันดีซีชี้ให้เห็นว่าในอนาคตที่เต็มไปด้วยรถตัวเองขับรถยังสามารถบรรเทาความแออัดของการจราจรและช่วยชีวิตผู้คนในช่วงเวลาการเดินทางของพวกเขา ในทางกลับกันมากกว่าร้อยละ 75 ของผู้ตอบแบบสอบถามโดย insurance.com กล่าวว่าพวกเขาจะไม่ไว้วางใจรถตัวเองขับรถที่จะนำบุตรหลานไปโรงเรียน และมีเพียงร้อยละ 31 ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาจะช่วยให้ไดรฟ์คอมพิวเตอร์ของรถเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้. Google รู้ว่ามันมีจำนวนมากของงานที่ต้องทำในการรับคนที่จะไว้วางใจวิสัยทัศน์ของรถตัวเองขับรถที่มีเพียงการเริ่มต้นและหยุดปุ่ม . ยักษ์เทคโนโลยีมีตัวเองกลายเป็นใบหน้าของรถตัวเองขับรถในจินตนาการของประชาชนเป็นแบรนด์ของ บริษัท ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี, ตามรายงานจาก บริษัท เคพีตรวจสอบภาษีและ บริษัท ที่ปรึกษา แต่รายงานเดียวกันพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายจาก Los Angeles ไปนิวเจอร์ซีย์แสดงเกือบทุกความต้องการเพื่อให้สามารถที่จะใช้การควบคุมรถที่จุดใด ๆ - ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่ไว้วางใจเทคโนโลยีตัวเองขับรถและอีกส่วนหนึ่ง เพราะบางส่วนยังคงต้องการที่จะเพลิดเพลินไปกับคู่มือการขับรถ. เป็นส่วนหนึ่งของของ Google "จิตใจและความคิด" กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการโทรลงขับรถเชิงรุกในพฤติกรรมของรถตัวเองขับรถและการควบคุมความเร็วสูงสุดของมันถึง 25 ไมล์ต่อชั่วโมง - ก้าวขึ้นเหมาะสำหรับการขับรถใน ถนนในบริเวณรอบนอกเมืองมากกว่าการฉีกขาดลงทางด่วน Inman ผู้สร้างของข้าวโอ๊ตเล่าประสบการณ์การขับขี่ของเขากับต้นแบบของรถตัวเองขับรถของ Google: "รถที่เราขี่ม้าไม่ได้ตีฉันเป็นอันตราย มันหลงฉันเป็นระมัดระวัง มันขับรถช้าและจงใจและฉันได้รู้สึกว่ามันมีโอกาสมากขึ้นที่จะรบกวนไดรเวอร์อื่น ๆ มากกว่าที่จะเป็นอันตรายต่อพวกเขา. " แต่ Google ได้ยังใส่ได้อย่างชัดเจนความอุดมสมบูรณ์ของความคิดและการดูแลเป็นใบหน้าของรถตัวเองขับรถของตนได้นำเสนอไปทั่วโลก นั่นเป็นไปอย่างชาญฉลาด, กำหนดวิธีบริเวณใบหน้ากระสวยของสมองมนุษย์ที่ดูเหมือนว่าค่อนข้างยินดีที่จะตีความด้านของรถยนต์เป็นใบหน้าตามการศึกษาหลาย หนึ่ง 2012 ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PNAS ใช้สแกนสมอง fMRI เพื่อดูว่ารถ "ผู้เชี่ยวชาญ" ตีความใบหน้ารถ ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมในวารสาร PLoS ONE ยังใช้สแกนสมองดังกล่าวเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างแนวโน้มของคนที่จะเห็นคุณลักษณะของมนุษย์ในด้านของรถยนต์และการเปิดใช้งานของพื้นที่ใบหน้ากระสวยของสมอง 2010 การศึกษาในวารสารวิวัฒนาการและนักแสดงมนุษย์มีการตรวจสอบแม้กระทั่งวิธีการที่คนของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน - โดยเฉพาะออสเตรียและเอธิโอเปีย -. ตีความรูปทรงของเสื้อแจ็กเก็รถที่มีคุณภาพของมนุษย์บางอุตสาหกรรมยานยนต์ยังได้รับการยอมรับปัจจัยที่ใบหน้าในวิธีการที่จะนำเสนอของ รถยนต์ให้กับลูกค้า บทความหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นั 2006 จากการสำรวจใบหน้าต่าง ๆ ของรถรุ่นและยี่ห้อสังเกตกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้ผลิตรถยนต์ทั้งทำให้รถดูดึงดูดน่ารักหรือโกรธตกอยู่ในอันตราย ใบหน้ารถโกรธจัดขึ้นแกว่งไปแกว่งมาในหมู่ผู้ซื้อรถในเวลานั้น แต่ผู้ผลิตรถยนต์บางอย่างติดอยู่กับรถ kindlier ใบหน้าให้สอดคล้องกับแบรนด์ของพวกเขา. ความคิดของ Google จะมีใบหน้าที่น่ากอดที่เหมาะสมสำหรับการแนะนำที่อาจเกิดขึ้นน่ากลัวเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาเห็น ใบหน้าที่มีคนเดินเท้าและขี่จักรยานในชีวิตประจำวัน มันไม่ได้เป็นกลยุทธ์ใหม่สำหรับขายรถยนต์ แต่มันก็ไม่เป็นตัวแทนของการผลักดันใหม่ที่จะทำให้หุ่นยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผู้คนในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หุ่นยนต์อาจจะไม่เหมือนมนุษย์เมื่อพวกเขาเริ่มปรากฏบนถนนต่อไปอีกหลายปี แต่บางคันหุ่นยนต์เช่น Google ตนเองขับขี่รถจะมีใบหน้าที่รู้จักออกแบบมาเพื่อชนะหัวใจของมนุษย์และจิตใจ Google หวังที่จะเริ่มต้นการทดสอบโดยหุ่นยนต์ของรถยนต์บนถนนทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียเริ่มต้นในปี 2015 .

ของ Google ด้วยตนเองการขับรถต้นแบบแสดงวิสัยทัศน์น่ากอดของหุ่นยนต์ในอนาคตที่เกือบจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่ dystopian ที่สุดนิยายวิทยาศาสตร์ภาพยนตร์มีจินตนาการ รถของไฟหน้ารวมกับคึกคะนอง " จมูก " ที่ให้ความประทับใจของดวงตาเบิกกว้าง เด็กเผชิญโลกครั้งแรก สายได้อธิบายรถเป็น " ไข่กับใบหน้าของโคอาล่า" นักเขียนการ์ตูนแมทธิวอินเมิน ผู้สร้างที่เป็นที่นิยมเว็บไซต์ข้าวโอ๊ต , dubbed Google รถยนต์ " สกายเน็ตอวบน่ารักกันชนบอท . " ในคำอื่น ๆของ Google หน้ารถได้แต่ขอให้เชื่อใจมันเมื่อพวกเขาเห็นรถ driverless เดินช้าๆลงถนน .

เชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความคิดของตนเองขับ รถยนต์สามารถดลบันดาลให้ทั้งความตื่นเต้นและความกลัว หนึ่งในมือข้างหนึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้ว่าอนาคตของตนเองขับรถส่งของไดรเวอร์จากตนเองฟุ้งซ่าน ง่วง เมาแล้วขับ นิสัย และอาจจะลดจำนวนอุบัติเหตุ - ถนน สาเหตุของการเสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวใน 32719 2013 รายงานโดยศูนย์ Eno สำหรับการขนส่ง เพื่อคิดว่าถังใน วอชิงตัน ดี.ซี.แนะนำว่าเติมเต็มตนเองขับรถยนต์ยังสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรและช่วยประชาชนในช่วงที่เดินทางของพวกเขา บนมืออื่น ๆที่มากกว่าร้อยละ 75 ของผู้คนโดย insurance.com สำรวจกล่าวว่าพวกเขาจะไม่เชื่อตนเอง ขับรถพาลูกไปโรงเรียน และมีเพียง 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาจะปล่อยให้ไดรฟ์คอมพิวเตอร์ของรถเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ .

Google รู้ว่ามันมีงานมากมายที่ต้องทำในการรับคนที่จะไว้วางใจอย่างเต็มที่กับวิสัยทัศน์ของตนเองขับรถรถยนต์ที่มีเพียงเริ่มต้นและหยุดปุ่ม . เทคโนโลยียักษ์ได้เอง กลายเป็นใบหน้าของตนเองขับขี่รถในจินตนาการของประชาชนที่เป็นแบรนด์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ตามรายงานโดย บริษัท KPMG , ตรวจสอบบัญชี , ภาษี และที่ปรึกษายังรายงานเดียวกัน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มโฟกัสตั้งแต่ลอสแอนเจลิส New Jersey เกือบทั้งหมดมีความต้องการที่จะสามารถควบคุมรถที่จุดใด ๆ -- ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่ไว้ใจตนเองเทคโนโลยีการขับขี่และส่วนหนึ่งเป็นเพราะบางส่วนยังคงต้องการที่จะสนุก

คู่มือขับรถส่วนของหัวใจ " ของ Google และจิตใจ " กลยุทธ์เกี่ยวข้องกับการลงการขับรถก้าวร้าวในตนเอง พฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์และควบคุมความเร็วสูงสุดถึง 25 ไมล์ต่อชั่วโมง - จังหวะเหมาะสำหรับการขับขี่ในถนนของหมู่บ้านมากกว่าฉีก ลงทางด่วน อินเมิน , ผู้สร้างของข้าวโอ๊ต , เล่าประสบการณ์การขับรถของเขากับต้นแบบของ Google ของตนเองขับรถรถยนต์" รถที่เราขี่อยู่ไม่ตีฉันอันตราย มันหลงฉันเป็นคนรอบคอบ มันขับรถช้าและจงใจ ผมมีความรู้สึกว่ามันมีแนวโน้มที่จะรบกวนอื่น ๆไดรเวอร์กว่าทำร้ายพวกเขา . "

แต่ Google ยังได้ชัดเจนทำให้ความคิดมากมายและการดูแลในใบหน้าของตนเองขับรถเสนอไปทั่วโลก นั่นคือการย้ายปัญญาระบุว่า พื้นที่ซึ่งมีปลายแหลมเรียวทั้งสองข้าง ใบหน้าของมนุษย์สมองดูเหมือนจะค่อนข้างยินดีที่จะตีความด้านหน้าของรถที่ใบหน้า ตามการศึกษาหลาย 2012 การศึกษาหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารสารโพลีนิวเคลียร์ ใช้สมอง fMRI สแกนเพื่อดูว่ารถ " ผู้เชี่ยวชาญ " ตีความหน้ารถ ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในธันวาคม .17 ในวารสาร PLoS หนึ่งยังใช้สมอง เช่น การสแกนเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างแนวโน้มของคนที่จะเห็นคุณลักษณะของมนุษย์ในด้านหน้าของรถ และการเปิดใช้งานของพื้นที่ซึ่งมีปลายแหลมเรียวทั้งสองข้าง หน้า ของ สมอง2010 การศึกษาในวารสารมนุษย์วิวัฒนาการ&นักแสดงได้ตรวจสอบว่าผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันโดยเฉพาะ - ออสเตรียและเอธิโอเปีย - ตีความรูปทรงของเสื้อผ้ามีคุณภาพบริการเป็นมนุษย์แน่นอน

อุตสาหกรรมรถยนต์ยังจำหน้าปัจจัยในวิธีการนำเสนอรถยนต์ของลูกค้าบทความวารสาร Wall Street จาก 2006 สำรวจใบหน้าต่างๆของรถรุ่นและยี่ห้อ สังเกตการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธี ระหว่าง automakers ที่จะทำให้รถดูน่ารัก หรือวางอย่างตกอยู่ในอันตรายโกรธ รถโกรธใบหน้าจัดขึ้นแกว่งในหมู่ผู้ซื้อรถในเวลา แต่ automakers บางอย่างติดอยู่ด้วยใบหน้า kindlier รถตามยี่ห้อของตนเอง .

ของ Google คิดจะหน้าตาน่ากอดสมเหตุสมผลสำหรับการแนะนำเทคโนโลยีใหม่ที่น่ากลัวอาจจะเผชิญหน้ากับคนเดินเท้าและขี่จักรยานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เทคนิคใหม่สำหรับการขายรถ แต่มันเป็นตัวแทนของดันใหม่ เพื่อให้หุ่นยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผู้คนในทางที่ไม่เคยมีมาก่อน