One of the goals in the present stu

One of the goals in the present study was to examine the relationship between perceived stress and high fat eating
behaviors in a sample of African Americans. This question was partially supported. Consistent with evidence showing
that self-reported stress is associated with a shift toward unhealthy dietary practices (Cartwright et al., 2003), greater
perceived stress was associated with unhealthy eating behaviors among participants with regards to emotional eating
and haphazard planning.
Conceivably, participants in our study cope with the negative emotions generated by stressful life events by
engaging in “emotional eating” (Macht & Simons, 2000). Emotional eating involves the consumption of foods that are
high in sugar and fat. Researchers report that these highly palatable foods, called “comfort foods,” eliminate or reduce
the intensity of negative emotional states (Bjorntorp, 2001; Dallman et al., 2003). The consumption of comfort foods
may lead to a more positive dispositional state for several reasons including increased sensory pleasure, the reduction
of hunger, and the diminution of aversive physiological symptoms (Gibson, 2006). The latter depends on the
psychological disposition of the individual.
The association between perceived stress and haphazard planning of meals suggests that, during stressful periods,
individuals are less likely to plan their meals carefully. Consequently, they are more likely to indulge in those foods that
are characteristically high in fat.
Gender differences emerged and suggest that females in the sample experience a greater degree of perceived stress
than their male counterparts. Future research might explore the differential stressors between African American males
and females and how within-group differences affect eating behaviors. Females, in addition, are more likely to engage
in cultural/lifestyle eating and snacking on sweets. Cultural/lifestyle eating refers to eating that is characteristic of
African American culture, such as large meals on Sunday or preparing meals which always consist of a meat and a
starch. Items in the cultural/lifestyle eating domain of the EBPQ acknowledge that eating behavior is shaped by
sociocultural factors. It is worth exploring whether African American females were more likely to endorse these items
because they are more likely to be the preparers of these culturally-defined meals. Furthermore, the issue of snacking on
sweets should be explored in relation to African American females.
The second goal of the study was to determine whether the relationship between perceived stress and high fat eating
behaviors is stronger among overweight participants in the sample. This question was also partially supported. Among
participants in the subsample who were categorized as overweight or obese, emotional eating and haphazard planning
were more related to perceived stress than in the entire sample. We would expect individuals with greater weight to
have engaged in more high fat eating behaviors, and as further support, the overweight subsample showed a significant
relationship between perceived stress and snacking on sweets that did not exist for the entire sample. Apparent here is
the notion that when individuals are stressed they will display less healthy eating patterns, but if they are overweight or
obese, this effect will be stronger.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป้าหมายในการศึกษาปัจจุบันอย่างใดอย่างหนึ่งคือการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและการรับประทานอาหารไขมันสูงลักษณะการทำงานในตัวอย่างของชาวอเมริกันแอฟริกัน คำถามนี้บางส่วนได้รับการสนับสนุน สอดคล้องกับหลักฐานที่ตนเองรายงานความเครียดไม่เกี่ยวข้องกับกะไปปฏิบัติอาหารไม่แข็งแรง (คาร์ตไรต์และ al., 2003), มากกว่าความเครียดการรับรู้ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่แข็งแรงระหว่างผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับการกินอารมณ์และวางแผน haphazardดักรอ ผู้เข้าร่วมในการศึกษาของเรารับมือกับอารมณ์ลบที่สร้างขึ้น โดยเหตุการณ์ชีวิตเครียดโดยใน "กินอารมณ์" (Macht และ Simons, 2000) รับประทานอาหารทางอารมณ์เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รายงานวิจัยที่นี้อาหารอร่อยมาก เรียกว่า "สบายอาหาร กำจัด หรือลดความเข้มของอารมณ์ลบอเมริกา (Bjorntorp, 2001 Dallman และ al., 2003) การบริโภคอาหารจึงอาจนำไปสู่รัฐโอนการครอบครองเป็นบวกมากขึ้นจากหลายสาเหตุรวมทั้งเพิ่มความสุขทางประสาทสัมผัส การลดหิว และจากการพร่องของอาการสรีรวิทยา aversive (กิบสัน 2006) หลังขึ้นอยู่กับการครอบครองจิตใจของบุคคลความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและการวางแผนอาหาร haphazard แนะนำที่ ช่วงเครียดบุคคลมีแนวโน้มการวางแผนการรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง ดังนั้น มีแนวโน้มที่จะเพลิดเพลินไปกับอาหารเหล่านั้นที่มี characteristically สูงไขมันเพศความแตกต่างเกิด และแนะนำว่า หญิงในตัวอย่างประสบการณ์การรับรู้ความเครียดในระดับมากกว่าคู่ชายของพวกเขา งานวิจัยในอนาคตอาจได้ลดส่วนที่แตกต่างระหว่างชายแอฟริกันอเมริกันและฉันและความแตกต่างอย่างไรภายในกลุ่มมีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หญิง นอกจากนี้ มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในวัฒนธรรม/วิถีชีวิตรับประทานอาหาร และอาหารว่างบนขนม วัฒนธรรม/วิถีชีวิตกินถึงกินนั่นคือลักษณะของวัฒนธรรมแอฟริกันอเมริกัน เช่นมื้อใหญ่ในวันอาทิตย์หรือเตรียมอาหารซึ่งมักจะประกอบด้วยเนื้อความและแป้ง ในวัฒนธรรม/วิถีชีวิตกินโดเมน EBPQ ยอมรับว่า พฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นรูปโดยปัจจัย sociocultural มันเที่ยวว่า หญิงชาวอเมริกันแอฟริกันมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนสินค้าเหล่านี้เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้จัดเตรียมอาหารเหล่านี้กำหนดวัฒนธรรม นอกจากนี้ ปัญหาของอาหารว่างในขนมควรสำรวจเกี่ยวกับหญิงชาวอเมริกันแอฟริกันเป้าหมายที่สองของการศึกษาคือการ กำหนดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและการรับประทานอาหารไขมันสูงลักษณะการทำงานมีความปลอดภัยระหว่างภาวะร่วมจากตัวอย่าง คำถามนี้บางส่วนยังได้รับการสนับสนุน ระหว่างผู้เข้าร่วมในการ subsample ที่ถูกแบ่งเป็นน้ำหนักเกิน หรืออ้วน อารมณ์กิน haphazard วางแผน และเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเครียดกว่าในตัวอย่างทั้งหมด เราคาดหวังว่าบุคคลที่ มีน้ำหนักมากขึ้นมีหมั้นในไขมันสูงมากขึ้นพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และที่เพิ่มเติม สนับสนุน subsample ภาวะแสดงให้เห็นความสำคัญความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและอาหารว่างบนขนมที่ไม่มีอยู่สำหรับตัวอย่างทั้งหมด ปรากฏที่นี่รูปแบบแนวคิดที่ว่า บุคคลจะเน้นพวกเขาจะแสดงน้อยลงรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ถ้าพวกเขามีน้ำหนักมากกว่าปกติ หรืออ้วน ลักษณะพิเศษนี้จะแข็งแกร่งขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการรับรู้การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
พฤติกรรมในกลุ่มตัวอย่างของแอฟริกันอเมริกัน คำถามนี้ได้รับการสนับสนุนบางส่วน สอดคล้องกับหลักฐานที่แสดงให้เห็น
ว่าความเครียดตนเองรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่การปฏิบัติที่ไม่แข็งแรงอาหาร (เกวียน et al., 2003) มากขึ้น
การรับรู้ความเครียดมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่แข็งแรงในหมู่ผู้เข้าร่วมที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหารอารมณ์
และการวางแผนการสุ่ม
กลัวผู้เข้าร่วม ในการศึกษาของเรารับมือกับอารมณ์เชิงลบที่เกิดจากกิจกรรมในชีวิตเครียดโดยการ
มีส่วนร่วมใน "การรับประทานอาหารอารมณ์" (Macht และไซมอนส์, 2000) การรับประทานอาหารอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่มี
น้ำตาลสูงและไขมัน นักวิจัยรายงานว่าอาหารอร่อยมากเหล่านี้เรียกว่า "อาหารที่สะดวกสบาย" ขจัดหรือลด
ความรุนแรงของอารมณ์เชิงลบ (Bjorntorp 2001. ท้อ et al, 2003) การบริโภคอาหารที่สะดวกสบาย
อาจนำไปสู่รัฐ dispositional บวกมากขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการรวมทั้งเพิ่มความสุขทางประสาทสัมผัส, การลดลง
ของความหิวและการลดลงของอาการทางสรีรวิทยา aversive (กิบสัน, 2006) หลังขึ้นอยู่กับ
การจัดการทางด้านจิตใจของแต่ละบุคคล
ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและการวางแผนการสุ่มของอาหารแสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาที่เครียด
บุคคลที่มีโอกาสน้อยในการวางแผนอาหารของพวกเขาอย่างระมัดระวัง ดังนั้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะหลงระเริงในอาหารที่
มีความสูงลักษณะไขมัน
แตกต่างระหว่างเพศโผล่ออกมาและแนะนำว่าผู้หญิงในประสบการณ์ของกลุ่มตัวอย่างที่ระดับสูงของการรับรู้ความเครียด
มากกว่าชายของพวกเขา การวิจัยในอนาคตอาจสำรวจความเครียดที่แตกต่างกันระหว่างเพศชายแอฟริกันอเมริกัน
และหญิงและวิธีการในกลุ่มที่แตกต่างกันมีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร หญิงในนอกจากนี้มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วม
ในวัฒนธรรม / วิถีชีวิตและการกินอาหารว่างขนม วัฒนธรรมการกิน / การดำเนินชีวิตหมายถึงการรับประทานอาหารที่เป็นลักษณะของ
วัฒนธรรมอเมริกันแอฟริกันเช่นมื้อใหญ่ในวันอาทิตย์หรือเตรียมอาหารซึ่งมักจะประกอบด้วยเนื้อสัตว์และ
แป้ง รายการในวัฒนธรรม / วิถีชีวิตการกินโดเมนของ EBPQ ยอมรับว่าพฤติกรรมการกินเป็นรูปโดย
ปัจจัยทางสังคมวัฒนธรรม มันเป็นมูลค่าการสำรวจไม่ว่าจะเป็นหญิงอเมริกันแอฟริกันมีแนวโน้มที่จะรับรองรายการเหล่านี้
เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะจัดทำอาหารวัฒนธรรมที่กำหนดไว้เหล่านี้ นอกจากนี้ปัญหาของอาหารว่าง
ขนมควรได้รับการสำรวจในความสัมพันธ์กับหญิงอเมริกันแอฟริกัน
เป้าหมายที่สองของการศึกษาคือการตรวจสอบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการรับรู้ที่มีไขมันสูงรับประทานอาหารที่
พฤติกรรมจะแข็งแกร่งในหมู่ผู้เข้าร่วมที่มีน้ำหนักเกินในกลุ่มตัวอย่าง คำถามนี้ยังได้รับการสนับสนุนบางส่วน ในบรรดา
ผู้เข้าร่วมใน subsample ที่ถูกแบ่งเป็นน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนการรับประทานอาหารอารมณ์และการวางแผนการสุ่ม
ที่เกี่ยวข้องมากขึ้นในการรับรู้ความเครียดกว่าในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เราคาดว่าจะได้บุคคลที่มีน้ำหนักมากขึ้นในการ
มีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่มีไขมันสูงรับประทานอาหารที่มากขึ้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม subsample น้ำหนักเกินแสดงให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญ
ความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและการรับรู้เกี่ยวกับขนมอาหารว่างที่ไม่ได้มีอยู่สำหรับตัวอย่างทั้งหมด เห็นได้ชัดก็คือ
ความคิดที่ว่าเมื่อบุคคลจะเน้นที่พวกเขาจะแสดงรูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพน้อย แต่ถ้าพวกเขามีน้ำหนักเกินหรือ
เป็นโรคอ้วนผลกระทบนี้จะแข็งแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในเป้าหมายในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างการรับรู้ความเครียดและพฤติกรรมในการรับประทานอาหารไขมันสูง
ตัวอย่างของแอฟริกาอเมริกัน คำถามนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น สอดคล้องกับหลักฐานแสดง
ที่ self-reported ความเครียดเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงต่อการปฏิบัติอาหาร unhealthy ( Cartwright et al . , 2003 ) มากขึ้น
การรับรู้ความเครียดมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักในหมู่ผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอารมณ์และการวางแผนจับจด
.
เข้ามา มีส่วนร่วมในการรับมือกับอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ในชีวิตที่เคร่งเครียด โดย
มีส่วนร่วมใน " กินอารมณ์ " ( macht & Simons , 2000 ) กินอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่
สูงในน้ำตาลและไขมัน .นักวิจัยรายงานว่า อาหารเหล่านี้อย่างแซบ เรียกว่า " อาหารความสะดวกสบาย " ขจัดหรือลดความเข้มของรัฐ
อารมณ์ทางลบ ( bjorntorp , 2001 ; ดาลแมน et al . , 2003 ) การบริโภคอาหารความสะดวกสบาย
อาจนำไปสู่การเป็นบวกมากขึ้น dispositional รัฐสำหรับหลายเหตุผลรวมทั้งความสุขทางประสาทสัมผัสเพิ่มขึ้น ลด
ของความหิวและลดลงของอาการทางสรีรวิทยา aversive ( Gibson , 2006 ) หลังขึ้นอยู่กับ
นิสัยทางจิตวิทยาของบุคคล ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียด
และการวางแผนจับจดของอาหารพบว่า ในช่วงที่เคร่งเครียด
บุคคลมีโอกาสน้อยที่จะวางแผนอาหารของพวกเขาอย่างระมัดระวัง จึง , พวกเขามีแนวโน้มที่จะหลงระเริงในอาหารเหล่านั้นที่
มีลักษณะสูงในไขมัน
ความแตกต่างทางเพศ เกิดขึ้นและแนะนำว่า ผู้หญิงในประสบการณ์ตัวอย่างมากกว่าระดับของการรับรู้ความเครียด
กว่า counterparts ชายของพวกเขา การวิจัยในอนาคตอาจสำรวจค่าความเครียดระหว่างชาวอเมริกันเพศชายและเพศหญิงและวิธีการแตกต่าง
ภายในกลุ่มมีผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพศหญิง นอกจากนี้มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วม
ในวัฒนธรรม / วิถีชีวิตการรับประทานอาหารและการกินขนม วัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตการกิน กิน ที่เป็นลักษณะเฉพาะของ
วัฒนธรรมแอฟริกัน - อเมริกัน เช่น อาหารขนาดใหญ่ในวันอาทิตย์ หรือเตรียมอาหารที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์และ
แป้ง รายการในวิถีชีวิตวัฒนธรรม กินอาณาเขตของ ebpq ยอมรับว่าพฤติกรรมการกินเป็นรูปโดย
ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม .มันน่าท่องว่า หญิงอเมริกันแอฟริกันมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนรายการเหล่านี้
เพราะพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็น preparers เหล่านี้กำหนดวัฒนธรรมอาหาร นอกจากนี้ ปัญหาของการกิน
ขนมควรสํารวจในความสัมพันธ์กับหญิงอเมริกันแอฟริกัน
เป้าหมายที่สองของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและการรับประทานอาหารไขมันสูง
พฤติกรรมแข็งแกร่งในหมู่ผู้เข้าร่วมที่มีน้ำหนักเกินในตัวอย่าง คำถามนี้คือบางส่วนยังได้รับการสนับสนุน ระหว่าง
ผู้เข้าร่วมใน subsample ที่จำแนกเป็นน้ำหนักเกินหรืออ้วน การรับประทานอาหารอารมณ์และ
การวางแผนจับจดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเครียดกว่าในตัวอย่างทั้งหมด เราคาดหวังว่าบุคคลที่มีน้ำหนักมากกว่า

มีหมั้นในสูงไขมันมากขึ้น พฤติกรรมการรับประทานอาหาร และเป็นการสนับสนุนเพิ่มเติม subsample อ้วน พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียด
และ snacking บนขนมที่ไม่ได้มีอยู่ในตัวอย่างทั้งหมด แจ้งที่นี่
ความคิดที่ว่า เมื่อบุคคลกำลังตรึงเครียด พวกเขาจะแสดงน้อยกว่าการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพรูปแบบ แต่ถ้าพวกเขามีน้ำหนักเกินหรือ
ตุ๊ ผลกระทบนี้จะแข็งแกร่งขึ้น