11.6.4 Swapping ElementsForwardIter

11.6.4 Swapping Elements
ForwardIterator2 swap_ranges (ForwardIterator1 beg1, ForwardIterator1 end1, ForwardIterator2 beg2) • Swapstheelementsintherange[beg1,end1)withthecorrespondingelementsstartingwithbeg2. • Returns the position after the last swapped element in the second range. • The caller must ensure that the second range is big enough. • Both ranges must not overlap. • To swap all elements of a container of the same type, use its swap() member function because the member function usually has constant complexity (see Section 8.4, page 407). • Complexity: linear (numElems swap operations). The following example demonstrates how to use swap_ranges

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

11.6.4 เปลี่ยนองค์ประกอบ
• swap_ranges (ForwardIterator1 beg1, ForwardIterator1 end1, ForwardIterator2 beg2) ForwardIterator2 Swapstheelementsintherange [beg1,end1) withthecorrespondingelementsstartingwithbeg2 •กลับตำแหน่งหลังจากสลับองค์สุดท้ายในช่วงที่สอง •ผู้เรียกต้องแน่ใจว่าช่วงที่สองมาก •ทั้งสองช่วงต้องไม่ทับซ้อนกัน •เปลี่ยนองค์ประกอบทั้งหมดของคอนเทนเนอร์ของชนิดเดียวกัน ใช้ฟังก์ชันสมาชิกของ swap() เนื่องจากฟังก์ชันสมาชิกมักจะมีความซับซ้อนคงที่ (ดูหัวข้อ 8.4 หน้า 407) •ความซับซ้อน: เชิงเส้น (numElems สลับการดำเนินการ) ตัวอย่างต่อไปนี้สาธิตวิธีการใช้ swap_ranges

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

11.6.4 สลับเปลี่ยนองค์ประกอบ
swap_ranges ForwardIterator2 (ForwardIterator1 beg1, ForwardIterator1 end1, ForwardIterator2 beg2) • Swapstheelementsintherange [beg1, end1) withthecorrespondingelementsstartingwithbeg2 •คืนตำแหน่งหลังจากองค์ประกอบสลับที่ผ่านมาอยู่ในช่วงที่สอง •โทรต้องให้แน่ใจว่าช่วงที่สองมีขนาดใหญ่พอ •ช่วงที่ทั้งสองจะต้องไม่ทับซ้อน •เพื่อสลับองค์ประกอบทั้งหมดของภาชนะบรรจุของชนิดเดียวกันให้ใช้แลกของ () ฟังก์ชันสมาชิกเพราะฟังก์ชันสมาชิกมักจะมีความซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง (ดูมาตรา 8.4, หน้า 407) •ซับซ้อน: เชิงเส้น (การดำเนินงาน numElems แลกเปลี่ยน) ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้ swap_ranges

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

11.6.4 เปลี่ยนองค์ประกอบ
forwarditerator2 swap_ranges ( forwarditerator1 beg1 forwarditerator1 end1 forwarditerator2 , , beg2 ) - swapstheelementsintherange [ beg1 end1 ) , withthecorrespondingelementsstartingwithbeg2 . - ค่าตำแหน่งหลังจากครั้งสุดท้ายที่เปลี่ยนธาตุในช่วงที่สอง บริการโทรต้องให้แน่ใจว่าช่วงที่สองมีขนาดใหญ่พอ - ทั้งช่วงจะต้องไม่ทับซ้อนกัน- เปลี่ยนองค์ประกอบทั้งหมดของภาชนะชนิดเดียวกันให้ใช้ฟังก์ชัน swap() สมาชิกเพราะฟังก์ชันสมาชิกมักจะมีความซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง ( ดูมาตรา 4 หน้า , 407 ) - ความซับซ้อน : เชิงเส้น ( numelems การดำเนินการสลับ ) ตัวอย่างต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้ swap_ranges