Niels Henrik David Bohr (Danish: [ˈ

Niels Henrik David Bohr (Danish: [ˈnels ˈboɐ̯ˀ]; 7 October 1885 – 18 November 1962) was a Danish physicist who made foundational contributions to understanding atomic structure and quantum theory, for which he received the Nobel Prize in Physics in 1922. Bohr was also a philosopher and a promoter of scientific research.[1]

Bohr developed the Bohr model of the atom, in which he proposed that energy levels of electrons are discrete and that the electrons revolve in stable orbits around the atomic nucleus but can jump from one energy level (or orbit) to another. Although the Bohr model has been supplanted by other models, its underlying principles remain valid. He conceived the principle of complementarity: that items could be separately analysed in terms of contradictory properties, like behaving as a wave or a stream of particles. The notion of complementarity dominated Bohr's thinking in both science and philosophy.

Bohr founded the Institute of Theoretical Physics at the University of Copenhagen, now known as the Niels Bohr Institute, which opened in 1920. Bohr mentored and collaborated with physicists including Hans Kramers, Oskar Klein, George de Hevesy and Werner Heisenberg. He predicted the existence of a new zirconium-like element, which was named hafnium, after the Latin name for Copenhagen, where it was discovered. Later, the element bohrium was named after him.

During the 1930s, Bohr helped refugees from Nazism. After Denmark was occupied by the Germans, he had a famous meeting with Heisenberg, who had become the head of the German nuclear energy project. In September 1943, word reached Bohr that he was about to be arrested by the Germans, and he fled to Sweden. From there, he was flown to Britain, where he joined the British Tube Alloys nuclear weapons project, and was part of the British mission to the Manhattan Project. After the war, Bohr called for international cooperation on nuclear energy. He was involved with the establishment of CERN[2] and the Research Establishment Risø of the Danish Atomic Energy Commission, and became the first chairman of the Nordic Institute for Theoretical Physics in 1957.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

David Niels เฮนริกจำลองของบอร์ (เดนมาร์ก: [ˈnels ˈboɐ̯ˀ]; 7 1885 ตุลาคม – 18 พฤศจิกายนพ.ศ. 2505) ถูก physicist เดนมาร์กที่ทำผลงาน foundational เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างอะตอมและทฤษฎีควอนตัม ซึ่งเขาได้รับรางวัลโนเบลในสาขาฟิสิกส์ในค.ศ. 1922 จำลองของบอร์ยังได้เป็นนักปราชญ์และโปรโมเตอร์ของงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ [1]จำลองของบอร์พัฒนาแบบจำลองของบอร์ของอะตอม ซึ่งเขาเสนอว่า ระดับพลังงานของอิเล็กตรอนจะแยกกัน และอิเล็กตรอนเกี่ยวข้องในวงโคจรมีเสถียรภาพกับนิวเคลียสอะตอม แต่สามารถกระโดดจากระดับพลังงาน (หนึ่งวงโคจร) ไปยังอีก ถึงแม้ว่าแบบจำลองของบอร์ได้รับ supplanted โดยรุ่นอื่น ๆ หลักการพื้นฐานยังคงถูกต้อง เขารู้สึกหลัก complementarity: ว่า สินค้าอาจจะแยก analysed ในคุณสมบัติขัดแย้ง เช่นพฤติกรรมที่เป็นคลื่นหรือกระแสของอนุภาค แนวคิดของ complementarity ครอบงำความคิดของจำลองของบอร์ทั้งวิทยาศาสตร์และปรัชญาจำลองของบอร์ก่อตั้งสถาบันของทฤษฎีฟิสิกส์ในมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ตอนนี้ เรียกว่า Niels จำลองของบอร์ สถาบัน ซึ่งเปิดในปี 1920 ที่ จำลองของบอร์พวก และร่วมมือกับ physicists ฮันส์ Kramers, Oskar Klein จอร์จ de Hevesy และ Werner Heisenberg เขาทำนายการมีอยู่ของใหม่องค์ประกอบเช่นเซอร์โคเนียม ซึ่งชื่อว่าแฮฟเนียม หลังชื่อละตินสำหรับโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นการค้นพบ ภายหลัง โบห์เรียมองค์ประกอบถูกตั้งชื่อหลังจากเขาในระหว่างช่วงทศวรรษ 1930 จำลองของบอร์ช่วยผู้ลี้ภัยจากนาซี หลังจากเดนมาร์กถูกครอบครอง โดยเยอรมัน เขามีการประชุมที่มีชื่อเสียงกับ Heisenberg ซึ่งได้กลายเป็นหัวหน้าโครงการพลังงานนิวเคลียร์เยอรมัน ในเดือน 1943 กันยายน คำถึงจำลองของบอร์ที่กำลังจะถูกจับกุม โดยเยอรมัน และเขาหนีไปสวีเดน จาก เขาได้บินไปอังกฤษ ที่เขาเข้าร่วมโครงการอาวุธนิวเคลียร์อังกฤษท่อโลหะ และเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษไปยังโครงการแมนฮัตตัน หลังจากสงคราม จำลองของบอร์เรียกความร่วมมือนานาชาติเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ เขาคือเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งองค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป [2] และ Risø สถานประกอบการวิจัยคณะกรรมการพลังงานปรมาณูเดนมาร์ก และเป็น ประธาน สถาบันนอร์ดิคแรกสำหรับฟิสิกส์ทฤษฎีใน 1957

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นีลส์เฮนริกเดวิดบอร์ (เดนมาร์ก: [Nels boɐ̯ˀ]; 7 ตุลาคม 1885 - 18 พฤศจิกายน 1962) เป็นนักฟิสิกส์ชาวเดนมาร์กที่ทำผลงานพื้นฐานในการทำความเข้าใจโครงสร้างอะตอมและทฤษฎีควอนตัมซึ่งเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1922 เป็นบอร์ ยังเป็นนักปรัชญาและโปรโมเตอร์ของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์. [1] Bohr พัฒนารูปแบบ Bohr ของอะตอมในการที่เขาเสนอว่าระดับพลังงานของอิเล็กตรอนที่มีต่อเนื่องและอิเล็กตรอนที่โคจรอยู่ในวงโคจรที่มั่นคงรอบนิวเคลียส แต่สามารถกระโดดจากที่หนึ่ง ระดับพลังงาน (หรือวงโคจร) ไปยังอีก แม้ว่ารูปแบบบอร์ได้รับการแทนที่ด้วยรุ่นอื่น ๆ หลักการพื้นฐานของมันยังคงถูกต้อง เขาคิดหลักการของ complementarity: รายการที่จะได้รับการวิเคราะห์แยกต่างหากในแง่ของคุณสมบัติขัดแย้งเช่นทำตัวเป็นคลื่นหรือกระแสของอนุภาค ความคิดของ complementarity ครอบงำความคิดของบอร์ทั้งในวิทยาศาสตร์และปรัชญา. บอร์ผู้ก่อตั้งสถาบันฟิสิกส์ทฤษฎีที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนที่รู้จักกันในขณะนี้เป็น Niels Bohr สถาบันซึ่งเปิดใน 1,920 Bohr ตนเองและร่วมมือกับนักฟิสิกส์รวมทั้งฮันส์ Kramers, ออสการ์ ไคลน์, จอร์จเดอ Hevesy และเวอร์เนอร์ไฮเซนเบิร์ก เขาคาดการณ์การดำรงอยู่ขององค์ประกอบเซอร์โคเนียมเหมือนใหม่ซึ่งเป็นชื่อฮาฟเนียมหลังจากละตินชื่อโคเปนเฮเกนที่มันถูกค้นพบ ต่อมาองค์ประกอบ bohrium ถูกตั้งชื่อตามเขา. ในช่วงทศวรรษที่ 1930, บอร์ช่วยผู้ลี้ภัยจากนาซี หลังจากเดนมาร์กถูกครอบครองโดยชาวเยอรมันเขามีการประชุมที่มีชื่อเสียงของไฮเซนเบิร์กซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของเยอรมัน ในเดือนกันยายนปี 1943 พูดถึงบอร์ว่าเขากำลังจะถูกจับโดยชาวเยอรมันและเขาหนีไปสวีเดน จากนั้นเขาก็บินไปอังกฤษที่เขาเข้าร่วมผสมหลอดอังกฤษโครงการอาวุธนิวเคลียร์และเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจอังกฤษโครงการแมนฮัตตัน หลังจากที่สงครามบอร์เรียกร้องให้มีความร่วมมือระหว่างประเทศในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการของเซิร์น [2] และจัดตั้งวิจัย Riso ของเดนมาร์กคณะกรรมาธิการพลังงานปรมาณูและกลายเป็นประธานคนแรกของสถาบันนอร์ดิกฟิสิกส์เชิงทฤษฎีในปี 1957

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นีลส์ เฮนริก เดวิด นีลส์ บอร์ ( เดนมาร์ก : [ ˈเนลส์ˈโบɐ̯ˀ ] ; 7 ตุลาคม 1885 – 18 พฤศจิกายน 2505 ) เป็นภาษาเดนมาร์ก นักฟิสิกส์ที่ทำให้พื้นฐานการเขียน ความเข้าใจโครงสร้างของอะตอมและทฤษฎีควอนตัม ซึ่งเขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1922 . นีลส์ บอร์ยังเป็นนักปรัชญา และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ [ 1 ]

โบร์พัฒนาแบบจำลองของบอร์ของอะตอมที่เขาเสนอว่าระดับพลังงานของอิเล็กตรอนเดี่ยวและอิเล็กตรอนโคจรรอบนิวเคลียสอยู่ในที่มั่นคง อะตอม แต่สามารถกระโดดจากระดับพลังงาน ( โคจร ) ไปอีก แม้ว่ารูปแบบโบร์ได้ถูกแทนที่โดยรุ่นอื่น ๆของหลักการพื้นฐานยังคงถูกต้อง เขารู้สึกหลักการของข้อมูล :รายการที่สามารถแยกวิเคราะห์ในแง่ของคุณสมบัติเชิง ชอบทำตัวเป็นคลื่น หรือกระแสของอนุภาค แนวคิดของการส่งเสริมการปกครอง บอร์คิดทั้งในวิทยาศาสตร์และปรัชญา

โบร์ก่อตั้งสถาบันทฤษฎีฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน , ที่รู้จักกันในขณะนี้เป็นสถาบันนีลส์ โบร์ ซึ่งเปิดในปี 1920โบร์ mentored และร่วมมือกับนักฟิสิกส์รวมทั้งฮันส์ kramers ออสก้า ไคลน์ จอร์จ เดอ hevesy และเวอร์เนอร์ ไฮเซนเบิร์ก เขาทำนายการดำรงอยู่ของเซอร์โคเนียมใหม่เช่นองค์ประกอบซึ่งเป็นชื่อด.ญ. ตามชื่อภาษาละตินสำหรับโคเปนเฮเกน ซึ่งมันถูกค้นพบ ต่อมา องค์ประกอบโบห์เรียมเป็นชื่อหลังจากเขา .

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 , โบร์ช่วยผู้ลี้ภัยจากลัทธินาซีหลังจากเดนมาร์กถูกครอบครองโดยชาวเยอรมัน เขามีประชุมที่มีชื่อเสียงกับไฮเซนเบิร์ก , ที่ได้กลายเป็นหัวของเยอรมันโครงการพลังงานนิวเคลียร์ ในกันยายน 2486 , คำถึงโบร์ที่เขาถูกจับโดยชาวเยอรมัน เขาหนีไปสวีเดน จากนั้น เขาได้บินไปอังกฤษ ที่ซึ่งเขาได้เข้าร่วมอังกฤษท่อโลหะผสมอาวุธนิวเคลียร์โครงการและเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่อังกฤษในโครงการแมนฮัตตัน หลังจากที่สงครามโบร์เรียกว่าให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านพลังงาน เขาเกี่ยวข้องกับการก่อตั้งเซิร์น [ 2 ] และการวิจัยก่อตั้งขึ้นใน RIS เดนมาร์กคณะกรรมการพลังงานปรมาณู และเป็นประธานคนแรกของสถาบันสำหรับฟิสิกส์ทฤษฎีชาวยุโรปในปี 1957 .