regression lines showed that the es

regression lines showed that the essential oil of crabgrass
inhibited the shoot biomass allocation more prominently
than did that of wild oat (Fig. 2).
When wheat was exposed to the essential oils of wild
oat and crabgrass, the production of the allelochemical,
DIMBOA, was altered (Fig. 3). Both weeds’ essential oil
led to a great increase in the DIMBOA concentration in
the wheat seedlings in a time-dependent manner. The
largest increase was observed at the early incubation time
and then it declined. The DIMBOA concentration of
wheat that was exposed to the essential oils reached a
maximum of 0.49 mg g-1 (crabgrass) and 0.48 mg g-1
(wild oat) after 2 h of incubation. In addition, the wild
oat essential oil led to a greater DIMBOA concentration
than did the crabgrass essential oil after 2 h of incubation
(Fig. 3).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เส้นถดถอยพบว่าน้ำมันหอมระเหยของ crabgrassยับยั้งการปันส่วนของชีวมวลยิงอย่างเด่นชัดมากขึ้นกว่าที่ข้าวโอ๊ตป่า (2 รูป)เมื่อข้าวสาลีถูกสัมผัสกับน้ำมันของป่าข้าวโอ๊ตและ crabgrass, allelochemical การผลิตDIMBOA แก้ไขเปลี่ยนแปลง (รูป 3) ของวัชพืชทั้งน้ำมันนำไปสู่การเพิ่มขึ้นมากในความเข้มข้นของ DIMBOA ในต้นกล้าข้าวสาลีในลักษณะขึ้นอยู่กับเวลา การพบว่า เพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในช่วงเวลาบ่มแล้ว ก็ปฏิเสธ ความเข้มข้นของ DIMBOAถึงข้าวสาลีที่ถูกเปิดเผยเพื่อระเหยตัวg-1 0.49 มิลลิกรัม (crabgrass) และ g-1 0.48 มิลลิกรัม(wild oat) หลังจาก 2 ชม.ของการกกไข่ นอกจากนี้ ป่าข้าวโอ๊ตน้ำมันหอมระเหยที่นำไปสู่ความเข้มข้นของ DIMBOA มากขึ้นกว่า crabgrass น้ำมันหลังจาก 2 ชม.ของการกกไข่(3 รูป)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สายการถดถอยพบว่าน้ำมันหอมระเหยจาก crabgrass
ยับยั้งการจัดสรรยิงชีวมวลมากขึ้นอย่างเด่นชัด
กว่าไม่ว่าข้าวโอ๊ตป่า (รูปที่. 2).
เมื่อข้าวสาลีได้รับการสัมผัสกับน้ำมันหอมระเหยจากป่า
ข้าวโอ๊ตและ crabgrass ผลิต allelochemical ที่
DIMBOA, มีการเปลี่ยนแปลง (รูปที่. 3) น้ำมันหอมระเหยทั้งวัชพืช '
นำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากในความเข้มข้น DIMBOA ใน
ต้นกล้าข้าวสาลีในลักษณะที่ขึ้นกับเวลา
เพิ่มขึ้นมากที่สุดพบว่าในช่วงเวลาการบ่มต้น
และจากนั้นก็ลดลง ความเข้มข้น DIMBOA ของ
ข้าวสาลีที่ได้สัมผัสกับน้ำมันหอมระเหยถึง
สูงสุด 0.49 มก. G-1 (crabgrass) และ 0.48 มิลลิกรัม G-1
(ข้าวโอ๊ตป่า) หลังจาก 2 ชั่วโมงของการบ่ม นอกจากนี้ป่า
น้ำมันหอมระเหยข้าวโอ๊ตนำไปสู่การมีความเข้มข้นมากขึ้น DIMBOA
กว่าน้ำมันหอมระเหย crabgrass หลังจาก 2 ชั่วโมงของการบ่ม
(รูปที่. 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เชิงเส้น พบว่าน้ำมันระเหยของล้มเหลวที่สุดยับยั้งการยิงมวลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกว่าที่ป่าของโอ๊ต ( รูปที่ 2 )เมื่อข้าวสาลีถูกน้ำมันหอมระเหยของป่าข้าวโอ๊ตและล้มเหลวที่สุด การผลิตทางอัลลิโลพาธีของ ,dimboa ถูกเปลี่ยนแปลง ( รูปที่ 3 ) ทั้งวัชพืช " น้ำมันหอมระเหยนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมากใน dimboa ความเข้มข้นในข้าวสาลีที่ปลูกในลักษณะเชิงเวลา . ที่ที่ใหญ่ที่สุดพบในเวลาการบ่มเพิ่มก่อนแล้วมันไม่ผ่านครับ การ dimboa ความเข้มข้นของข้าวสาลีที่ถูกน้ำมันหอมระเหยถึงสูงสุดที่ 0.49 มิลลิกรัม G-1 ( ล้มเหลวที่สุด ) และ 0.48 มิลลิกรัม G-1( ป่าโอ๊ต ) หลังจาก 2 ชั่วโมงของการบ่ม นอกจากนี้ ป่าโอ๊ตน้ำมันหอมระเหยทำให้ความเข้มข้น dimboa มากกว่ากว่าที่ล้มเหลวที่สุด หลังจาก 2 ชั่วโมง บ่มน้ํามันหอมระเหย( รูปที่ 3 )