A disturbance in the composition of

A disturbance in the composition of this complex
population of microorganisms can however predispose towards
gastrointestinal disorders and intestinal dysfunction (Frank et al.,
2011; Tilg, 2010; Turnbaugh et al., 2006). Probiotics have a number
of beneficial health effects in humans and animals, leading to
improved gut health and wellbeing (Bergillos-Meca, Navarro-
Alarc
on, et al., 2013; Chian & Pan, 2012; Hickson, 2011). The
genera Lactobacillus have a long and safe history in the manufacture
of dairy products (Masco, Huys, De Brandt, Temmerman, & Swings,
2005; Vaughan & Mollet, 1999). In this context, the putative probiotic
strain Lactobacillus plantarum C4, isolated from a commercial
kefir, is being tested. This strain could be of high significance for the
dairy industry and for the healthcare, since it fulfils the in vitrocriteria for the selection of potentially effective probiotic bacteria,
has antimicrobial and immuno-modulating properties (Fuentes
et al., 2008; Puertollano et al., 2008). This bacterium is being
tested as a possible probiotic to be added in a functional fermented
goat's skimmed milk, as reported by Bergillos-Meca, Moreno-
Montoro, et al. (2013). Skimmed milk has previously been found
to be an appropriate vehicle for the intragastric administration of
lactobacilli to mice (Bujalance, Moreno, Jim
enez-Valera, & Ruiz-
Bravo, 2007).
Short-chain fatty acids (SCFA), the main products arising from
the microbial fermentation of carbohydrates, can provide energy to
the colonic epithelium, modulate cholesterol and lipid metabolism,
suppress pathogenic intestinal bacteria and modulate the immune
system (Salazar et al., 2009). pH-controlled faecal batch cultures
allow determination of the fermentability of various substrates in
the intestinal lumen, simulating the conditions in the human distal
colon. However, marked differences can exist due to probiotic
adherence to the epithelial cells and the intestinal barrier, which
could influence their interaction with the host and the microorganisms
present therein (Deepika, Green, Frazier, &
Charalampopoulos, 2009; Ouwehand, Kirjavainen, Gronlund,
Isolauri, & Salminen, 1999). This process cannot currently be
simulated in a vessel system. In contrast, in vitro assays with theCaco-2 cell line have been used to study the adherence of the
bacterial cells to the intestinal monolayer (Deepika, Rastall, &
Charalampopoulos, 2011; Deepika et al., 2009; Ren et al., 2012).
Furthermore, it has been postulated that several physicochemical
properties of probiotic cells, such as hydrophobicity, could be a
good indicator to preselect strains with a positive adhesive character.
Therefore, these models could give us a more realistic idea of
the complex conditions of the colon, while addressing not only for
intestinal lumen but also for epithelial barrier.
pH-controlled faecal batch cultures were carried out to investigate
the influence of L. plantarum C4 on the human colonic
microbiota, in comparison with Lactobacillus rhamnosus GG, a
species widely used as adjunct culture in functional dairy products,
and known to have good adhesive properties (Jacobsen et al., 1999).
We quantified modifications in the levels of selected microbial
groups by fluorescent in situ hybridisation (FISH), assessed the effect
of the probiotic administration on SCFA production and
established possible relationships between metabolic changes and
variations in microbial populations. Concomitantly, hydrophobic
character and ability of both bacterial cells to adhere in vitro to
Caco-2 cells were investigated.
Both strains were considered in order to ascertain if L. plantarum
C4 and its products could influence the microbiota dynamics to give
similar or higher benefits to those observed by L. rhamnosus GG.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รบกวนในองค์ประกอบของความซับซ้อนนี้ประชากรของจุลินทรีย์สามารถจูงใจอย่างไรก็ตามต่อความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ผิดปกติ (Frank et al.,2011 Tilg, 2010 Turnbaugh et al. 2006) โปรไบโอติกมีจำนวนของผลประโยชน์ต่อสุขภาพในมนุษย์และสัตว์ นำไปสุขภาพลำไส้ดีขึ้นและคุณภาพชีวิต (Bergillos Meca, Navarro-Alarc บน et al. 2013 เชียรและกระทะ 2012 Hickson, 2011) การสกุลแลคโตบาซิลลัสมีประวัติยาวนาน และปลอดภัยในการผลิตผลิตภัณฑ์นม (Masco, Huys เดอแบรนต์ Temmerman และ ชิงช้า2005 Vaughan & Mollet, 1999) ในบริบทนี้ โปรไบโอติก putativeสายพันธุ์บาซิลลัส C4 แยกต่างหากจากอาคารkefir จะถูกทดสอบ สายพันธุ์นี้อาจจะมีความสำคัญสูงสำหรับการอุตสาหกรรมนมและ การดูแล สุขภาพ เนื่องจากมันตอบสนอง vitrocriteria ในการคัดเลือกแบคทีเรียอาจมีประสิทธิภาพมีคุณสมบัติต้านจุลชีพ และ ปรับบุคคล immuno (Fuenteset al. 2008 Puertollano et al. 2008) แบคทีเรียนี้มีการทดสอบเป็นโปรไบโอติกสามารถที่จะเพิ่มในทำหมักแพะนมขาดมันเนย โดย Bergillos-Meca โมเรโน-Montoro, et al. (2013) พบนมขาดมันเนยก่อนหน้าให้เป็นการเหมาะสมสำหรับการดูแล intragastric ของแลคโตไปเมาส์ (Bujalance โมเรโน่ อวาเลร่ากับ Jim enez และรูอิซ -ไชโย 2007)สั้นโซ่กรดไขมัน), ผลิตภัณฑ์หลักที่เกิดจากการหมักคาร์โบไฮเดรต จุลินทรีย์สามารถให้พลังงานกับcolonic epithelium ปรับการเผาผลาญคลอเรสเตอรอลและไขมันระงับเชื้อแบคทีเรียก่อโรคลำไส้ และปรับภูมิคุ้มกันระบบ (ลาซาร์ et al. 2009) ควบคุมค่า pH faecal ชุดวัฒนธรรมอนุญาตการกำหนด fermentability ของพื้นผิวต่าง ๆ ในลูเมนลำไส้ จำลองสภาพในมนุษย์ปลายลำไส้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ทำเครื่องหมายความแตกต่างสามารถอยู่เนื่องจากโปรไบโอติกหล่กำแพง ลำไส้และเซลล์เยื่อบุผิวซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อการปฏิสัมพันธ์กับโฮสต์และจุลินทรีย์ปัจจุบันในนั้น (ขำ สีเขียว ฟราเซียร์ &Charalampopoulos, 2009 Ouwehand, Kirjavainen, GronlundIsolauri, & Salminen, 1999) กระบวนการนี้ไม่สามารถจำลองในระบบเรือ ตรงกันข้าม assays ในหลอดทดลองกับเซลล์ theCaco-2 บรรทัดมีการใช้การศึกษายึดมั่นของการเซลล์แบคทีเรียจะ monolayer ลำไส้ (ขำ Rastall, &Charalampopoulos, 2011 ขำ et al. 2009 Ren et al. 2012)นอกจากนี้ มันได้รับ postulated ที่หลายปริมาณคุณสมบัติของโปรไบโอติกเซลล์ เช่น hydrophobicity อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีการเลือกสายพันธุ์ที่ มีอักขระกาวบวกก่อนดังนั้น โมเดลเหล่านี้ไม่สามารถให้เรามีความคิดที่สมจริงของเงื่อนไขซับซ้อนของลำไส้ใหญ่ ขณะพิจารณาไม่เพียงแต่สำหรับลูเมนลำไส้แต่สำหรับอุปสรรคที่เยื่อบุผิวควบคุมค่า pH faecal ชุดวัฒนธรรมดำเนินการเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของบาซิลลัส L. C4 ในมนุษย์ colonicจุลินทรีย์ Lactobacillus rhamnosus GG การเปรียบเทียบกับการพันธุ์ที่ใช้วัฒนธรรมช่วยในการทำงานผลิตภัณฑ์จากนมและรู้จักมีคุณสมบัติกาวดี (จาบอก et al. 1999)เราวัดการปรับเปลี่ยนในระดับของเลือกจุลินทรีย์กลุ่ม โดยการเรืองแสงในรูปทรง hybridisation (ปลา), ประเมินผลบริหารโปรไบโอติกใน SCFA ผลิต และสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญ และการเปลี่ยนแปลงประชากรจุลินทรีย์ใน Concomitantly ฝ่ามือตัวละครและความสามารถของเซลล์แบคทีเรียทั้งในหลอดทดลองไปปฏิบัติมีการตรวจสอบเซลล์ Caco 2พิจารณาว่าเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองสายพันธุ์บาซิลลัส L.C4 และผลิตภัณฑ์อาจมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์เพื่อให้ผลประโยชน์ที่คล้ายกัน หรือสูงกว่าผู้สังเกต โดย L. rhamnosus GG

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความไม่สงบในองค์ประกอบที่ซับซ้อนนี้
ประชากรของจุลินทรีย์อย่างไรก็ตามสามารถจูงใจไปสู่
ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและความผิดปกติของลำไส้ (แฟรงก์, et al.,
2011; Tilg 2010. Turnbaugh et al, 2006) โปรไบโอติกมีจำนวน
ของผลกระทบต่อสุขภาพที่เป็นประโยชน์ในคนและสัตว์ที่นำไปสู่
สุขภาพที่ดีขึ้นลำไส้และสุขภาพที่ดี (Bergillos-Meca, Navarro-
Alarc บน, et al, 2013;?. เชียรและแพน 2012; Hickson 2011)
แลคโตบาซิลลัสจำพวกมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความปลอดภัยในการผลิต
ของผลิตภัณฑ์นม (Masco, Huys เดอแบรนด์ Temmerman และชิงช้า,
2005 วอห์นและ Mollet, 1999) ในบริบทนี้สมมุติโปรไบโอติก
สายพันธุ์แลคโตบาซิลลัส plantarum C4 ที่แยกจากการค้า
kefir จะถูกทดสอบ สายพันธุ์นี้อาจจะมีความสำคัญสูงสำหรับ
อุตสาหกรรมนมและสำหรับการดูแลสุขภาพเนื่องจากมันตอบสนองใน vitrocriteria สำหรับการเลือกของแบคทีเรียโปรไบโอติกที่มีประสิทธิภาพที่อาจเกิดขึ้นที่
มียาต้านจุลชีพและคุณสมบัติภูมิคุ้มกันเลต (ฟู
et al, 2008;. Puertollano et al, 2008) แบคทีเรียนี้จะถูก
ทดสอบเป็นโปรไบโอติกที่เป็นไปได้ที่จะเพิ่มในการทำงานหมัก
นมไขมันต่ำแพะตามที่รายงานโดย Bergillos-Meca, Moreno-
Montoro, et al (2013) นมไขมันต่ำได้รับก่อนหน้านี้พบว่า
จะเป็นยานพาหนะที่เหมาะสมสำหรับการบริหารกระเพาะอาหารของ
แลคโตหนู (Bujalance, โมเรโนจิม? enez วาเลร่าและ Ruiz-
ไชโย 2007).
กรดห่วงโซ่สั้นไขมัน (SCFA) ผลิตภัณฑ์หลัก ที่เกิดจาก
การหมักจุลินทรีย์ของคาร์โบไฮเดรตสามารถให้พลังงานแก่
เยื่อบุผิวลำไส้ใหญ่, ปรับคอเลสเตอรอลและการเผาผลาญไขมัน
ปราบปรามแบคทีเรียในลำไส้ทำให้เกิดโรคและการปรับภูมิคุ้มกัน
ระบบ (ซัลลาซาร์ et al., 2009) ค่า pH ควบคุมวัฒนธรรมอุจจาระชุด
ช่วยให้การตัดสินใจของ fermentability ของพื้นผิวต่าง ๆ ใน
เซลล์ลำไส้จำลองสภาพในปลายมนุษย์
ลำไส้ใหญ่ อย่างไรก็ตามการทำเครื่องหมายที่แตกต่างกันสามารถอยู่ได้เนื่องจากโปรไบโอติก
ยึดมั่นกับเซลล์เยื่อบุผิวและอุปสรรคในลำไส้ซึ่ง
อาจมีผลต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับโฮสต์และจุลินทรีย์
ในปัจจุบันอยู่ในนั้น (Deepika, สีเขียว, Frazier &
Charalampopoulos 2009; Ouwehand, Kirjavainen, Gronlund,
Isolauri และ Salminen, 1999) กระบวนการนี้ไม่สามารถนำมา
จำลองในระบบของเรือ ในทางตรงกันข้ามในการตรวจหลอดทดลองกับสาย theCaco-2 ถือได้ถูกนำมาใช้เพื่อการศึกษาการยึดมั่นของ
เซลล์แบคทีเรียไป monolayer ลำไส้ (Deepika, Rastall และ
Charalampopoulos 2011; Deepika et al, 2009;. Ren, et al, 2012. ).
นอกจากนี้ยังได้รับการตั้งสมมติฐานว่าหลายทางเคมีกายภาพ
คุณสมบัติของเซลล์โปรไบโอติกเช่นไฮโดร, อาจจะเป็น
ตัวบ่งชี้ที่ดีที่จะเลือกก่อนสายพันธุ์ด้วยตัวอักษรกาวบวก.
ดังนั้นรูปแบบเหล่านี้จะทำให้เรามีความคิดที่สมจริงมากขึ้นของ
เงื่อนไขที่ซับซ้อนของ ลำไส้ใหญ่ในขณะที่ไม่เพียง แต่สำหรับ
เซลล์ลำไส้ แต่ยังสำหรับอุปสรรคเยื่อบุผิว.
ค่า pH ควบคุมวัฒนธรรมชุดอุจจาระได้ดำเนินการในการตรวจสอบ
อิทธิพลของ L. plantarum C4 ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์
microbiota ในการเปรียบเทียบกับ Lactobacillus rhamnosus GG เป็น
สายพันธุ์กันอย่างแพร่หลาย ใช้เป็นวัฒนธรรมเสริมในผลิตภัณฑ์นมทำงาน
และรู้จักกันจะมีคุณสมบัติกาวที่ดี (จาคอป et al., 1999).
เราวัดการปรับเปลี่ยนในระดับของจุลินทรีย์ที่เลือก
กลุ่มโดยการเรืองแสงในแหล่งกำเนิด hybridisation (FISH) การประเมินผลกระทบ
ของโปรไบโอติก การบริหารการผลิต SCFA และ
สร้างความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญอาหารและ
การเปลี่ยนแปลงในประชากรของจุลินทรีย์ ร่วมกัน, ไม่ชอบน้ำ
ตัวละครและความสามารถของทั้งสองเซลล์แบคทีเรียที่จะปฏิบัติตามในหลอดทดลองเพื่อ
Caco-2 เซลล์ถูกตรวจสอบ.
สายพันธุ์ทั้งสองได้รับการพิจารณาในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจถ้า L. plantarum
C4 และผลิตภัณฑ์ของ บริษัท อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง microbiota ที่จะให้
ผลประโยชน์ที่คล้ายกันหรือสูงกว่าเพื่อ ที่พบโดยแอล rhamnosus GG