A relational database is a database

A relational database is a database that groups data using common attributes found in the data set. The resulting "clumps" of organized data are much easier for people to understand. For example, a data set containing all the real estate transactions in a town can be grouped by the year the transaction occurred; or it can be grouped by the sale price of the transaction; or it can be grouped by the buyer's last name; and so on. Such a grouping uses the relational model (a technical term for this is schema). Hence such a database is called a "relational database”. The software used to do this grouping is called a relational database management system. The term "relational database" often refers to this type of software. Relational databases are currently the predominant choice in storing financial records, manufacturing and logistical information, personnel data and much more.Relational Database Model ConceptThe relational model represents the database as a collection of relations. Informally, each relation resembles a table of values or, to some extent a “flat” file of record. For example, the university database of files that was shown earlier is considered to be in the relational model. However, there are important differences between relations and files, as we shall soon see.When a relation is thought of as a table of values, each row in the table represents a collection of related data values. In the relational model, each row in the tablerepresents a fact that typically corresponds to a real-world entity or relationship. The table name and column names are used to help in interpreting the meaning of the row which represents facts about a particular student entity. The column names - Name, Student, Number, Class, Major - specify how to interpret the data values in each row, based on the column each value is in. All values in a column are of the same data type.In the formal relational model terminology, a row is called a tuple, a column header is called an attribute, and the table is called a relation. The data type describing the types of values that can appear in each column is called a domain.Domains, Attributes, Tuples, & RelationsA domain D is a set of atomic values. By atomic we mean that each value in the domain is indivisible as far as the relational model is concerned. A common method of specifying a domain is to specify a data type from which the data values forming the domain are drawn. It is also useful to specify a name for the domain, to help in interpreting its values. Some examples of domains follow:-GSM phone-numbers: The set of 11-digit numbers valid in the Nigeria. E.g. 0803-5040- 707.Local-phone-numbers: The set of 6-digit phone numbers valid within a particular area code in Nigeria. E.g. 245290Names: The set of names of persons.Grade-point-averages: Possible values of computed grade point averages; each must be a real (floating point) number between 0 and 5Employee-ages: Possible ages of employees of a company, each must be a value between 18 and 65 years oldAcademic-department-names: The set of academic department names, such a computer science, economics and physics, in a university.•Academic-department-codes: The set of academic department codes, such as CSC,ECON, and PHYS, in a university.The preceding are called logical definitions of domains. A data type of format is also specified on each domain. For example, the data type for the domain GSM phone-numbers can be declared as a character string of the form (dddd)dddd-ddd, e.g. 0803-5640-707 where each d is a data type. For Employee-ages, the data type is an integer number between 18 and 65, for Academic-department-names, the data type is the set of all character strings that represent valid department names. A domain is thus given a name, data type, and format. Additional information for interpreting the values of a domain can also be given. For example, a numeric domain such as person-weights should have the units of measurement kilograms.A relations schema, denoted by , is made up of a relation name R and a list of attributes .Each attributes is the name of a role played by some domain in the relation schema is called the domain of, and is denoted by ( ). A relation schema is used to describe a relation is called the name of this relations. The degree of a relation is the number of attributes of its relation schema.An example of a relation schema for a relation of degree 7, which describes university students, is the following:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นฐานข้อมูลที่จัดกลุ่มข้อมูลโดยใช้คุณลักษณะทั่วไปที่พบในชุดข้อมูล การเกิด "กระจุก" ของข้อมูลจัดง่ายมากสำหรับคนที่จะเข้าใจได้ ตัวอย่าง ชุดข้อมูลประกอบด้วยธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในเมืองสามารถจัดกลุ่มตามปีที่ธุรกรรมเกิดขึ้น หรือสามารถจัดกลุ่ม โดยราคาขายของธุรกรรม หรือสามารถจัดกลุ่มตามชื่อสกุลของผู้ซื้อ และอื่น ๆ การจัดกลุ่มใช้แบบจำลองเชิงสัมพันธ์ (ศัพท์ทางวิชาการนี้เป็นเค้าร่าง) ดังนั้น จะถูกเรียกว่า "ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์" ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการทำการจัดกลุ่มเรียกว่าระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คำว่า "ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์" มักจะหมายถึงซอฟต์แวร์ประเภทนี้ ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์กำลังเลือกกันในการเก็บบันทึกทางการเงิน ข้อมูล logistical และผลิต ข้อมูลบุคลากร และอื่น ๆConceptThe แบบจำลองฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์รุ่นเชิงแสดงฐานข้อมูลเป็นชุดของความสัมพันธ์ บาง แต่ละความสัมพันธ์คล้ายกับตาราง ของค่า หรือ ในบางกรณีแฟ้ม "แบน" ของเรกคอร์ด ตัวอย่าง ฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยของแฟ้มที่ถูกแสดงก่อนหน้านี้ถือว่าอยู่ในรูปแบบเชิงสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างความสัมพันธ์แฟ้ม ดังที่เราจะเห็นเร็ว ๆ นี้เมื่อความสัมพันธ์เป็นความคิดของตารางค่า แต่ละแถวในตารางแสดงชุดของค่าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ แต่ละแถวใน tablerepresents ความจริงที่สอดคล้องกับโลกจริงเอนทิตีหรือความสัมพันธ์โดยทั่วไป ชื่อตารางและชื่อคอลัมน์จะใช้เพื่อช่วยในการทำนายความหมายของแถวที่แสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอนทิตีนักศึกษาเฉพาะ คอลัมน์ชื่อ -ชื่อ นักเรียน เลข เรียน วิชา - ระบุวิธีการแปลค่าข้อมูลในแต่ละแถว ตามคอลัมน์แต่ละค่าอยู่ใน ค่าทั้งหมดในคอลัมน์ที่มีชนิดข้อมูลเดียวกันในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์ทางคำศัพท์ แถวเรียกว่าทูเพิล ส่วนหัวของคอลัมน์เรียกว่าแอตทริบิวต์ และตารางเรียกว่าความสัมพันธ์ ชนิดข้อมูลอธิบายชนิดของค่าที่ปรากฏในแต่ละคอลัมน์เรียกว่าโดเมนโดเมน คุณลักษณะ Tuples & RelationsA โดเมน D คือ ชุดของค่าอะตอม โดยอะตอมเราเป็นหมายความ ว่า แต่ละค่าในโดเมน indivisible เป็นที่แบบจำลองเชิงสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน วิธีการระบุโดเมนทั่วไปคือการ ระบุชนิดข้อมูลที่ค่าข้อมูลเป็นโดเมนจะวาด ยังเป็นประโยชน์เมื่อต้องการระบุชื่อโดเมน เพื่อช่วยในการทำนายค่าของ ทำตามตัวอย่างของโดเมน: -หมายเลขโทรศัพท์ GSM: ชุดตัวเลข 11 หลักถูกต้องในประเทศไนจีเรีย เช่น 0803-5040-707.Local--หมายเลขโทรศัพท์: ชุดโทรศัพท์ 6 หลักตัวเลขที่ถูกต้องภายในรหัสพื้นที่เฉพาะในไนจีเรีย 245290Names เช่น: การตั้งชื่อของท่านเกรดจุดค่าเฉลี่ย: ค่าเป็นไปได้ของค่าเฉลี่ยจากการคำนวณเกรดจุด ละต้องจริง (ทศนิยม) หมายเลขระหว่าง 0 ถึง 5Employee อายุ: สุดอายุของพนักงานของบริษัท แต่ละต้องมีค่าระหว่าง 65 และ 18 ปี oldAcademic-แผนกชื่อ: ตั้งชื่อกรมวิชาการ เช่นวิทยาการคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ และ ฟิสิกส์ ในมหาวิทยาลัย •Academic-ภาค-รหัส: ชุดของรหัสแผนกวิชาการ CSC ชโรด และมีอยู่ จริง ในมหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้เรียกว่าข้อกำหนดแบบลอจิคัลของโดเมน ยังมีระบุชนิดข้อมูลของรูปแบบในแต่ละโดเมน ตัวอย่าง ชนิดข้อมูลสำหรับโดเมนหมายเลขโทรศัพท์ GSM สามารถถูกประกาศเป็นสายอักขระของแบบฟอร์ม (วววว) วววว-ddd เช่น 0803-5640-707 ซึ่งแต่ละ d เป็นชนิดข้อมูล พนักงานอายุ ชนิดข้อมูลเป็นหมายเลขจำนวนเต็มระหว่าง 18 และ 65 วิชาการกรมชื่อ ชนิดข้อมูลเป็นชุดของสายอักขระที่แสดงถึงชื่อกรมที่ถูกต้อง จึงมีกำหนดโดเมนชื่อ ชนิดข้อมูล และรูปแบบ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการทำนายค่าของโดเมน ตัวอย่าง โดเมนเช่นคนน้ำหนักตัวควรมีหน่วยวัดกิโลกรัมแบบแผนความสัมพันธ์ สามารถบุ โดย ขึ้นเป็นชื่อของความสัมพันธ์ R และรายการของแอตทริบิวต์แต่ละแอททริบิวต์คือ ชื่อของบทบาทที่เล่น โดยบางโดเมนในแบบแผนความสัมพันธ์เรียกว่าโดเมนของ และสามารถระบุ โดย() ใช้แบบแผนความสัมพันธ์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์คือชื่อของความสัมพันธ์นี้ ระดับของความสัมพันธ์คือ จำนวนของแอตทริบิวต์ของ schema ของความสัมพันธ์ตัวอย่างของแบบแผนความสัมพันธ์สำหรับความสัมพันธ์ของระดับ 7 ซึ่งอธิบายถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฐานข้อมูลเป็นฐานข้อมูลที่กลุ่มข้อมูลโดยใช้คุณลักษณะทั่วไปที่พบในชุดข้อมูล ผลลัพธ์ " กระจุก " ของการจัดระเบียบข้อมูลจะง่ายมากสำหรับคนที่จะเข้าใจ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลที่มีทั้งหมดการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในเมืองสามารถจัดกลุ่มโดยปีธุรกรรมที่เกิดขึ้น หรือมันสามารถถูกจัดกลุ่มตามราคาขายของธุรกรรมหรือมันสามารถถูกจัดกลุ่มตามนามสกุลของผู้ซื้อ และ เช่นการใช้แบบจำลองเชิงสัมพันธ์ ( ศัพท์เทคนิคนี้มา ) ดังนั้นเช่นฐานข้อมูลเรียกว่า " ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำ แบบนี้เรียกว่าเป็นฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ระบบการจัดการ คำว่า " ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ " มักจะหมายถึงชนิดของซอฟต์แวร์นี้ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์เป็นทางเลือกที่เด่นในการจัดเก็บข้อมูลทางการเงิน , การผลิตและข้อมูล logistical บุคลากรข้อมูลและอื่น ๆอีกมากมาย สัมพันธ์ ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์เป็น conceptthe รูปแบบฐานข้อมูลเป็นชุดของความสัมพันธ์ แบบเป็นกันเอง แต่ละความสัมพันธ์ที่มีลักษณะคล้ายกับตารางมูลค่าหรือมีขอบเขตแฟ้ม " แบน " ของการบันทึก ตัวอย่างเช่นมหาวิทยาลัยฐานข้อมูลของแฟ้มที่แสดงก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นโมเดลเชิงสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างไฟล์ประชาสัมพันธ์ และ เราก็จะเห็นทันที เมื่อความสัมพันธ์ คือ คิดเป็นตารางของค่าแต่ละแถวในตาราง หมายถึง ชุดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องค่า ในแบบจำลองเชิงสัมพันธ์แต่ละแถวใน tablerepresents ความจริงที่มักจะสอดคล้องกับโลกแห่งความจริง นิติบุคคล หรือความสัมพันธ์ ชื่อตารางและคอลัมน์ชื่อจะถูกใช้เพื่อช่วยในการตีความ ความหมายของแถวที่แสดงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการนักเรียนโดยเฉพาะ คอลัมน์ชื่อ - ชื่อ , นักเรียน , จำนวน , ชั้นเรียน , หลัก - กำหนดวิธีการที่จะตีความข้อมูลค่าในแต่ละแถวจากคอลัมน์แต่ละค่าคืออะไร ค่าในคอลัมน์ของข้อมูลชนิดเดียวกัน ในรูปแบบเป็นทางการเชิงความหมาย แถวเรียกว่า ทูเปิล เป็นส่วนหัวของคอลัมน์ชื่อแอตทริบิวต์ และโต๊ะเรียกว่าความสัมพันธ์ ข้อมูลประเภทที่อธิบายถึงประเภทของค่านิยมที่ปรากฏในแต่ละคอลัมน์เรียกว่าโดเมน โดเมนแอตทริบิวต์ทูเปิล , , ,& relationsa โดเมน D คือชุดของค่าอะตอม โดยอะตอม เราหมายถึงว่า แต่ละค่าในชื่อโดเมนคือ แบ่งแยกเป็นโมเดลเชิงสัมพันธ์เกี่ยวข้อง วิธีการทั่วไปของการระบุโดเมนคือการระบุชนิดของข้อมูลจากข้อมูลที่ค่าเป็นโดเมนจะวาด ยังเป็นประโยชน์ในการกำหนดชื่อสำหรับโดเมน เพื่อช่วยในการตีความค่าของตัวอย่างบางส่วนของโดเมนต่อไปนี้ : -- GSM โทรศัพท์หมายเลข : ชุดของตัวเลข 11 หลักที่ถูกต้องในไนจีเรีย เช่น 0803-5040 - 707.local-phone-numbers : ชุด 6-digit หมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกต้องภายในรหัสพื้นที่หนึ่งในไนจีเรีย เช่น 245290names : ชุดของชื่อ persons.grade-point-averages : ค่าที่เป็นไปได้ของคำนวณเกรดเฉลี่ย ;แต่ละคนต้องมีจริง ( จุดลอย ) เลขระหว่าง 0 และ 5employee วัย : วัยที่เป็นไปได้ของพนักงานของ บริษัท แต่ละคนจะต้องเป็นค่าระหว่าง 18 ถึง 65 ปี กรม oldacademic ชื่อ : ชุดของชื่อหน่วยงานวิชาการ เช่น คอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และฟิสิกส์ ในมหาวิทยาลัย รหัสแผนกวิชาการ - : กำหนดรหัสแผนกวิชาการเช่น CSC Econ , และอุปกรณ์ , ,ในมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมา เรียกว่านิยามตรรกะของโดเมน เป็นข้อมูลชนิดของรูปแบบยังระบุในแต่ละโดเมน ตัวอย่างเช่นประเภทข้อมูลสำหรับโดเมนโทรศัพท์ GSM เบอร์สามารถประกาศเป็นสายอักขระของฟอร์ม ( dddd dddd DDD ) เช่น 0803-5640-707 ซึ่งแต่ละ D เป็นชนิดข้อมูล สำหรับพนักงานอายุ ชนิดข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็มระหว่าง 18 และ 65 ,ชื่อแผนกวิชาการ , ชนิดข้อมูลเป็นชุดของสตริงอักขระที่แสดงชื่อแผนกที่ถูกต้อง โดเมนจึงได้รับชื่อ , ประเภท , ข้อมูลและรูปแบบ ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการตีความค่าของโดเมนยังสามารถได้รับ ตัวอย่างเช่นโดเมนตัวเลขเช่นคนน้ำหนักควรมีหน่วยกิโลกรัมการวัด ความสัมพันธ์ระหว่างแบบแผน กล่าวคือ โดยถูกสร้างขึ้นจากความสัมพันธ์ชื่อและรายการของคุณลักษณะ แต่ละลักษณะ เป็นชื่อของบทบาทที่เล่นโดยบางโดเมนในความสัมพันธ์สามารถเรียกว่าโดเมน และเขียนโดย ( ) ความสัมพันธ์ที่ง่ายคือใช้เพื่ออธิบายความสัมพันธ์นั่นคือชื่อของความสัมพันธ์ ระดับของความสัมพันธ์ คือ จํานวนคุณลักษณะของความสัมพันธ์สคีมาตัวอย่างของความสัมพันธ์ schema สำหรับความสัมพันธ์ของระดับ 7 ซึ่งอธิบายนักเรียนมหาวิทยาลัย ดังต่อไปนี้