Figure 5 shows the ascorbic acid co

Figure 5 shows the ascorbic acid content of the coated and uncoated tangerine citrus var. Siam Banjar during storage at 25°C and 5°C. The ascorbic acid content in both coated and uncoated fruits decreased gradually as storage period was prolonged. However, these differences were not statistically significant (p ≥ 0.05). The results show that at the end of the storage period, treatment 10 and 12% wax coating, stored either at 25°C or 5°C had relatively higher value of ascorbic acid compared to the control. However, treatment 15% wax coating had lower value of ascorbic acid compared to the control. After 35 day of storage, it was observed that the combination of 12% wax coating and storage at 5°C is the most effective in preventing ascorbic acid losses from fruits, which had the highest value of ascorbic acid (38.64 mg/100 ml). The same trend was also observed in the previous study by Ahmed et al. (2007) who reported that orange fruit coated with 30% jojoba oil can reduce the loss of ascorbic acid in Valencia orange fruits compared to those uncoated ones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 5 แสดงวิตามินที่เคลือบ และไม่เคลือบส้มเขียวหวานส้ม var. บันจาร์สยามระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25° C และ 5 องศาเซลเซียส เนื้อหาวิตามินซีในผลไม้ทั้งเคลือบ และไม่เคลือบลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุการเก็บได้นาน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างเหล่านี้ได้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p ≥ 0.05) ผลแสดงว่า เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บ รักษา 10 และ 12% ขี้ผึ้งเคลือบสี เก็บได้ที่อุณหภูมิ 25° C หรือ 5° C มีค่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการควบคุมกรดแอสคอร์บิค อย่างไรก็ตาม รักษา 15% ขี้ผึ้งเคลือบมีค่าที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการควบคุมกรดแอสคอร์บิค หลังจากวันที่ 35 ของการจัดเก็บ สังเกตว่า ชุดเคลือบขี้ผึ้ง 12% และเก็บที่อุณหภูมิ 5° C มากสุดในการป้องกันการสูญเสียวิตามินซีจากผลไม้ ซึ่งมีค่าสูงสุดของกรดแอสคอร์บิค (38.64 mg/100 ml) แนวโน้มเดียวกันยังพบว่า ในการศึกษาก่อนหน้านี้โดยอาเหม็ด et al. (2007) ที่รายงานว่า ผลไม้สีส้มที่เคลือบ ด้วยโจ้ 30% สามารถลดการสูญเสียกรดแอสคอร์บิคในวาเลนเซียส้มผลไม้เมื่อเปรียบเทียบกับผู้คนที่เคลือบผิว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 5 แสดงเนื้อหาวิตามินซีของเคลือบและไม่เคลือบผิวส้มเขียวหวานส้ม var สยาม Banjar ระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสและ 5 องศาเซลเซียส เนื้อหาวิตามินซีในผลไม้ทั้งเคลือบและไม่เคลือบผิวค่อยๆลดลงเป็นระยะเวลาการเก็บนานขึ้น อย่างไรก็ตามความแตกต่างเหล่านี้ไม่ได้มีนัยสำคัญทางสถิติ (p ≥ 0.05) ผลปรากฏว่าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลการรักษา 10 และ 12% เคลือบขี้ผึ้งเก็บไว้ที่ 25 ° C หรือ 5 องศาเซลเซียสมีค่าค่อนข้างสูงขึ้นของวิตามินซีเมื่อเทียบกับการควบคุม อย่างไรก็ตามการรักษาเคลือบขี้ผึ้ง 15% มีค่าที่ต่ำกว่าของวิตามินซีเมื่อเทียบกับการควบคุม หลังจาก 35 วันของการจัดเก็บมันก็ตั้งข้อสังเกตว่าการรวมกันของการเคลือบขี้ผึ้ง 12% และการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันการสูญเสียวิตามินซีจากผลไม้ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดของวิตามินซี (38.64 มก. / 100 มล.) . แนวโน้มเดียวกันยังพบว่าในการศึกษาก่อนหน้าโดยอาเหม็ดอัลเอต (2007) ที่รายงานว่าผลไม้สีส้มเคลือบด้วยน้ำมันโจโจบา 30% สามารถลดการสูญเสียวิตามินซีในผลไม้สีส้มวาเลนเซียเมื่อเทียบกับคนเหล่านั้นไม่เคลือบผิว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 5 แสดงปริมาณวิตามินซีของเคลือบและไม่เคลือบผิวส้มเขียวหวานพันธุ์สยาม Banjar ระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 25 ° C และ 5 ° C ปริมาณวิตามินซีในผลไม้ทั้งเคลือบและไม่เคลือบผิวลดลงค่อยๆเป็นระยะเวลาการเก็บนาน อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ( P ≥ 0.05 ) ผลการวิจัยพบว่าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษา 10 และ 12 % เคลือบขี้ผึ้งไว้ที่ 25 ° C หรือ 5 ° C ค่อนข้างสูงกว่าค่าของกรดแอสคอร์บิกเมื่อเทียบกับการควบคุม อย่างไรก็ตาม การรักษาขี้ผึ้งเคลือบได้ลด 15% ค่าของกรดแอสคอร์บิกเมื่อเทียบกับการควบคุม หลังจาก 30 วันของการเก็บรักษา พบว่า การรวมกันของการเคลือบขี้ผึ้ง 12 % และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศา C เป็นมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการป้องกันการสูญเสียวิตามินซี จากผลไม้ ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดของกรดแอสคอร์บิค ( 38.64 มก. / 100 มล. ) แนวโน้มเดียวกัน ก็ยังพบในการศึกษาก่อนหน้าโดยอาเหม็ด et al . ( 2007 ) ที่รายงานว่าส้มที่เคลือบด้วยน้ำมันโจโจ้บา 30 % สามารถลดการสูญเสียของวิตามินซีในผลไม้ส้มวาเลนเซียเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เคลือบที่