There are three versions of taxonom

There are three versions of taxonomy theory, which are normative, descriptive, and instrumental (Donaldson and
Preston 1995, Khrisnan). According to Jones and Wicks (1999, in Krishnan) stakeholder theory will thrive in
instrumental version. Instrumental version theory stated that every action and decision of a manager will result in
certain effect (Donaldson and Preston 1995, Khrisnan). Instrumental version of stakeholder theory stated that manager
must consider stakeholder’s interest as a tool or a way to attain company’s goals (Philips, Freeman, Wicks 2003,
Krishnan). Therefore it can be concluded that according to instrumental version of stakeholder theory, the company’s
decisions making that corresponds with stakeholder’s interest will support the attainment of company’s goals. This
idea is also in accordance with Jensen’s opinion (2002) that stakeholder theory is consistent with value maximization
concept, considering that value maximization concept demands managers to pay attention to all constituencies that
can affect the firm. This maximization leads company to social welfare maximization, taking into account that value
creation can only be done if the company has good relations with customers, employees, suppliers, communities,
regulators, and many more (Jensen, 2002

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีสามรุ่นของทฤษฎีอนุกรมวิธานซึ่งเป็นกฎเกณฑ์บรรยายและมีประโยชน์
(โดนัลด์และเพรสตันปี1995 Khrisnan) ตามที่โจนส์และสาดแสง (1999 ในกฤษณะ)
ทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสียจะเจริญเติบโตในอุปกรณ์รุ่น ทฤษฎีอุปกรณ์รุ่นที่ระบุไว้ว่าการกระทำและการตัดสินใจของผู้จัดการทุกคนจะส่งผลให้เกิดผลบางอย่าง (โดนัลด์เพรสตันและปี 1995 Khrisnan)
รุ่นเครื่องมือของผู้มีส่วนได้เสียทฤษฎีระบุว่าผู้จัดการจะต้องพิจารณาที่น่าสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะที่เป็นเครื่องมือหรือวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายของ บริษัท (ฟิลิปส์ฟรีแมนสาดแสง 2003 กฤษณะ) ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าตามรุ่นเครื่องมือของทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสียของ บริษัท ฯตัดสินใจทำที่สอดคล้องกับผู้มีส่วนได้เสียที่มีความสนใจที่จะให้การสนับสนุนความสำเร็จของเป้าหมายของ บริษัท ฯ ซึ่งความคิดนี้ยังสอดคล้องกับความเห็นของเซ่น (2002) ทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสียที่สอดคล้องกับมูลค่าสูงสุดแนวคิดพิจารณาว่าค่าสูงสุดแนวคิดความต้องการของผู้บริหารให้ความสนใจกับการเลือกตั้งที่จะมีผลต่อบริษัท สูงสุดนี้นำไปสู่ ​​บริษัทที่จะสูงสุดสวัสดิการสังคมโดยคำนึงถึงว่าค่าการสร้างสามารถทำได้ในกรณีที่ บริษัท มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าพนักงานคู่ค้าชุมชนหน่วยงานกำกับดูแลและอื่นๆ อีกมากมาย (เซ่น 2002

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีสามรุ่นของทฤษฎีอนุกรมวิธานซึ่งเป็นบรรทัดฐาน , บรรยาย , โดย ( โดนัลด์และ
เพรสตัน 1995 khrisnan ) ตาม โจนส์ และ สารประกอบ ( 1999 , krishnan ) ทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสียจะเจริญใน
รุ่นเครื่องมือ ทฤษฎีเวอร์ชั่นบรรเลง ระบุว่า ทุกการกระทำและการตัดสินใจของผู้จัดการจะส่งผล
บางผล ( Donaldson กับเพรสตัน 1995 khrisnan )เวอร์ชั่นบรรเลงทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสีย กล่าวว่า ต้องพิจารณาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผู้จัดการ
เป็นเครื่องมือหรือวิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัท ( Philips , ฟรีแมน , สารประกอบ 2003
krishnan ) ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า ตามรุ่นของเครื่องมือทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท
การตัดสินใจ ที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะสนับสนุนความสำเร็จของเป้าหมายของบริษัท ความคิดนี้
ยังสอดคล้องกับเจนเซ่นความคิดเห็น ( 2002 ) ที่สอดคล้องกับแนวคิดทฤษฎีผู้มีส่วนได้เสีย (
คุณค่า พิจารณาว่าแนวคิดมูลค่าสูงสุดความต้องการผู้จัดการที่จะให้ความสนใจกับทุกองค์กรที่
สามารถส่งผลกระทบต่อบริษัทสูงสุดนี้ทำให้บริษัทมีสวัสดิการ พิจารณาว่า การสร้างคุณค่า
ได้แต่ถ้าบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พนักงาน ซัพพลายเออร์ , ชุมชน ,
เร็คกูเลเตอร์ และอีกมากมาย ( เจนเซ่น ปี 2545