Compaction of biomass through pelle

Compaction of biomass through pelletization leads to the formation of a carbon neutral fuel with higher density. The aim of this present work was to determine the extent of influence of pelletizing pressure on pellet density and alteration of higher heating value (gross heat of combustion) of pellets. Eight species of wood sawdust and different compression pressures were used in pellet preparation. The sizes and mass of compressed samples were measured to calculate the pellet density and oxygen bomb calorimeter were used to determine higher heating value. Pellet density was seen to increase radically at first and then gradually with the increase of pelletizing pressure. In case of heating value, with increase in pelletizing pressure no definite trend was observed among the compressed biomass species. The pattern of bonding between biomass particles is the main factor influencing heat of combustion. The alteration of chemical composition, quantity of moisture and extractives, prevalence of favourable condition for lignin flow, migration of extractives to the surface and the presence of inter-particle gaps and voids affect the bonding quality. These factors differ from one biomass species to another which eventually leads to variation in higher heating value pattern.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระชับข้อมูลของชีวมวลโดย pelletization นำไปสู่การก่อตัวของเชื้อเพลิงที่เป็นกลางของคาร์บอน มีความหนาแน่นสูง จุดมุ่งหมายของงานนำเสนอนี้คือการ กำหนดขอบเขตของอิทธิพลของความดันความหนาแน่นของเม็ดและเทียบความร้อนค่า (รวมของความร้อนเผาไหม้) ของขี้ pelletizing พันธุ์ไม้ขี้เลื่อยและแรงกดดันต่าง ๆ รวมแปดถูกใช้ในการเตรียมเม็ด ขนาดและมวลของตัวอย่างที่บีบอัดถูกวัดเพื่อคำนวณความหนาแน่นของเม็ดและแคลอรีมิเตอร์ระเบิดออกซิเจนถูกใช้เพื่อกำหนดค่าความร้อนสูง ความหนาแน่นของเม็ดที่เห็นเพิ่มขึ้นก็ตอนแรกแล้วค่อย ๆ มีเพิ่ม pelletizing ความดัน ในกรณีที่ค่าความร้อน มีเพิ่ม pelletizing ดัน แนวโน้มไม่แน่นอนถูกสังเกตระหว่างชนิดบีบอัดชีวมวล รูปแบบของงานระหว่างอนุภาคมวลชีวภาพเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการเผาไหม้ของความร้อน เปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมี ปริมาณความชื้นและ extractives ชุกสภาพดีสำหรับกระแส lignin ย้ายของ extractives พื้นผิวและของช่องว่างระหว่างอนุภาคและ voids ผลคุณภาพงาน ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างจากชีวมวลหนึ่งชนิดอื่นซึ่งในที่สุดนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในความร้อนสูงรูปแบบมูลค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รถบดชีวมวลผ่านเพลเล็ตจะนำไปสู่​​การก่อตัวของคาร์บอนเชื้อเพลิงกลางที่มีความหนาแน่นสูง จุดมุ่งหมายของงานวิจัยนี้คือการกำหนดขอบเขตของอิทธิพลของความดันอัดกับความหนาแน่นของเม็ดและการเปลี่ยนแปลงของค่าความร้อนที่สูงขึ้น (ขั้นต้นความร้อนจากการเผาไหม้) เม็ด แปดสายพันธุ์ของขี้เลื่อยไม้และแรงกดดันบีบอัดที่แตกต่างกันถูกนำมาใช้ในการเตรียมเม็ด ขนาดและมวลของกลุ่มตัวอย่างที่ถูกบีบอัดวัดความหนาแน่นของเม็ดคำนวณและออกซิเจนระเบิดความร้อนถูกนำมาใช้ในการกำหนดค่าความร้อนที่สูงขึ้น ความหนาแน่นของเม็ดก็เห็นว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในตอนแรกแล้วค่อยๆมีการเพิ่มขึ้นของความดันอัด ในกรณีที่มีค่าความร้อนด้วยการเพิ่มความดันอัดไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนเป็นข้อสังเกตในหมู่สายพันธุ์ชีวมวลอัด รูปแบบของการเชื่อมระหว่างอนุภาคชีวมวลเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลความร้อนจากการเผาไหม้ การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางเคมีปริมาณความชื้นและสารแทรกความชุกของเงื่อนไขที่ดีสำหรับการไหลของลิกนินการย้ายถิ่นของสารแทรกกับพื้นผิวและการปรากฏตัวของช่องว่างระหว่างอนุภาคและช่องว่างมีผลต่อคุณภาพพันธะ ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างจากชนิดหนึ่งไปยังอีกชีวมวลซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่​​การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบที่มีค่าความร้อนที่สูงขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การบดอัดชีวมวลผ่านของนำไปสู่การก่อตัวของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นกลางความหนาแน่นสูงกว่า . จุดมุ่งหมายของงานวิจัยนี้คือ เพื่อศึกษาขอบเขตของอิทธิพลของความดันและความหนาแน่นของเม็ด Pelletizing การเปลี่ยนแปลงของค่าความร้อนสูงกว่าความร้อนรวมของการเผาไหม้ ) ของเม็ดแปดชนิดของขี้เลื่อยไม้และแรงกดดันของการบีบอัดที่แตกต่างกันที่ใช้ในการเตรียมเม็ด ขนาดและมวลของอัดเม็ดจำนวนวัดคำนวณความหนาแน่นและวัดความร้อนระเบิดออกซิเจนถูกใช้เพื่อตรวจสอบค่าความร้อนสูง ความหนาแน่นของเม็ดที่เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในตอนแรกแล้วค่อย ๆ กับการเพิ่มขึ้นของ Pelletizing ความดันในกรณีของค่าความร้อน กับเพิ่มความดัน Pelletizing ไม่แน่นอนแนวโน้มสังเกตระหว่างอัดชีวมวลชนิด รูปแบบของพันธะระหว่างอนุภาคชีวมวลเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อความร้อนของการเผาไหม้ การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางเคมี ปริมาณความชื้น และ extractives , ความชุกของภาวะที่ดีสำหรับปริมาณการไหลการย้ายถิ่นของ extractives ไปยังพื้นผิวและมีช่องว่างและช่องว่างระหว่างอนุภาคมีผลกระทบต่อคุณภาพ ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างจากชีวมวลชนิดอื่นซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบค่าความร้อนสูง