According to a study conducted by t

According to a study conducted by the Association of
Certified Fraud Examiners (ACFE), fraudulent financial
statements accounts for approximately 10% of incidents
concerning white collar crime. Asset misappropriation and
corruption attend to occur at much greater frequency, yet the
financial impact of these latter crimes is much less severe.
ACFE defines fraud as “the deliberately misrepresentation of
financial condition of an enterprise, by intentionally
misstating or omitting amounts disclosures in the financial
statements so as to deceive their users”. Fraud’s effect on an
organization’s bottom line is just the tip of the iceberg.
Without a proactive approach to combating fraud, the ability
to gain and to maintain customer loyalty is almost
non-existent [1]. Additionally, organizations are said to lose
an average of six percent of their annual revenue to fraud and
abuse committed by internal employees. A proactive
approach to fraud identification is the only way to address
and to lessen the effect of fraud on organizations today.
Sophisticated techniques and methods are utilized to build a
financial profile of a suspected fraudster [2].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามการศึกษาที่ดำเนินการ โดยสมาคมฉ้อฉลนาย (ACFE), หลอกลวงได้รับการรับรองทางการเงินบัญชีงบประมาณ 10% ของปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมคอสีขาว ฐานยักยอกทรัพย์สินทรัพย์ และความเสียหายร่วมให้เกิดขึ้นที่ความถี่สูงมาก แต่การผลกระทบทางการเงินอาชญากรรมหลังเหล่านี้จะรุนแรงมากน้อยทุจริตเป็นกำหนดของ ACFE "จงใจ misrepresentation ของเงื่อนไขทางการเงินขององค์กร โดยตั้งใจmisstating หรือรัฐบาลเผยยอดเงินในทางการเงินงบเพื่อหลอกลวงผู้ใช้ของพวกเขา" ผลของทุจริตการบรรทัดล่างสุดขององค์กรเป็นเพียงการแนะนำส่วนเล็ก ๆไม่ มีวิธีการเชิงรุกเพื่อการทุจริต ความสามารถในการต่อสู้เพื่อเพิ่ม และรักษาลูกค้าสมาชิกได้เกือบไม่มีอยู่จริง [1] นอกจากนี้ กล่าวว่า องค์กรต้องสูญเสียเฉลี่ยร้อยละ 6 ของรายได้ประจำปีของการทุจริต และละเมิดโดยพนักงานภายใน แบบเชิงรุกวิธีการโกงรหัสเป็นวิธีเดียวที่จะอยู่และ เพื่อลดผลของทุจริตองค์กรวันนี้เทคนิคที่ซับซ้อนและวิธีใช้เพื่อสร้างความประวัติทางการเงินของ fraudster สงสัย [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากการศึกษาที่จัดทำโดยสมาคมการตรวจสอบการทุจริตได้รับการรับรอง (ACFE) การเงินฉ้อโกงงบบัญชีสำหรับประมาณ10% ของการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมปกสีขาว ยักยอกสินทรัพย์และการทุจริตเข้าร่วมจะเกิดขึ้นที่ความถี่มากขึ้นมากแต่ผลกระทบทางการเงินของการก่ออาชญากรรมหลังเหล่านี้จะรุนแรงน้อยลง. ACFE กำหนดการทุจริตเป็น"บิดเบือนความจริงเจตนาของสภาพทางการเงินขององค์กรโดยเจตนาmisstating หรือละเว้นการเปิดเผยจำนวนเงินในทางการเงินงบเพื่อหลอกลวงผู้ใช้ของพวกเขา". ทุจริต'ผล s ในองค์กร' บรรทัดล่างคือเพียงปลายของภูเขาน้ำแข็ง. โดยไม่ต้องมีวิธีการเชิงรุกในการต่อสู้กับการทุจริตความสามารถในการที่จะได้รับและเพื่อรักษาความภักดีของลูกค้าเกือบจะไม่มีอยู่จริง[1] นอกจากนี้องค์กรที่มีการกล่าวว่าจะสูญเสียเฉลี่ยร้อยละหกของรายได้ประจำปีของพวกเขาจากการทุจริตและการละเมิดที่กระทำโดยพนักงานภายใน เชิงรุกวิธีการระบุการทุจริตเป็นวิธีเดียวที่จะอยู่และที่จะช่วยลดผลกระทบของการทุจริตในองค์กรในวันนี้. เทคนิคที่มีความซับซ้อนและวิธีการที่ใช้ในการสร้างสถานะทางการเงินของผู้ต้องสงสัยฉ้อฉล [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามการศึกษาที่ดำเนินการโดยสมาคมผู้ตรวจสอบการทุจริต
รับรอง ( acfe ) , หลอกลวงทางการเงิน
งบบัญชีประมาณ 10% ของเหตุการณ์
เกี่ยวกับอาชญากรรมคอเชิ้ตขาว การยักยอกทรัพย์สินและการทุจริตเข้าร่วม
เกิดขึ้นที่ความถี่มากขึ้น แต่ผลกระทบทางการเงินของการก่ออาชญากรรมหลังนี้

มีมากน้อย รุนแรงacfe กำหนดฉ้อโกง " เจตนาการบิดเบือนของ
สภาพทางการเงินขององค์กร โดยจงใจหรือละเว้นการเปิดเผยข้อมูลใน misstating

งบานทางการเงินเพื่อหลอกลวงผู้ใช้ " ของพวกเขา ผลการฉ้อโกงในบรรทัดด้านล่างเป็น
ขององค์กรเป็นเพียงปลายของภูเขาน้ำแข็ง .
โดยวิธีการเชิงรุกเพื่อการต่อต้านการทุจริต ความสามารถ
ที่จะได้รับและรักษาความจงรักภักดีของลูกค้าเกือบ
ไม่มี [ 1 ] นอกจากนี้ องค์กรจะสูญเสีย
เฉลี่ยร้อยละ 6 ของรายได้ต่อปีของการหลอกลวงและการละเมิดที่กระทำโดย
พนักงานภายใน วิธีการเชิงรุก
การจำแนกการทุจริตเป็นวิธีเดียวที่จะอยู่
และลดผลกระทบของการทุจริตในองค์กร
วันนี้ .เทคนิคที่ซับซ้อนและวิธีการที่ใช้ในการสร้างประวัติทางการเงินของสงสัย fraudster
[ 2 ]