A large number of essential oils is

A large number of essential oils is reported to have significant activity against Candida albicans. But the different chemical composition influences the degree of their activity. The intention of this study was to investigate the chemical composition and the activity against Candida albicans of volatile oils obtained from Artemisia dracunculus, A. abrotanum, A. absinthium and A. vulgaris (Asteraceae). The aim of the study was to identify new chemical compounds that have effect against C. albicans.

The essential oils were obtained by hydrodistillation or extraction with dichloromethane (a new procedure we developed trying to obtain better, more separated compounds) from air dried above ground plant material and analyzed by GC-MS. Additionally commercial essential oils from the same species were tested. The Candida albicans inhibition studies were carried out by the paper disc diffusion method.

Results
The essential oils shared common components but presented differences in composition and showed variable antifungal activity. Davanone and derivatives thereof, compounds with silphiperfolane skeleton, estragole, davanone oil, β-thujone, sabinyl acetate, herniarin, cis-chrysanthenyl acetate, 1,8-cineol, and terpineol were the main components of Artemisia volatiles.

Conclusions
Among the volatile fractions tested those from A. abrotanum containing davanone or silphiperfolane derivatives showed the highest antifungal activity. The in vitro tests revealed that the Artemisia oils are promising candidates for further research to develop novel anti-candida drugs.

Keywords: Artemisia; Essential oils; GC-MS; Antifungal activity; Candida albicans
Background
The genus Artemisia belongs to one of the largest and most widely distributed genera of the family Asteraceae (Compositae). It is a diverse and economically important genus and it has more than 500 species. Most plants within this genus have a great importance as medication, foodstuff, ornamentals or soil stabilizers, some are allergenic or toxic, and some are weeds growing in the fields [1-4].

Antimycotic activity of A. absinthium against Candida albicans was reported in several in vitro studies [5,6] however, there are also investigations that found no such activity [7-10].

The conditions that may separate these studies are the plant preparations put under investigation. The highest percentage of successful antifungal activity of Artemisia plants was obtained with essential oils; raw extracts generally showed less activity [5-10].

More information on the potential antifungal activity of Artemisia plants could stimulate research leading to their possible future use in the clinical treatment of candidiasis as natural antimycotic agents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมันหอมระเหยเป็นจำนวนมากมีรายงานมีกิจกรรมสำคัญกับ Candida albicans แต่องค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกันมีผลต่อระดับของกิจกรรมของพวกเขา ความมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีและกิจกรรมกับ Candida albicans ของน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับจาก Artemisia dracunculus, A. abrotanum, A. absinthium และอ. vulgaris (Asteraceae) จุดมุ่งหมายของการศึกษาเพื่อ ระบุสารเคมีใหม่ที่มีผลกับ C. albicans ได้น้ำมันได้รับ โดย hydrodistillation หรือสกัด ด้วย dichloromethane (กระบวนงานใหม่เราพัฒนาพยายามที่จะได้รับดีขึ้น เพิ่มเติมแยกสารประกอบ) จากอากาศแห้งเหนือวัสดุพื้นโรงงาน และวิเคราะห์ ด้วย GC-คุณนอกจากนี้ทดสอบค้าน้ำมันหอมระเหยจากชนิดเดียวกัน Candida albicans ยับยั้งการศึกษาได้ดำเนินการ โดยวิธีแพร่ดิสก์กระดาษผลลัพธ์น้ำมันหอมระเหยส่วนประกอบทั่วไปที่ใช้ร่วมกัน แต่แสดงความแตกต่างในองค์ประกอบ และพบว่าตัวแปรกิจกรรมต้านเชื้อรา Davanone และอนุพันธ์ดังกล่าว สารประกอบโครงกระดูก silphiperfolane, estragole, davanone น้ำมัน β-thujone, sabinyl acetate, herniarin, cis chrysanthenyl acetate, cineol 1, 8 และ terpineol มีส่วนประกอบหลักของ Artemisia volatilesบทสรุประหว่างส่วนระเหยทดสอบจากอ. abrotanum ประกอบด้วยตราสารอนุพันธ์ davanone หรือ silphiperfolane พบกิจกรรมต้านเชื้อราสูงสุด การทดสอบในการเปิดเผยน้ำมัน Artemisia ผู้สมัครสัญญาสำหรับการวิจัยพัฒนายาต่อต้านโรคนวนิยายคำสำคัญ: Artemisia น้ำมันหอมระเหย GC-MS กิจกรรมต้านเชื้อรา Candida albicansพื้นหลังสกุล Artemisia เป็นสกุลที่ใหญ่ที่สุด และจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายของครอบครัว Asteraceae (Compositae) อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสกุลที่หลากหลาย และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ และมีมากกว่า 500 ชนิด ส่วนใหญ่พืชในสกุลนี้มีความสำคัญมากเป็นยา อาหาร ornamentals หรือดิน stabilizers มีแพ้ หรือเป็นพิษ และมีวัชพืชที่เจริญเติบโตในฟิลด์ [1-4]กิจกรรม antimycotic ของอ. absinthium กับ Candida albicans มีรายงานศึกษาการเพาะเลี้ยงหลาย [5,6] อย่างไรก็ตาม ยังมีการตรวจสอบที่ไม่มีกิจกรรมดังกล่าว [7-10]เงื่อนไขที่อาจแยกศึกษาเหล่านี้จะใส่เตรียมพืชภายใต้การตรวจสอบ เปอร์เซ็นต์สูงสุดของกิจกรรมสำเร็จต้านเชื้อราของพืช Artemisia กล่าวกับน้ำมัน สารสกัดจากวัตถุดิบโดยทั่วไปพบว่ากิจกรรมน้อย [5-10]ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต้านเชื้อราเป็นพืช Artemisia สามารถกระตุ้นการวิจัยนำไปใช้ในอนาคตเป็นไปได้ในการรักษาทางคลินิกของ candidiasis เป็นตัวแทน antimycotic ธรรมชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำนวนมากของน้ำมันหอมระเหยที่มีรายงานว่าจะมีกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเชื้อ Candida albicans แต่องค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันมีผลต่อระดับของกิจกรรมของพวกเขา ความตั้งใจในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้านเชื้อ Candida albicans ของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก Artemisia Dracunculus, abrotanum A. , A. absinthium และ A. vulgaris (แอสเทอ) จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือการระบุสารเคมีใหม่ที่มีผลกระทบกับ C. albicans. น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากการต้มกลั่นหรือการสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน (ขั้นตอนใหม่ที่เราพยายามที่จะพัฒนาให้ได้ดีกว่าสารแยกขึ้นไป) จากอากาศแห้งเหนือพื้นดิน วัสดุปลูกและวิเคราะห์โดย GC-MS นอกจากนี้น้ำมันหอมระเหยเชิงพาณิชย์จากสายพันธุ์เดียวกันได้มีการทดสอบ Candida albicans การศึกษาการยับยั้งได้ดำเนินการโดยวิธีการแพร่กระจายแผ่นกระดาษ. ผลการค้นหาน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ร่วมกันส่วนประกอบทั่วไป แต่นำเสนอความแตกต่างในองค์ประกอบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อราตัวแปร Davanone และอนุพันธ์ดังกล่าวสารประกอบที่มีโครงกระดูก silphiperfolane, estragole น้ำมัน davanone, β-thujone, อะซิเตท sabinyl, herniarin, อะซิเตท CIS-chrysanthenyl, 1,8-cineol และ Terpineol เป็นส่วนประกอบหลักของสารระเหย Artemisia. สรุปผลการวิจัยในหมู่เศษส่วนที่มีความผันผวน ผู้ที่มาจากการทดสอบ A. abrotanum ที่มีอนุพันธ์ davanone หรือ silphiperfolane มีฤทธิ์ต้านเชื้อราสูงสุด การทดสอบในหลอดทดลองพบว่าน้ำมัน Artemisia มีการเลือกที่ดีสำหรับการวิจัยต่อการพัฒนายาต้านเชื้อราแคนดิดานวนิยาย. คำสำคัญ: Artemisia; น้ำมันหอมระเหย; GC-MS; กิจกรรมต้านเชื้อรา; Candida albicans พื้นหลังArtemisia สกุลเป็นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดและมากที่สุดในจำพวกกระจายอย่างกว้างขวางในครอบครัวแอสเทอ (Compositae) มันเป็นประเภทที่มีความหลากหลายและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและมีมากกว่า 500 สายพันธุ์ พืชส่วนใหญ่ที่อยู่ในประเภทนี้มีความสำคัญมากเป็นยา, อาหาร, ประดับหรือความคงตัวของดินบางที่เป็นภูมิแพ้หรือเป็นพิษและบางวัชพืชเจริญเติบโตในทุ่งนา [1-4]. กิจกรรมฆ่าเชื้อราของ A. absinthium กับเชื้อ Candida albicans ได้รับการรายงาน ในหลายการศึกษาในหลอดทดลอง [5,6] แต่ก็ยังมีการตรวจสอบพบว่าไม่มีกิจกรรมดังกล่าว [7-10]. เงื่อนไขที่อาจแยกการศึกษาเหล่านี้มีการเตรียมพืชวางอยู่ภายใต้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เปอร์เซ็นต์สูงสุดของกิจกรรมต้านเชื้อราที่ประสบความสำเร็จของพืช Artemisia ได้ด้วยน้ำมันหอมระเหย; สารสกัดดิบโดยทั่วไปมีฤทธิ์น้อย [5-10]. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต้านเชื้อราที่มีศักยภาพของพืช Artemisia สามารถกระตุ้นให้เกิดการวิจัยที่นำไปใช้งานในอนาคตของพวกเขาเป็นไปได้ในการรักษาทางคลินิกของ candidiasis เป็นสารฆ่าเชื้อราที่เป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวเลขขนาดใหญ่ของน้ำมันหอมระเหยมีรายงานว่ากิจกรรมที่สําคัญกับ Candida albicans . แต่องค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันมีผลต่อระดับของกิจกรรมของพวกเขา จุดประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้าน Candida albicans ของไอระเหยของน้ำมันที่ได้จาก dracunculus อาร์เทมิเซีย อ. abrotanum อ. absinthium และ A .ขิง ( Asteraceae ) จุดมุ่งหมายของการศึกษา เพื่อหาสารเคมีใหม่ที่มีผลกระทบต่อ C . albicans .

น้ำมันหอมระเหยได้โดยวิธีการต้มกลั่นหรือการสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน ( ใหม่ ขั้นตอน เราพัฒนาพยายามที่จะได้รับดีกว่า ยิ่งแยกสารประกอบจากอากาศแห้งเหนือดิน และวิเคราะห์ข้อมูลโดย gc-ms. วัสดุพืชนอกจากนี้การค้าน้ำมันหอมระเหยจากชนิดเดียวกันที่ผลิตได้ Candida albicans และศึกษาโดยวิธีกระดาษแผ่นกระจาย

ผล
น้ำมันหอมระเหยแบ่งปันองค์ประกอบทั่วไป แต่ที่นำเสนอความแตกต่างในองค์ประกอบและพบตัวแปรในกิจกรรม davanone และอนุพันธ์ของมัน ด้วยสาร estragole silphiperfolane , โครงกระดูก ,น้ำมัน davanone บีตา - ทูโจน , sabinyl acetate , herniarin CIS chrysanthenyl acetate , 1,8-cineol และออล เป็นองค์ประกอบหลักของอาร์เทมิเซียสารระเหย .

สรุป
ระหว่างเศษส่วนระเหยทดสอบเหล่านั้นจาก abrotanum ที่มี davanone หรือ silphiperfolane อนุพันธ์แสดงฤทธิ์ต้านราสูงสุดในการทดสอบหลอดทดลอง พบว่ามีผู้สมัครที่สัญญาน้ำมันอาร์เพื่อส่งเสริมการวิจัยพัฒนายาใหม่ต้าน Candida .

คำสำคัญ : การหุงต้ม ; น้ำมันหอมระเหย ; ระยะเวลา ; กิจกรรมของเชื้อรา Candida albicans

; พื้นหลังสกุลอาร์เทมิเซียเป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดและมากที่สุดกระจายสกุลของครอบครัว Asteraceae ( Compositae )มันเป็นสกุลที่หลากหลายและที่สำคัญทางเศรษฐกิจและมีมากกว่า 500 ชนิด พืชในสกุลนี้ส่วนใหญ่จะมีความสำคัญมาก เช่น ยา , อาหาร , ไม้ดอกหรือความคงตัวของดิน บางคนเป็นภูมิแพ้หรือสารพิษ และมีวัชพืชขึ้นในนา [ 1-4 ] .

antimycotic กิจกรรมของ absinthium กับ Candida albicans มีรายงานหลายในหลอดทดลอง [ 5 , 6 ] อย่างไรก็ตามนอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบพบว่าไม่มีกิจกรรมเช่น [ 7 ] .

เงื่อนไขที่อาจแยกการศึกษาเหล่านี้เป็นพืชการเตรียมวางภายใต้การสอบสวน เปอร์เซ็นต์สูงสุดของกิจกรรมในการประสบความสำเร็จของอาร์เทมิเซียพืชได้ด้วยน้ํามันหอมระเหย ; สารสกัดจากวัตถุดิบโดยทั่วไปแสดงกิจกรรมน้อย 5-10 [

]ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมของเชื้อราที่มีศักยภาพของอาร์เทมิเซียพืชสามารถกระตุ้นการวิจัยที่นำไปสู่อนาคตที่เป็นไปได้ของพวกเขาใช้ในการรักษาทางคลินิกของ candidiasis เป็นตัวแทน antimycotic ธรรมชาติ