As important, all of the regional A

As important, all of the regional Architect Councils of Europe, Asia, the Americas and Africa also signed on to the declaration, something that is unparalleled in the 65-year history of the UIA.

The 2050 Imperative was initiated and drafted by Architecture 2030, then delivered subsequently by theAmerican Institute of Architects (AIA) to the UIA World Congress in Durban, South Africa. Australian Institute of Architects CEO David Parken, with support from UIA President Albert Dubler, guided the 2050 Imperative through a number of committees and introduced it onto the floor of the Congress where it was unanimously adopted on August 8.
The 2050 Imperative states that:
• failing to act now on climate change will put future generations, and those already affected by extreme weather, natural disasters, and poverty, at great risk;
• urban areas are responsible for over 70 per cent of global CO2 emissions, mostly from buildings;
• over the next two decades an area roughly equal to 60 per cent of the world’s building stock will be built and rebuilt in urban areas; and
• this provides an unprecedented opportunity to reduce fossil fuel CO2 emissions to zero by 2050.
The UIA is committed to influencing ethical and socially responsible development throughout the world. With the adoption of the Imperative, member organizations are charged with promoting the planning and design of carbon neutral cities, towns, urban developments, and new buildings, in order achieve the 2050 target.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นสำคัญ ภูมิภาคสถาปนิกสภายุโรป เอเชีย อเมริกา และแอฟริกาทั้งหมดยังลงนามในการประกาศ สิ่งที่เป็นเพียงประวัติ 65 ปีของ UIA จำ 2050 เริ่มต้น และร่างสถาปัตยกรรมปี 2030 นั้นส่งมา โดย theAmerican สถาบันของสถาปนิก (AIA) กับสภาโลก UIA ในเดอร์บาน แอฟริกาใต้ สถาบันสถาปนิก CEO David Parken ด้วยการสนับสนุนจากประธานาธิบดี UIA อัลเบิร์ต Dubler ออสเตรเลียแนะนำจำ 2050 โดยจำนวนคณะกรรมการ และนำลงในชั้นของสภาซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์ถึงในวันที่ 8 สิงหาคมจำ 2050 ระบุว่า:•การดำเนินการขณะนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้อนุชนรุ่นหลัง และผู้ได้รับผลกระทบ โดยมากสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ และความยาก จน เสี่ยงดี แล้ว•เมืองพื้นที่รับผิดชอบสำหรับกว่า 70 ร้อยละของการปล่อย CO2 ส่วนกลาง ส่วนใหญ่จากอาคาร•ทศวรรษถัดไปสองพื้นที่ประมาณเท่ากับ 60 ร้อยละของหุ้นสร้างโลกจะสร้าง และสร้างในพื้นที่เมือง และ•ให้โอกาสประวัติการณ์เพื่อลดการปล่อย CO2 เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นศูนย์ภายในปี 2050 UIA จะมุ่งมั่นที่จะมีอิทธิพลต่อการพัฒนาจริยธรรม และรับผิดชอบสังคมทั่วโลก มีของจำ สมาชิกองค์กรคิดค่าใช้จ่ายกับการส่งเสริมการวางแผนและการออกแบบของคาร์บอนกลางเมือง เมือง เมืองพัฒนา อาคารใหม่ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 2050

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งหมดของสภาสถาปนิกภูมิภาคของยุโรป, เอเชีย, อเมริกาและแอฟริกายังลงนามในการประกาศบางสิ่งบางอย่างที่หาตัวจับยากในประวัติศาสตร์ 65 ปีของ UIA. 2050 ความจำเป็นได้ริเริ่มและร่างสถาปัตยกรรม 2030 แล้วส่งต่อมา theAmerican สถาบันสถาปนิก (เอไอเอ) เพื่อ UIA World Congress ในเดอร์บัน, แอฟริกาใต้ ออสเตรเลียสถาบันสถาปนิกซีอีโอเดวิด Parken รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีอัลเบิร์ UIA Dubler, แนะนำ 2050 ความจำเป็นผ่านจำนวนของคณะกรรมการและแนะนำมันลงบนพื้นของสภาคองเกรสที่มันถูกนำมาใช้อย่างเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม2050 รัฐจำเป็นที่: • ล้มเหลวในการทำหน้าที่ในขณะนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้คนรุ่นอนาคตและผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากสภาพอากาศที่รุนแรงภัยพิบัติทางธรรมชาติและความยากจนที่มีความเสี่ยงที่ดี; •พื้นที่เขตเมืองมีความรับผิดชอบมากกว่าร้อยละ 70 ของการปล่อย CO2 ทั่วโลกส่วนใหญ่มาจากอาคาร• ในอีกสองทศวรรษที่ผ่านมามีพื้นที่เท่ากับร้อยละ 60 ของหุ้นที่อาคารของโลกที่จะถูกสร้างขึ้นและสร้างใหม่ในพื้นที่เขตเมือง; และ•นี้ให้โอกาสประวัติการณ์ที่จะลดการปล่อยก๊าซ CO2 เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นศูนย์ภายในปี 2050 UIA มุ่งมั่นที่จะมีอิทธิพลต่อการพัฒนาจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมทั่วโลก กับการยอมรับความจำเป็นขององค์กรสมาชิกมีการเรียกเก็บเงินกับการส่งเสริมการวางแผนและการออกแบบของเมืองเป็นกลางคาร์บอนเมืองการพัฒนาเมืองและอาคารใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ 2050